เผยมติ ป.ป.ช.เอกฉันท์ชี้มูลความผิด 'อุทัง ทิมพิทักษ์' นายก อบต.โพนเขวา ศรีสะเกษ -พวก กรณีกล่าวหาเรียกรับเงินค่าตอบแทนต่อสัญญาพนักงานจ้าง ปี 2565 - ส่งสำนวน อสส.ฟ้องศาลดำเนินคดีอาญาแจ้งผู้บังคับบัญชาลงโทษแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิด นางอุทัง ทิมพิทักษ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โพนเขวา อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ และพวก คือ นางอิสรีย์ โพธิ์ ผู้ช่วยนิติกร กรณีกล่าวหาเรียกรับเงินเพื่อเป็นค่าตอบแทนใการต่อสัญญาพนักงานจ้าง เมื่อปี 2565
โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาสำนวนไต่สวนแล้วเห็นว่า
1. นางอุทัง ทิมพิทักษ์ มีความผิดทางอาญา ตามมาตรา 149, 157 , ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 และมีมูลความผิด ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 90/1
2. นางอิสรีย์ โพธิ์ ข้อกล่าวหาทางอาญาไม่มีมูลให้ตกไป แต่มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงฐาน จงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ เป็นเหตุให้ราชการเสียหาย
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาคดีกับ นางอุทัง ทิมพิทักษ์ รวมถึงให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งตั้งถอดถอนเพื่อให้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับ นางอุทัง ทิมพิทักษ์
ส่วน นางอิสรีย์ โพธิวัฒน์ ให้ส่งรายงานสำนวนการไต่ส่วน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการทางวินัยตามขั้นตอนต่อไป
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด