“ไม่ได้พูดเรื่องเขตปกครองพิเศษเลย พูดแต่เรื่องคนอุยกูร์พูดภาษาอุยกูร์แล้วแปลเป็นภาษาจีน เหมือนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่พูดภาษามลายู และเราให้ความสำคัญกับเรื่องวัฒนธรรม”
เป็นคำอธิบายปนกังขาของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ หลังได้ทราบข่าวว่า สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. กำลังให้ฝ่ายกฎหมายศึกษาแนวทางการยื่นคำร้องต่อองค์กรอิสระเพื่อให้ตรวจสอบการให้สัมภาษณ์ของตนเกี่ยวกับเรื่อง “เขตปกครองพิเศษชายแดนใต้”
พ.ต.อ.ทวี พูดเรื่อง “เขตปกครองพิเศษ” ระหว่างเปิดงาน “เมืองโบราณยะรัง” ที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อวันเสาร์ที่ 12 เม.ย.68 ที่ผ่านมา โดยได้ยกตัวอย่างการปกครองและความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ที่มณฑลซินเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเจ้าตัวเพิ่งได้ไปเยี่ยม “ชาวอุยกูร์” เมื่อเกือบ 1 เดือนก่อนหน้านั้น เพื่อติดตามดูชีวิตความเป็นอยู่ เนื่องจากชาวอุยกูร์ราว 40 คนถูกส่งกลับจีน โดยการตัดสินใจของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย จนถูกประณามจากชาติตะวันตก สหรัฐฯ และองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนเกือบทั่วโลก
ช่วงหนึ่งของการพูดในงานเมืองโบราณยะรัง พ.ต.อ.ทวี แสดงความประทับใจในวิถีชีวิตของชาวอุยกูร์ในมณฑลซินเจียง ซึ่งเป็นคนมุสลิมเหมือนพี่น้องในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และบอกทำนองว่าซินเจียงเป็นเขตปกครองพิเศษ ซึ่งให้คนท้องถิ่นปกครองกันเอง ทำให้คนที่นั่นมีความสุข และเคยคิดว่าสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยจะเป็นแบบนั้นบ้างหรือไม่
ภายหลัง พ.ต.อ.ทวี พูดและปรากฏเป็นข่าวในสื่อมวลชน ทำให้กลุ่ม สว.แสดงความไม่สบายใจ เพราะเห็นว่าอาจจะเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 1 ที่บัญญัติว่า “ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้”
โดย สว.เตรียมเดินหน้ายื่นองค์กรตรวจสอบเพื่อเอาผิด พ.ต.อ.ทวี ในเรื่องนี้
ความเคลื่อนไหวของ สว.ทำให้ พ.ต.อ.ทวี ประหลาดใจ และออกมายืนยันกับ “ทีมข่าวอิศรา” ว่า สิ่งที่ตนพูด ไม่ได้พูดเรื่อง “เขตปกครองพิเศษชายแดนใต้” เลยแม้แต่น้อย
“สิ่งที่พูด คือให้ความสำคัญเรื่องภาษาและวัฒนธรรม ไม่ได้พูดเรื่องเขตปกครองพิเศษเลย เพียงแต่บอกชื่อเขตปกครองพิเศษซินเจียงที่เป็นชื่อสากลที่ชาวจีนใช้เรียกมณฑลของชาวอุยกูร์เท่านั้น”
พ.ต.อ.ทวี ยังเห็นว่า เรื่องนี้อาจเป็นประเด็นทางการเมือง เพราะ สว.สายสีน้ำเงินกำลังถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้นเรื่องฟอกเงินและ “โพยฮั้ว สว.” โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และมีตนเป็นรองประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ จึงอาจพยายามเคลื่อนไหวเพื่อกดดันอะไรหรือไม่ แต่ยืนยันว่าตนไม่หวั่นไหว และหากทาง สว.ยังไม่หยุดดำเนินการ อาจจะต้องใช้ช่องทางตามกฎหมายในการปกป้องสิทธิของตนเองต่อไป