ทำเอกสารเท็จ-ย้อนหลัง! สพฐ.ไล่ออก‘กลุ่ม ผอ.ร.ร.’หลัง ป.ป.ช.ฟันคดีฟุตซอลโคราช

สพฐ.ลงโทษไล่ออกจากราชการ กลุ่ม ขรก.ครู ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลผิดคดีทุจริตสนามฟุตซอลโคราช เขต 2 ชี้เจตนาทำเอกสารอันเป็นเท็จ-ย้อนหลังเพื่อขอรับการจัดสรรงบ ถือเป็นการกระทำผิดวินัยร้ายแรง ยังมีสิทธิ์อุทธรณ์ ก.ค.ศ.-ฟ้องศาล ปค.

PIC sptsptkorat 9 8 63 77

จากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลคดีทุจริตการจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอล โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จ.นครราชสีมา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) งบประมาณปี 2555 โดยมีผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (ประธานวิปรัฐบาล) นางทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ ภริยานายวิรัช กับพวกที่เป็นกลุ่มผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 2 รวมถึงกลุ่มผู้อำนวยการโรงเรียน ข้าราชการครู และกลุ่มเอกชนที่เกี่ยวข้อง รวม 7 สำนวนนั้น

ความคืบหน้าคดีนี้ในสำนวนแรก คือ ทุจริตการจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอล โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา 2 จ.นครราชสีมา มีผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และผู้ประสานงานรวม 6 ราย กลุ่มข้าราชการ 9 ราย และกลุ่มเอกชน 9 ราย (อ่านประกอบ : ทุจริตเชิงนโยบาย!ป.ป.ช.แจงฟัน‘วิรัช-พวก’คดีฟุตซอลโคราช ‘แบ่งงานชัด-ให้พวกได้คู่สัญญา’, ป.ป.ช.ฟันซ้ำ‘วิรัช’อีก 6 คดีฟุตซอล ‘น้องชาย’อดีต ส.ส.ดังโดนด้วย-เจ้าตัวยันสู้ต่อ)

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่า เมื่อช่วงเดือน ก.ค. 2563 ที่ผ่านมา เลขาธิการสำนักงาน สพฐ. มีคำสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการ กลุ่มข้าราชการครูที่เกี่ยวข้อง และถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดในคดีทุจริตการจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอล โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา 2 จ.นครราชสีมาไปแล้วกลุ่มหนึ่ง จากจำนวนข้าราชครูที่ถูกชี้มูลความผิดรวม 9 ราย

พฤติการณ์ตอนหนึ่งระบุว่า ข้าราชครูกลุ่มนี้ จัดทำคำขอรับการสนับสนุนงบประมาณปรับปรุงสนามกีฬาโรงเรียน ลงวันที่ย้อนหลังอันเป็นเท็จ ไปยัง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมาเขต 2 เพื่อทำเสมือนหนึ่งว่าการได้รับงบประมาณครั้งนี้เป็นไปตามความต้องการของโรงเรียน ทั้ง ๆ ที่ไม่สามารถกระทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่เป็นไปตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ จึงเป็นการกระทำโดยเจตนาทำเอกสารอันเป็นเท็จ จึงเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง กรณีปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ อันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง

ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการ คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญเกี่ยวกับวินัยและการออกราชการ (ทำการแทน ก.ค.ศ.) ในการประชุมครั้งที่ 1/2563 พิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังเป็นที่ยุติตามการชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง จึงมีมติให้ลงโทษไล่ออกข้าราชการครูกลุ่มดังกล่าวออกจากราชการ

โดยในคำสั่งที่ลงนามโดยเลขาธิการสำนักงาน สพฐ. ระบุว่า ถ้าผู้ถูกลงโทษประสงค์จะอุทธรณ์คำสั่งนี้ ให้ยื่นอุทธรณ์ต่อ ก.ค.ศ. ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง หรือจะฟ้องคดีต่อศาลปกครองภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ถูกลงโทษโดยไม่ต้องอุทธรณ์ ตามมาตรา 101 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561

เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2563 นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการ สพฐ. ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราทางโทรศัพท์ถึงกรณีนี้ว่า ไม่ทราบรายละเอียดจำนวนกลุ่มข้าราชครูที่ถูกไล่ออกจากราชการในคดีนี้ เพราะมีกลุ่มข้าราชการครูถูกชี้มูลความผิดมาเรื่อย ๆ อย่างไรก็ดีที่ผ่านมาปฏิบัติตามหลักกฎหมายทุกอย่างคือ เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติมาอย่างไร จะมีการนำเสนอเข้าที่ประชุม ก.ค.ศ. พิจารณาโดย อ.ก.ค.ศ. ก่อนที่จะมีมติออกมาอย่างไร จึงดำเนินการตามมติของ ป.ป.ช. และ อ.ก.ค.ศ.ดังกล่าว ทั้งนี้อำนาจหน้าที่ของเลขาธิการ สพฐ.ดำเนินการในส่วนของกลุ่มข้าราชการครูในตำแหน่ง ผู้อำนวยการศึกษา ส่วนกลุ่มข้าราชครูที่ตำแหน่งต่ำกว่านี้ เป็นอำนาจหน้าที่ของศึกษาธิการจังหวัด

PIC ไล่ออกครูฟุตซอลสำนวนแรก 1

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง สพฐ.มีคำสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการกลุ่มข้าราชการครูดังกล่าว ที่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอลสำนวนแรก เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาที่ 2 จ.นครราชสีมา มีกลุ่มผู้บริหารสถานศึกษาหลายแห่ง ออกแถลงกาณณ์ถึงเรื่องนี้ เช่น นายวิรัส ภูบุญศรี นายกสมาคมผู้บริหารสถานศึกษาพิมาย ออกแถลงการณ์ว่า ตามที่ปรากฏข่าวในสื่อมวลชนว่า ข้าราชการสังกัด สพฐ. ถูกคำสั่งลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง กรณีทุจริตการก่อสร้างสนามฟุตซอล

ผู้บริหารสถานศึกษาทุกท่านมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและเสริมสร้างคุณภาพการศึกษาให้กับนักเรียน ด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์โดยมิได้มีผลประโยชนตอบแทนเป็นการส่วนตัวใด ๆ ทั้งสิ้น แต่การปฏิบัติงานในครั้งนี้อยู่บนแนวคิดอันเป็นนิติกรรมอำพรางของกลุ่มนักการเมืองที่มุ่งแสวงหาผลประโยชน์มิชอบ โดยใช้ข้าราชการประจำเป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์ สุดท้ายได้ทิ้งความอัปยศอันเจ็บปวดให้กับข้าราชการผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ

ในนามของสมาคมผู้บริหารสถานศึกษาพิมาย ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับข้าราชการทุกท่านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ สมาคมผู้บริหารสถานศึกษาพิมายขอเป็นกำลังใจ และขอร่วมยืนหยัดต่อสู้บนพื้นฐานของความถูกต้องและเป็นธรรมกับทุกท่านต่อไป

PIC ไล่ออกครูฟุตซอลสำนวนแรก 2