เหตุรุนแรงถี่ๆ ในรอบกว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งระเบิดโชเล่ย์บอมบ์โดนเด็กฮาฟิซ ทั้งยิงชาวบ้านไทยพุทธที่แว้ง และยิงเณรที่สะบ้าย้อย
หลายฝ่ายให้ข้อมูลตรงกันว่า เกิดจากปฏิบัติการไอโอของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง จนเกิดความเข้าใจว่า เจ้าหน้าที่รัฐยิงอดีตอุสตาซเสียชีวิตที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 เม.ย.68 จึงเปิดปฏิบัติการแก้แค้นเอาคืน
อ่านประกอบ : “บึ้ม - ยิง - ปล่อยข่าวลือ” วงจรกลุ่มป่วนใต้ดิสเครดิตรัฐ
“ทีมข่าวอิศรา” เปิดข้อมูลเป็นสื่อแรกๆ ว่ามีการปล่อยข่าวลือโจมตีเจ้าหน้าที่ จนอาจเกิดเหตุการณ์รุนแรงขนาดใหญ่ตามมา
จากนั้นก็มี พล.ท.สุรเทพ หนูแก้ว หรือ “บิ๊กจ้อย” ผอ.ศปป.5 กอ.รมน. ออกมาคอนเฟิร์มข้อมูล รวมถึงแกนนำภาคประชาสังคมในพื้นที่อย่าง อัญชนา หีมมิหน๊ะ
อ่านประกอบ : กอ.รมน.เปิดต้นตอยิงเณร-ไทยพุทธ ผลพวงปั่นข่าวยิงอดีตอุสตาซ
แต่น่าแปลกที่ไม่ได้มีแถลงการณ์ยืนยันอย่างเป็นทางการจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อปฏิเสธข่าว ทว่ากลับมีการออกแถลงการณ์เชิงเรียกร้องให้กลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐทบทวนแนวทาง ให้ยุติใช้ความรุนแรง
ล่าสุดแม้แต่อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ก็ยังพูดโดยอ้างอิงข้อมูลเดียวกัน จากการให้สัมภาษณ์ล่าสุดที่ จ.เชียงใหม่ วันเสาร์ที่ 26 เม.ย.68
“มันเกิดจากอุสตาซคนหนึ่งลอบถูกยิง แล้วถูกเข้าใจว่าเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่ไทย ซึ่งไม่จริง เราก็พยายามดูเรื่องนี้ ส่วนอีกกรณีที่หนีไปอยู่รัฐกลันตัน ตอนนี้กำลังตามตัว คิดว่าเอาอยู่”
น่าสนใจว่า เหตุการณ์ยิงอดีตอุสตาซรายนี้ เหตุใดถึงถูกหยิบไปปล่อยข่าวลือ และมีน้ำหนักอย่างมาก จนทำให้เกิดปฏิบัติการแก้แค้นเอาคืนอย่างรุนแรงตามมา (หากเชื่อตามข้อสันนิษฐานที่ให้ข่าวกัน)
แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า จากข้อมูลของฝ่ายความมั่นคง ซึ่งจัดทำเป็นรายงานส่งถึงผู้บังคับบัญชา กลับพบข้อเท็จจริงว่า ชายคนที่ถูกยิงตายที่ อ.สุไหงโก-ลก คือ นายอับดุลรอนิง ลาเตะ กลับไม่ได้เป็นอดีตอุสตาซ แต่มีฉายาที่เพื่อนเรียกกันว่า “อุสตาซ”
นี่คือข้อมูลส่วนหนึ่งจากรายงานของฝ่ายความมั่นคง!!
@@ โอละพ่อ? คนถูกยิงไม่ใช่อดีตอุสตาซ แค่ชื่ออุสตาซ!
