
ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'วศินชัย เตชะ' อดีตนายกเทศมนตรีตำบลแม่ฮ้อยเงิน เชียงใหม่ จ้างเหมาบริการมิชอบ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 5 พิพากษาลงโทษ จำคุก 138 เดือน หลังรับสารภาพ ไม่มีเหตุสมควรรอลงอาญา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายวศินชัย เตชะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลแม่ฮ้อยเงิน อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินการจ้างเหมาบริการโดยมิชอบ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 91 และตาม พ.ร.ป. ป.ป.ช.พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ประกอบ ป.อ. มาตรา 91 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ว่า นายวศินชัย เตชะ จำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 157 พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 172
การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีโทษเท่ากัน จึงให้ลงโทษตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ตาม ป.อ. มาตรา 90
การกระทำของจำเลย เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตาม ป.อ. มาตรา 91 รวม 23 กระทง ลงโทษจำคุกกระทงละ 1 ปี
จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ตาม ป.อ. มาตรา 78 คงจำคุกกระทงละ 6 เดือน รวม 23 กระทง คงจำคุก 138 เดือน
พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีและรายงานการสืบเสาะและพินิจของจำเลยที่พนักงานคุมประพฤติเสนอศาลก่อนอ่านคำพิพากษาแล้ว ยังไม่มีเหตุสมควรที่จะรอการลงโทษ
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบตามที่อัยการสูงสุด (อสส.) หารือไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 เห็นควร ไม่อุทธรณ์คำพิพากษา
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา