“…การต่อเติมอาคารใดๆ ที่เพิ่มการรับหนักให้ตัวโครงสร้างอาคาร ย่อมส่งผลให้ความแข็งแรงโดยรวมลดลง หรืออาจส่งผลให้เกิดการวิบัติของอาคารได้ หากทำได้ไม่ดีพอ โดยเฉพาะความสามารถในการต้านทานแผ่นดินไหว โดยวิศวกรโครงสร้างที่รัฐสภามอบหมายมาต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าวตามกฎหมาย ผู้ออกแบบ ขอแจ้งว่าเราไม่สามารถเป็นผู้รับผิดชอบหรือตรวจรับรองการออกแบบของวิศวกรรายอื่นที่อาจทำให้ความสามารถของโครงสร้างเดิมลดประสิทธิภาพลง…”
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ที่รัฐสภา นายชาตรี ลดาลลิตสกุล ศิลปินแห่งชาติ หัวหน้าสถาปนิกโครงการ อาคารรัฐสภาไทย (สัปปายะสภาสถาน) ยื่นหนังสือต่อคณะอนุกรรมาธิการด้านศิลปะสร้างสรรค์ วุฒิสภา เพื่อคัดค้านกรณีรัฐสภาต้องการต่อเติมอาคารรัฐสภา โดยการปิดสระมรกต เพื่อทำห้องสมุดและร้านค้าจากผู้ออกแบบ (สงบ 1051) ภายหลังมีการตั้งงบประมาณของสำนักงานเลขาธิการรัฐสภาเพื่อปรับปรุงรัฐสภา จำนวน 15 โครงการ โดยเฉพาะการถมดินสระมรกต ย้ายห้องสมุด และก่อสร้างอาคารจอดรถ (ใต้ดิน) เพิ่มเติม รวมถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ศาลาแก้วว่า ใช้งานไม่ได้จริง
จากกรณีที่รัฐสภาได้จัดทำงบประมาณที่จะปิดสระมระมรกตเพื่อก่อสร้างเป็นห้องสมุด และร้านค้าเพื่อบริการประชาชน โดยอ้างสาเหตุหลักมาจากปัญหาน้ำรั่วซึมและเกิดปัญหาน้ำเน่ายุงชุมนั้น ผู้ออกแบบขอชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลในการคัดค้านการดำเนินการดังกล่าว ดังนี้
1. กรณีอ้างน้ำเน่าและมียุงชุมนั้น เนื่องจากสระมรกตถูกออกแบบและมีระบบการกรองแบบสระว่ายน้ำ หากรัฐสภามีการดูแลตามปกติวิสัย มีการเปิดระบบให้น้ำไหลเวียนทุกวันตามมาตรฐานทั่วไป ก็ไม่สามารถเกิดยุงได้อย่างแน่นอน และกรณีสระมีการรั่วซึม หากจริงเป็นเรื่องคุณภาพการก่อสร้างควรเป็นความรับผิดชอบของผู้รับเหมาเนื่องจากอยู่ในระยะประกันผลงานและเพิ่งตรวจรับงานมาเพียงไม่นาน รัฐสภาไม่จำเป็นต้องรับเอาปัญหาของผู้รับเหมามาเป็นของตนเอง
@ ชาตรี ลดาลลิตสกุล ศิลปินแห่งชาติ หัวหน้าสถาปิกโครงการ อาคารรัฐสภาไทย (สัปปายะสภาสถาน) @
2. ความคิดที่จะย้ายห้องสมุดลงมาชั้น 1 นั้นไม่สมเหตุสมผล สิ้นเปลืองบประมาณโดยไม่จำเป็น และต้องแลกกับความเสียหายที่ไม่คุ้มค่าอย่างเทียบกันไม่ได้
2.1 ประเด็นความสะดวกของผู้ใช้ (สส., สว., ข้าราชการ, ผู้เกี่ยวข้อง)
ตำแหน่งของห้องสมุดเดิมอยู่ที่ชั้น 9-10 และเชื่อมโยงกับหอจดหมายเหตุที่อยู่ที่ชั้น 8 ผู้ใช้อาคารที่มาจากภายใน (สส., สว., ข้าราชการ) มาจากทุกระดับชั้น เข้าถึงห้องสมุดโดยใช้ลิฟต์ (เหมือนอาคารทั่วไป) จึงไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญในเรื่องเวลาเดินทาง ห้องสมุดเป็นองค์ประกอบของอาคารที่ผู้ใช้เข้าถึง โดยมีจุดประสงค์ชัดเจน ไม่จำเป็นต้องเดินผ่านมองเห็นง่าย
2.2 ประเด็นความสะดวกของประชาชนทั่วไปและนักข่าว
การออกแบบอาคารรัฐสภาเป็นอาคารที่แบ่งแยกพื้นที่รักษาความปลอดภัยภายในกับพื้นที่ภายนอกห้องสมุดตามระบบของสภานั้น เป็นห้องสมุดที่อยู่ภายในพื้นที่รักษาความปลอดภัย (ต้องแลกบัตรเข้าอาคารก่อน) คณะของประชาชนที่เยี่ยมชมรัฐสภา หากต้องการเข้าเยี่ยมชมห้องสมุดต้องนัดหมายก่อนไม่สามารถเดินผ่านแล้วเข้าได้เลย พื้นที่ชั้น 1 เป็นพื้นที่ภายในระบบรักษาความปลอดภัยการย้ายมาชั้น 1 มิได้อำนวยความสะดวกกับคนกลุ่มนี้อย่างมีนัยสำคัญ แต่หากวันหนึ่งรัฐสภามีนโยบายที่เปิดกว้างต้องการให้ประชาชนทั่วไปสามารถใช้ห้องสมุดได้สะดวก (เช่นเดียวกับพิพิธภัณฑ์) ไม่ต้องเข้ามาในพื้นพื้นที่ควบคุมเข้มงวดก็ควรย้ายห้องสมุดไปไว้ภายนอกเช่นเดียวกับพิพิธภัณฑ์ซึ่งอยู่ในชั้น B1 และชั้น 11 ที่ในระบบการออกแบบสามารถเข้าถึงโดยไม่ต้องแลกบัตร, ไม่ต้องเข้าอาคาร
ในกรณีนี้ผู้ออกแบบได้คาดการณ์และเตรียมการไว้แล้ว โดยออกแบบให้ห้องสมุดอยู่ในชั้น 10 สามารถปรับเชื่อมต่อกับพิพิธภัณฑ์ที่ชั้น 11 ซึ่งเป็นพื้นที่ภายนอกได้โดยง่าย ประชาชนจะสามารถใช้ห้องสมุดรัฐสภาได้อย่างเปิดกว้าง โดยไม่ต้องเข้ามาวุ่นวายในอาคารโดยใช้ลิฟต์ภายนอก หากรัฐสภาต้องการ แต่การบริหารงานในปัจจุบันแม้แต่พื้นที่ชั้น 11 ซึ่งแนวคิดในการออกแบบต้องการให้เปิดกว้างให้ประชาชนเข้าถึงได้ ก็ยังไม่มีการอนุญาตให้ขึ้นไป
2.3 เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่จำเป็น และไม่คุ้มค่า
ห้องสมุดรัฐสภาที่ชั้น 9-10 มีพื้นที่ถึง 3,533 ตร.ม. มีการตกแต่งครบถ้วน ใช้งานได้ดี เพิ่งรับมอบงานไม่นาน ยังไม่พ้นระยะประกันผลงาน ใช้งบประมาณไปมากกว่า 100 ล้านบาท ความคิดที่จะย้ายด้วยเหตุผลที่กล่าวอ้างเป็นการสิ้นเปลืองบประมาณโดยใช่เหตุ
3. สระมรกตมีความสำคัญอย่างมากต่ออุณหภูมิภายในโถงกลาง
เนื่องจากอาคารรัฐสภาถูกออกแบบและตั้งเป้าหมายใช้เป็นอาคารประหยัดพลังงานที่เป็นแบบอย่างของชาติ แต่เนื่องจากขนาดที่ใหญ่โต อาคารมีความยาวเกือบครึ่งกิโลเมตร ไม่สามารถติดเครื่องปรับอากาศในทุกส่วนได้ คณะผู้เชี่ยวชาญจึงกำหนดออกแบบให้อาคารเป็นอาคารประหยัดพลังงานแบบปรับเย็นธรรมชาติ (Passive Design) เป็นหลักมากกว่าการเน้นเครื่องจักรกล โดยเน้นออกแบโถงกลางนี้เป็นโถงสูงล้อมรอบแทรกตัวคอร์ดดันไม้ อาคารถูกเจาะให้มีลักษณะโปร่ง
สระมรกตถูกออกแบบให้เป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญที่สุดของการปรับเย็นโดยธรรมชาติ เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น อากาศร้อนจะลอยขึ้นสูง และไหลผ่านระบายออกไปตามช่องเปิดด้านบนตามหลัก Stack Ventilation โดยจะได้รับกายเทความเย็นและความชื้นจากสระด้านล่าง ซึ่งท่านจะสังเกตด้วยได้ว่า ไม่ว่าอุณหภูมิภายนอกจะร้อนแค่ไหนบริเวณกลางอาคารจะยังมีความเย็นสบาย มีสภาวะน่าสบายอยู่ได้ การเอาน้ำออกจากสระแห่งนี้เป็นการทำลายคุณภาพอากาศภายในอาคาร ทำลายเครื่องมือหลักของงาน Passive Design ซึ่งเป็นหัวใจของการออกแบบด้านความน่าสบายและการประหยัดพลังงานของอาคาร
หากองค์ประกอบสำคัญนี้ถูกทำลายไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้ระบบปรับเย็นที่ออกที่ออกมาล้มเหลว สิ่งที่จะตามมาคือการติดตั้งระบบปรับอากาศที่ต้องใช้งบประมาณอีกมหาศาล เนื่องจากโถงนี้มีความสูงถึง 10 ชั้น มีลักษณะเปิดโล่งด้านข้าง จะต้องปิดกระจกโดยรอบกั้นออกจากสวนจะต้องใช้เครื่องปรับอากาศขนาดเท่าใดจึงจะเพียงพอ หรือหากจะตัดเฉพาะทางเดินชั้น 2, 3, 4 ที่ล้อมรอบคอร์ดนี้จะต้องติดตั้งกระจกปิดอาคารตลอดแนวทั้ง 3 ชั้น ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองอย่างมาก
นอกจากจะต้องเสียงบประมาณมากมายในการปรับเปลี่ยนระบบอากาศแล้ว ยังต้องเสียค่าไฟจำนวนมากที่ไม่จำเป็นไปตลอดชีวิตของอาคารโดยไม่มีเหตุผลจำเป็น เป็นข้อแลกเปลี่ยนที่ไม่คุ้มค่าอย่างยิ่ง
กรณีมักกล่าวหาว่ามีคนตกสระน้ำสะท้อนเงานี้หลายครั้งนั้น อยากขอให้ใช้ความเป็นธรรมว่าสาเหตุหลักที่คนเหล่านั้นตก เช่น จากการเดินเล่นโทรศัพท์อยู่หรือไม่ อย่างไรก็ตามหากรัฐภาเห็นว่าอยากแก้ไขปัญหานี้ ก็สามารถแก้ได้โดยง่าย ใช้งบประมาณเพียงเล็กน้อยโดยการวางม้านั่งยาวที่เหมาะสมไว้รอบๆขอบสระ เพื่อให้มีผ่านไปมาใต้นั่งพัก ซึ่งผู้ออกแบบได้เคยเสนอต่อผู้ที่เกี่ยวข้องหลายครั้งแล้ว และยินดีออกแบบม้านั่งเหล่านี้ให้เข้ากับความงามของบริเวณ
4. เป็นการทำลายคุณค่า ความหมายของงานสถาปัตยกรรมชิ้นสำคัญของชาติ
งานสถาปัตยกรรมรัฐสภาถือเป็นสถาปัตยกรรมของชาติที่สำคัญที่สุดในรอบ 100 ปี ชิ้นหนึ่ง โดยฐานะของการเป็นอาคารรัฐสภาไทย จึงมีฐานะเป็นตัวแทนของสถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัยในเวทีสถาปัตยกรรมโลก ถือเป็นงานศิลปกรรมที่สำคัญชิ้นหนึ่งของชาติที่ต้องยืนอยู่นับ 100 ปี การทำหน้าที่ของสถาปัตยกรรมนี้ จึงมิใช่เป็นเพียงอาคารหลังหนึ่งเพื่อใช้สอย แต่ยังเป็นสัญลักษณ์สำคัญของสถาปัตยกรรมของชาติด้วย หลักสุนทรียศาสตร์ ความงามและอัตลักษณ์ของความเป็นชาติไทยที่ศิลปินร่วมกันสร้างและสืบสานจากบรรพชน
การต่อเติมใดที่กระทบกระเทือนต่อความงามคุณค่าตามหลักสุนทรียศาสตร์นั้น มิใช่ควรทำได้โดยขาดความเคารพในผลงานและโดยไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหาย ด้านคุณค่าความงามของงาน การดำเนินการเติมใดๆ ควรดำเนินการโดยผู้รู้ของวงการศิลปะและสถาปัตยกรรม และรัฐสภาควรดำเนินการอย่างรอบคอบ โปร่งใส และควรขอคำปรึกษาจากผู้ออกแบบซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลงานออกแบบนั้นในเชิงคุณค่าก่อนดำเนินการ เพื่ออนุรักษ์คุณภาพของงานสถาปัตยกรรมรัฐสภาให้ยั่งยืนต่อไป