รายงานชิ้นนี้ ได้ข้อมูลมาจากการทำประชาคมในพื้นที่ ผ่านกลไก “สภาสันติสุขตำบล” วาระพิเศษ จัดขึ้นที่ ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก หลังเกิดเหตุยิงอดีตอุสตาซไม่กี่วัน
ข้อมูลที่ได้จึงไม่ใช่ “แฟ้มข้อมูลของฝ่ายความมั่นคง” แต่มาจากภาคประชาชน ราชการ และผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ในพื้นที่ตัวจริง
ข้อมูลโดยสรุปคือ
- นายอับดุลรอนิง ลาเตะ อายุ 60 ปี เป็นชาวบ้านตำบลท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา
- ถูกลอบยิงเสียชีวิตบริเวณหน้า ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฟาร์มิลล์ติ รับเบอร์ หมู่ 4 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก
- ผู้เสียชีวิตเคยจบการศึกษาจากประเทศอินโดนีเซีย และได้กลับมาอาศัยในประเทศไทย โดยภูมิลำเนาเดิมอยู่ในพื้นที่ตำบลท่าธง อ.รามัน
- ภายหลังย้ายมาอาศัยในพื้นที่ ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก ได้ประมาณ 1 ปีกว่าๆ เพื่อมาประกอบธุรกิจค้าขายยางพารากับประเทศมาเลเซีย
- นามเรียก “อุสตาซ” เป็นเพียงนามเรียกในกลุ่มขบวนการ เป็นนามเรียกที่ถูกจัดตั้งโดยกลุ่มขบวนการฯ (หมายถึงขบวนการที่อ้างอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดน) ซึ่งไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการเป็นครูผู้สอนศาสนาในพื้นที่
- ผู้นำท้องถิ่นให้ข้อมูลว่า นายอับดุลรอนิง ลาเตะ ไม่ใช่ได้รับการยอมรับจากชาวบ้านในชุมชนว่าเป็น “อุสตาซ” หรือครูผู้สอนศาสนา เนื่องจากเจ้าตัวไม่ได้มีบทบาทของการเป็นครูผู้สอน หรือผู้ให้ความรู้ด้านศาสนาแก่คนในพื้นที่ เป็นเพียงชื่อฉายาที่ถูกในกลุ่มขบวนการจัดตั้งขึ้นเท่านั้น
- มูลเหตุและแรงจูงใจในการก่อเหตุสังหารผู้เสียชีวิต มีการตั้งข้อสันนิษฐานด้วยกัน 2 ประเด็น คือ 1.เรื่องความขัดแย้งภายในกลุ่มขบวนการเอง และ 2.ความขัดแย้งทางธุรกิจส่วนตัว
- หน่วยกำลังในพื้นที่ให้ข้อมูลตรงกันว่า จากการชันสูตรภายในร่างผู้เสียชีวิต มีหัวกระสุนจำนวนหนึ่ง ซึ่งไม่ทราบชนิดและขนาดถูกยิงเข้าจุดสำคัญ แต่ในพื้นที่จุดเกิดเหตุที่พบร่างผู้เสียชีวิตไม่พบปลอกกระสุนในพื้นที่ ขั้นต้นข้อมูลชนิดของหัวกระสุนยังอยู่ระหว่างการสืบสวน และผลพิสูจน์หลักฐานจะชี้แจงให้ทราบต่อไป
@@ สะท้อนขบวนการปล่อยข่าวลือทรงประสิทธิภาพ!
เป็นที่น่าสังเกตว่า ถ้าข้อมูลชุดนี้เป็นความจริงทั้งหมด ก็แปลว่าขบวนการสร้างข่าวลือของผู้ก่อความไม่สงบ หรือกลุ่มขบวนการฯ มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง เพราะทำให้พวกของตนเอง ประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐ หรือแม้แต่อดีตนายกฯ เข้าใจผิดได้ว่า ผู้ตายเป็น “อุสตาซ” ซึ่งหมายถึง “ครูสอนศาสนา” จนเรื่องนี้บานปลายใหญ่โต
ทั้งๆ ที่ข้อมูลชุดนี้กลับบอกว่า คำว่า “อุสตาซ” เป็นชื่อเรียก หรือฉายาที่เรียกขานกันในกลุ่มขบวนการเท่านั้นเอง
