
"...จากข้อมูลในหนังสือทั้ง 2 ฉบับข้างต้น จะเห็นได้ว่า ทันทีที่ บริษัทฯ ได้แจ้งหนังสือเลิกจ้างงาน นาวาเอกปริศฏางค์ ในวันที่ 16 มิถุนายน 2568 พร้อมขอสงวนสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย ในอนาคตหากภายหลังพบการกระทำที่ทำให้เสียหาย นาวาเอกปริศฏางค์ ก็ได้ทำหนังสือยื่นโต้แย้งและอุทธรณ์สวนกลับไปทันที โดยยืนยันว่า มติดังกล่าวเป็นมติที่ไม่ชอบและไม่ถูกต้อง โดยไม่มีท่าทีเกรงกลัวแต่อย่างใด..."
การบริหารงานภายในของ บริษัทอู่กรุงเทพ จำกัด ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในความควบคุมของกองทัพเรือ กระทรวงกลาโหม กำลังถูกจับตามอง!
หลังปรากฏข่าวว่า เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ทำหนังสือแจ้งบอกเลิกสัญญาว่าจ้าง นาวาเอกปริศฏางค์ กาศขุนทด ผู้จัดการ บริษัทฯ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 กรกฏาคม 2568 เป็นต้นไป
โดยอ้างเหตุผล 2 ประการ ในการบอกเลิกจ้าง นาวาเอกปริศฏางค์ คือ
1. บริษัทฯ มีเรื่องร้องเรียนหลายเรื่อง บางเรื่องอยู่ระหว่างการไต่สวนพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
2. ปัญหาเรื่องภาระหนี้สินจำนวนมาก และมีผลประกอบการขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปัญหาการขาดสภาพคล่องไม่ได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น
ต่อมา ภายหลังจากที่บริษัทฯ มีหนังสือแจ้งบอกเลิกสัญญาจ้างงานดังกล่าว นาวาเอกปริศฏางค์ ได้ทำหนังสือขอโต้แย้งและอุทธรณ์เพื่อให้คณะกรรมการบริษัทฯ พิจารณาทบทวนเรื่องนี้
ระบุว่าความเห็นประกอบทั้ง 2 เรื่อง ไม่สมเหตุสมผล เกิดจากการคาดคะแนไม่เป็นไปตามหลักการ ปัญหาต่างๆ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นและสะสมมาตั้งแต่ในอดีต นอกจากนี้ ในการพิจารณาเรื่องนี้ยังไม่มีการเปิดโอกาสให้ชี้แจงโต้แย้งด้วย มติการให้เลิกจ้างตนเอง และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงถือเป็นมติที่ไม่ชอบไม่เป็นไปตามสัญญาจ้าง
ต่อไปนี้ เป็นหนังสือ 2 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ คือ
ฉบับแรก.
หนังสือ บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด ลงวันที่ 16 มิถุนายน 2568 ลงนามโดย พลเรือโท ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ประธานกรรมการบริษัทฯ แจ้งบอกเลิกสัญญาจ้างงาน นาวาเอกปริศฏางค์ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 กรกฏาคม 2568 เป็นต้นไป

ฉบับสอง.
หนังสือของ นาวาเอกปริศฏางค์ กาศขุนทด เรียก ประธานและคณะกรรมการบริษัทฯ เพื่อขอโต้แย้งและอุทธรณ์เพื่อขอให้คณะกรรมการบริษัทฯ พิจารณาทบทวนเรื่องนี้

จากข้อมูลในหนังสือทั้ง 2 ฉบับข้างต้น
จะเห็นได้ว่า ทันทีที่ บริษัทฯ ได้แจ้งหนังสือเลิกจ้างงาน นาวาเอกปริศฏางค์ ในวันที่ 16 มิถุนายน 2568 พร้อมขอสงวนสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย ในอนาคตหากภายหลังพบการกระทำที่ทำให้เสียหาย
นาวาเอกปริศฏางค์ ก็ได้ทำหนังสือยื่นโต้แย้งและอุทธรณ์สวนกลับไปทันที โดยยืนยันว่า มติดังกล่าวเป็นมติที่ไม่ชอบและไม่ถูกต้อง โดยไม่มีท่าทีเกรงกลัวแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลว่า คณะกรรมการบริหารบริษัทฯ ได้มีการพิจารณาทบทวนมติการเลิกจ้าง นาวาเอกปริศฏางค์ แล้วหรือไม่
ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามดูกันต่อไป คือ ข้ออ้างในการบอกเลิกจ้างครั้ง นี้ 2 เรื่อง คือ
1. บริษัทฯ มีปัญหาเรื่องภาระหนี้สินจำนวนมาก และมีผลประกอบการขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปัญหาการขาดสภาพคล่องไม่ได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น จริงหรือไม่? ปัญหาเกิดจากอะไร?
2. บริษัทฯ มีเรื่องร้องเรียนหลายเรื่อง บางเรื่องอยู่ระหว่างการไต่สวนพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คือเรื่องอะไรกันแน่?
สำนักข่าวอิศรา จะติดตามมานำเสนอในโอกาสต่อไป

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา