นราธิวาสยอดติดเชื้อใหม่พุ่งติดชาร์ตอันดับ 4 ของประเทศ ส่วนปัตตานีเสียชีวิตจากโควิดสะสมทะลุ 300 ราย ขณะที่สงขลา – ยะลา ต่อเวลาปิดสถานที่เสี่ยงแพร่ระบาดอีก 15 วัน ด้านเบตงฝนตกหนักดินสไลด์ทับบ้านพังถนนทรุด
วันพฤหัสบดีที่ 30 ก.ย.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดสงขลา ยังคงมีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น
ส่งผลให้ จ.สงขลา นราธิวาส และยะลา ยังมีชื่อติดอยู่ใน 10 จังหวัดแรกของประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุด ตามฐานข้อมูลที่จัดทำโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีการเผยแพร่ผ่านทางศูนย์ข้อมูล COVID-19
โดยนราธิวาส มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงที่สุด อยู่ที่ 617 ราย ติดอันดับ 4 สงขลามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 566 ราย ติดอันดับ 5 และยะลามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 561 ราย ติดอันดับ 6
@@ ปัตตานีป่วยโควิดเสียชีวิตสะสมทะลุ 300 ราย
ขณะที่รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จากในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา วันที่ 30 ก.ย.64 มีรายละเอียดดังนี้
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 618 ราย แยกเป็นพื้นที่ อ.เมือง 125 ราย, อ.ตากใบ 29 ราย, อ.ยี่งอ 71 ราย, อ.จะแนะ 7 ราย, อ.แว้ง 31 ราย, อ.สุคิริน 37 ราย, อ.รือเสาะ 19 ราย, อ.บาเจาะ 52 ราย, อ.ระแงะ 71 ราย, อ.ศรีสาคร 64 ราย, อ.เจาะไอร้อง 72 ราย, อ.สุไหงปาดี 2 ราย และ อ.สุไหงโก-ลก 38 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 24,300 ราย รักษาหายสะสม 19,813 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 277 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 4,830 ราย, อ.ระแงะ 2,507 ราย, อ.รือเสาะ 1,503 ราย, อ.บาเจาะ 1,796 ราย, อ.จะแนะ 1,068 ราย, อ.ยี่งอ 1,727 ราย, อ.ตากใบ 2,112 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 1,783 ราย, อ.สุไหงปาดี 2,071 ราย, อ.ศรีสาคร 1,289 ราย, อ.แว้ง 1,602 ราย, อ.สุคิริน 729 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 1,283 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 566 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 31,026 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 31,003 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 6,063 ราย รักษาหายแล้ว 24,811 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 152 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 1,174 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 8,024 ราย, อ.เมืองสงขลา 4,590 ราย, อ.สิงหนคร 3,542 ราย, อ.จะนะ 3,001 ราย, อ.สะเดา 2,592 ราย, อ.สะบ้าย้อย 1,808 ราย, อ.เทพา 1,616 ราย, อ.รัตภูมิ 1,293 ราย, อ.นาทวี 588 ราย, อ.บางกล่ำ 580 ราย, สทิงพระ 567 ราย, อ.ระโนด 548 ราย, อ.นาหม่อม 383 ราย, ควนเนียง 211 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 192 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 52 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,104 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 312 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 566 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 22,793 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 5,161 ราย รักษาหายแล้ว 17,450 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 4 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 182 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 740 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 8,110 ราย, อ.กรงปินัง 1,667 ราย, อ.เบตง 1,590 ราย, อ.รามัน 2,973 ราย, อ.บันนังสตา 3,895 ราย, อ.กาบัง 636 ราย, อ.ธารโต 1,542 ราย และ อ.ยะหา 2,380 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 5,161 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลยะลา 201 ราย, โรงพยาบาลเบตง 203 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 557 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 137 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 785 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 231 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 434 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 339 ราย, โรงพยาบาลสนามยะหา 96 ราย, โรงพยาบาลสนามธารโต 73 ราย, โรงพยาบาลสนามกรงปินัง 214 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 19 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) 552 ราย , ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 512 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 808 ราย
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 313 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 22,245 ราย รักษาหายแล้ว 14,913 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 3 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 301 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 165 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 322 ราย, โรงพยาบาลประจำอำเภอ 1,112 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 477 ราย, โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 2 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 40 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 175 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส เรนโบว์ ฮอสพิเทล 128 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน 14 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์โรงยิมบานา 41 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 196 ราย และ Home Isolation 49 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างรักษารวม 4,138 ราย แยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 1,019 ราย, อ.หนองจิก 281 ราย, อ.โคกโพธิ์ 103 ราย, อ.ยะหริ่ง 403 ราย, อ.สายบุรี 467 ราย, อ.ไม้แก่น 101 ราย, อ.แม่ลาน 38 ราย, อ.ยะรัง 309 ราย, อ.ปะนาเระ 180 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 303 ราย, อ.มายอ 393 ราย และ อ.กะพ้อ 156 ราย
@@สงขลา – ยะลา ต่อเวลาปิดสถานที่เสี่ยงอีก 15 วัน
ขณะที่หลายจังหวัดได้มีการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา ได้มีคำสั่ง ที่ 117/2564 เรื่องขยายระยะเวลาการปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด โดยให้ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคดังต่อไปนี้
1.ปิดสถานที่ชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์การโรคจะคลี่คลาย ได้แก่ สนามชนโคและสนามซ้อมโค, สนามชนไก่และสนามซ้อมไก่ชน, สนามกัดปลา, สนามแข่งขันนกและสนามซ้อมนก
2.การปิดสถานที่ชั่วคราวจนถึงวันที่ 15 ต.ค.64 ได้แก่ สถานบริการ สถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ, ร้านเกม ตู้เกม, สวนสนุก สวนน้ำ, สถานที่จัดนิทรรศการ ศูนย์แสดงสินค้า และศูนย์ประชุม, สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสำหรับเด็ก
เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.64 จนไปถึง 15 ต.ค.64 ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำและปรับตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548
เช่นเดียวกับ จ.ยะลา นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ในฐานะประธาน ศบค.ยะลา มีคำสั่งที่ 283/2564 ห้ามการจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด มีบุคคลรวมกันเกินกว่า 25 คน ปิดสนามขนไก่ แข่งขันนก สถานบันเทิงจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และปิดร้านเกม สนุกเกอร์ สนามเด็กเล่น สถานที่จัดกิจกรรม ดูแลผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 1-15 ต.ค.64 และคำสั่งที่ 284,285/2564 ยกเลิกพื้นที่เสียงและผ่อนปรนให้ปฏิบัติศาสนกิจบ้านแอร้อง หมู่ 10 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา
@@ เบตงฝนตกหนักดินสไลด์ทับบ้านพัง ถนนทรุด
ด้านสถานการณ์อุทกภัยหลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา เมื่อกลางดึกของวันที่ 29 ต่อเนื่อง 30 ก.ย.64 ปรากฏว่าได้เกิดเหตุดินสไลด์ลงมาทับบ้านเลขที่ 135 หมู่ 1 บ้านสวรรค์บนดอย ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็นบ้านของ นายอับดุล บือนา ชาวบ้านในพื้นที่ ได้รับความเสียหาย
ต่อมา นายวิโรจน์ จงอุรุดี ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลยะรม พร้อมเจ้าหน้าที่ อบต. ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.ยะรม ได้เดินทางไปตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือ พบว่าบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ปลูกอยู่บนเนินเขา ดินได้สไลด์ลงมาจากภูเขาทับบ้านพังเสียหายเกือบทั้งหลัง ห้องนอน ห้องนั่งเล่น เต็มไปด้วยดินโคลน ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านถูกดินทับถมเกือบหมด เหลือเพียงห้องครัวและห้องน้ำที่ไม่เสียหาย แต่ก็ไม่สามารถพักอาศัยอยู่ได้ โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
นอกจากนี้ในพื้นที่ ต.ยะรม ได้เกิดน้ำกัดเซาะถนนสายบ้านธารน้ำใส หมู่ 5 ต.ยะรม อีก 3 จุด เจ้าหน้าที่ อบต.ยะรม ต้องนำกรวย และป้ายไวนิลแจ้งไหล่ทางชำรุด ไปติดไว้ให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางสัญจรไปมารับทราบ เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย พร้อมทั้งแจ้งให้ประชาชนที่ใช้รถยนต์เลี่ยงไปใช้เส้นทางถนนสายยะรม-ธารน้ำทิพย์ บ้านราโมงใต้แทน เพราะบางจุดน้ำได้กัดเซาะถนนหายไปเกือบครึ่ง บางจุดน้ำกัดเซาะดินที่อยู่ใต้ถนนจนเป็นโพรงเหลือแต่พื้นผิวถนน หากมีรถหนักวิ่งผ่าน หรือเกิดฝนตกลงมาอีกถนนอาจจะพังได้