ส่วนเรื่องร้านกาแฟ ร้านละดวกซื้อ ร้านทำ ผู้ออกแบบได้ตรียมที่ไว้แล้วที่ชั้นที่ B1 B2 บริเวณโถงทางเข้าหลัก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชาชนต้องผ่านเข้าอาคาร และเป็นพื้นที่รองรับกิจกรรมอบรมสัมมนาซึ่งเป็นพื้นที่ที่เหมาะสม
5. เรื่องความมั่นคงแข็งแรงที่ลดลงจากการต่อเติม
วิศวกรโครงสร้างผู้ออกแบบอาคาร เป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อความมั่นคงเร็งแรงของอาคารตามกฎหมายและมาตรฐานต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ต้องบูรณาการทุกส่วนของโครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็นเข็ม, เสา, คาน, พื้น, ผนังน้ำหนัก ฯลฯ ที่ทำงานสัมพันธ์กัน โดยต้องรับผิดชอบตลอดอายุของพวกเขา กฎหมายจึงให้สิทธิ์วิศวกรผู้ออกแบบในการกำหนดเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง Safety Factor ที่เขาเห็นว่า ปลอดภัยและเหมาะสม ทั้งในเรื่องการรับน้ำหนักพื้นฐาน การต้านทานแรงลม และแผ่นดินไหว
การต่อเติมอาคารใดๆ ที่เพิ่มการรับหนักให้ตัวโครงสร้างอาคาร ย่อมส่งผลให้ความแข็งแรงโดยรวมลดลง หรืออาจส่งผลให้เกิดการวิบัติของอาคารได้ หากทำได้ไม่ดีพอ โดยเฉพาะความสามารถในการต้านทานแผ่นดินไหว โดยวิศวกรโครงสร้างที่รัฐสภามอบหมายมาต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าวตามกฎหมาย ผู้ออกแบบ ขอแจ้งว่าเราไม่สามารถเป็นผู้รับผิดชอบหรือตรวจรับรองการออกแบบของวิศวกรรายอื่นที่อาจทำให้ความสามารถของโครงสร้างเดิมลดประสิทธิภาพลง
วิศวกรรายใหม่นี้จำเป็นต้องตรวจเช็คอย่างรอบคอบทุกเงื่อนไขและเป็นผู้เซ็นรับผิดชอบเอง หากการต่อเติมนั้นทำให้ความแข็งแรงในภาพรวมลดลงไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่เขากำหนดไว้ตอนออกแบบ จึงขอให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง และตระหนักถึงความรับผิดชอบที่เกิดขึ้น หากไม่มีเหตุผลที่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่ควรต่อเติมการรับน้ำหนักใดๆ กับอาคาร
จากเหตุผลทั้ง 5 ข้อที่กล่าวมา จะเห็นว่าแนวคิดการต่อเติมอาคารของโครงการดังกล่าวนั้น เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า และยังก่อผลเสียอย่างมากในหลายด้านดังกล่าวแล้ว
คณะผู้ออกแบบเป็นเพียงกลุ่มคนที่ทำงานอยู่เบื้องหลังเพื่อปกป้องคุณภาพงานของอาคารรัฐสภาให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการออกแบบมานับ 10 ปี มาบัดนี้อาคารรัฐภาได้ก่อสร้างแล้วเสร็จและส่งมอบสภาอย่างเป็นทางการแล้ว และกำลังทำหน้าที่ในสถานะสถาปัตยกรรมของชาติ ทั้งด้านการใช้งานและด้านคุณค่าทางศิลปะสถาปัตยกรรมของชาติ ซึ่งผู้ออกแบบตั้งใจทำงานด้วยกุศลเจตนามาโดยตลอด จึงขอฝาก “สัปปายะสภาสถาน” แห่งนี้ไว้กับทุกคนที่จะช่วยกันดูแลให้เป็นอาคารที่เป็นมรดกของบ้านเมืองสืบไป