ชายแดนใต้ยังมี 3 จังหวัดขึ้นท็อปเท็นยอดติดเชื้อสูงสุดของประเทศอีกวัน ขณะที่สงขลายอดป่วยโควิดสะสมทะลุ 30,000 รายแล้ว ส่วนยะลาเตรียมเปิดโรงพยาบาลสนามกาบัง 1 ต.ค. เบตงเตรียมตั้งศูนย์แยกกักในชุมชนรับผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ
วันพุธที่ 29 ก.ย.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดสงขลา ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ ยังมีจำนวนที่ค่อนข้างสูงอยู่
ส่งผลให้มี 3 จังหวัด ยังมีชื่อติดอยู่ใน 10 จังหวัดแรกของประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุด ในข้อมูลที่จัดทำโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีการเผยแพร่ผ่านทางศูนย์ข้อมูล COVID-19 วันที่ 29 ก.ย.
โดยจังหวัดสงขลา มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 517 ราย ติดอันดับ 5 จังหวัดนราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 485 ราย ติดอันดับ 6 จังหวัดยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 452 ราย ติดอันดับ 7
@@ สงขลาป่วยโควิดสะสมทะลุ 30,000 รายแล้ว
ขณะที่รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จากในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา วันที่ 29 ก.ย.64 มีรายละเอียดดังนี้
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 517 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 505 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 12 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 30,460 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 30,437 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 5,840 ราย รักษาหายแล้ว 24,469 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 151 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 1,528 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 7,877 ราย, อ.เมืองสงขลา 4,533 ราย, อ.สิงหนคร 3,414 ราย, อ.จะนะ 2,980 ราย, อ.สะเดา 2,554 ราย, อ.สะบ้าย้อย 1,793 ราย, อ.เทพา 1,566 ราย, อ.รัตภูมิ 1,246 ราย, อ.นาทวี 578 ราย, อ.บางกล่ำ 575 ราย, สทิงพระ 564 ราย, อ.ระโนด 530 ราย, อ.นาหม่อม 381 ราย, ควนเนียง 200 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 190 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 52 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,104 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 300 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 488 ราย แยกเป็นพื้นที่ อ.เมือง 94 ราย, อ.ตากใบ 31 ราย, อ.ยี่งอ 3 ราย, อ.จะแนะ 43 ราย, อ.แว้ง 4 ราย, อ.สุคิริน 2 ราย, อ.รือเสาะ 72 ราย, อ.บาเจาะ 107 ราย, อ.ระแงะ 7 ราย, อ.ศรีสาคร 1 ราย, อ.เจาะไอร้อง 29 ราย, อ.สุไหงปาดี 32 ราย และ อ.สุไหงโก-ลก 63 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 23,682 ราย รักษาหายสะสม 19,813 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 276 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 4,705 ราย, อ.ระแงะ 2,436 ราย, อ.รือเสาะ 1,484 ราย, อ.บาเจาะ 1,744 ราย, อ.จะแนะ 1,061 ราย, อ.ยี่งอ 1,656 ราย, อ.ตากใบ 2,083 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 1,745 ราย, อ.สุไหงปาดี 2,069 ราย, อ.ศรีสาคร 1,225 ราย, อ.แว้ง 1,571 ราย, อ.สุคิริน 692 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 1,211 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 452 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 22,227 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 5,007 ราย รักษาหายแล้ว 17,042 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 178 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 717 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 7,876 ราย, อ.กรงปินัง 1,584 ราย, อ.เบตง 1,537 ราย, อ.รามัน 2,893 ราย, อ.บันนังสตา 3,895 ราย, อ.กาบัง 604 ราย, อ.ธารโต 1,520 ราย และ อ.ยะหา 2,318 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 5,007 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลยะลา 197 ราย, โรงพยาบาลเบตง 197 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 521 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 143 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 765 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 226 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 419 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 335 ราย, โรงพยาบาลสนามยะหา 72 ราย, โรงพยาบาลสนามธารโต 103 ราย, โรงพยาบาลสนามกรงปินัง 217 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 15 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) 603 ราย , ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 463 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 731 ราย
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 406 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 21,932 ราย รักษาหายแล้ว 14,797 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 298 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 165 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 316 ราย, โรงพยาบาลประจำอำเภอ 1,129 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 524 ราย, โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 2 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 47 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 170 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส เรนโบว์ ฮอสพิเทล 126 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน 16 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์โรงยิมบานา 45 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 212 ราย และ Home Isolation 50 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างรักษารวม 3,937 ราย แยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 925 ราย, อ.หนองจิก 289 ราย, อ.โคกโพธิ์ 107 ราย, อ.ยะหริ่ง 394 ราย, อ.สายบุรี 569 ราย, อ.ไม้แก่น 101 ราย, อ.แม่ลาน 36 ราย, อ.ยะรัง 291 ราย, อ.ปะนาเระ 174 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 304 ราย, อ.มายอ 390 ราย และ อ.กะพ้อ 166 ราย
@@ ยะลาเตรียมเปิด รพ.สนาม อ.กาบัง 1 ต.ค.
ห้องประชุมศรียะลา อาคาร 3 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดยะลา นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครั้งที่ 45/2564 พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
ทางสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดยะลา เผยถึงภาพรวมตัวเลขของบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่ จ.ยะลา ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครอบคลุมร้อยละ 86.30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนของการดำเนินงานฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เชิงรุก และตรวจค้นหาเชื้อโควิดแบบ ATK ทางด้านของนายอำเภอทุกอำเภอก็ยังคงคุมเข้มอยู่ เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดโรคโควิด-19
ขณะที่ในพื้นที่ อ.กาบัง ก็มีความพร้อมของโรงพยาบาลสนาม ซึ่งจะเปิดใช้บริการได้ในวันที่ 1 ต.ค. เพื่อรองรับการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 120 เตียง ส่วนภาพรวมของสถานที่กักโรคชุมชน (CI) ในพื้นที่จังหวัดยะลามีทั้งหมด 49 แห่ง สามารถรองรับได้จำนวน 1,214 เตียง เข้าใช้บริการแล้วกว่า 568 คน ยังคงสามารถรองรับได้อีกกว่า 646 เตียง
@@ เบตงเตรียมตั้งศูนย์แยกกักในชุมชน
นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง/ผอ.ศปก.อ.เบตง เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางเพื่อป้องกันยับยั้งและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ไม่ให้แพร่ขยายวงสู่โรงงานอุตสาหกรรมหรือผู้ประกอบการที่มีแรงงานจำนวน และร่วมประชุมหารือมาตรการแนวทางการปฏิบัติเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และการเตรียมความพร้อมการจัดตั้งศูนย์แยกกักในชุมชน Community Isolation หรือ CI
นายจิตติ จันทรมงคล นายแพทย์ชำนาญการพิเศษโรงพยาบาลเบตง กล่าวว่า เนื่องจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ มีปริมาณมากขึ้น จนไม่มีเตียงที่จะรองรับผู้ป่วยได้ จึงให้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกัดตัวที่บ้าน (HQ) ส่วนผู้ติดเชื้อไม่มีอาการให้เข้าสู่ CI หรือศูนย์แยกกักในชุมชน โดยจะมีการดําเนินงานประจําวัน มีการติดตามอาการ online ประกอบด้วยการวัดอุณหภูมิ และออกซิเจนในเลือดวันละ 2 ครั้ง ให้อาหาร วันละ 3 มื้อ มีหมอคอยให้คําปรึกษาวันละ 1 คน พยาบาลอยู่เวรวันละ 4 คน ผู้ติดเชื้อจะต้องกักตัวสังเกตอาการ 14 วันนับจากวันตรวจพบเชื้อ หากผู้ป่วยมีอาการผิดปกติจะมีรถรับไปส่งโรงพยาบาลต่อไป