คนร้ายซุกระเบิดในกล่องควบคุมกล้องวงจรปิดบนเสาไฟฟ้า อ.จะแนะ นราธิวาส ชุดสืบสวนคดีความมั่นคงปืนขึ้นไปตรวจสอบภาพ หวังหาเบาะแสคดียิงหญิงชราดับคาไม้เท้า ตูมสนั่น ดับ 1 เจ็บ 2 คาดเฝ้าดูการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ แล้ววางแผนซ่อนวัตถุอันตราย หวังสร้างความสูญเสียต่อเนื่อง แฉเป็นครั้งแรกที่ใช้ยุทธวิธีรูปแบบนี้
เมื่อเวลา 13.14 น.วันอาทิตย์ที่ 4 พ.ค.68 ตำรวจ สภ.จะแนะ รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดไว้ในกล่องควบคุมกล้องวงจรปิดบนเสาไฟฟ้า ในพื้นที่บ้านไอร์ซือเระ หมู่ 3 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส และเกิดระเบิดขึ้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บหลายนาย จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ คือ ตำรวจชุดสืบสวนคดีความมั่นคง สังกัดกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส โดยบาดเจ็บจากแรงระเบิดจากจุดดังกล่าวจำนวน 3 นาย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจะแนะ ประกอบด้วย
1.ส.ต.ท.ภคพงศ์ สุวรรณชะนะ อาการสาหัส โดนสะเก็ดระเบิดเข้าที่ใบหน้าและข้อมือซ้าย เสียชีวิตในเวลาต่อมา
2.ด.ต.สาธิต คำแหง โดนสะเก็ดระเบิดบริเวณศีรษะ
3.ส.ต.ท.ธีปกรณ์ ชูสิงห์ โดนสะเก็ดระเบิดบริเวณขาขวา
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุระเบิด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคดีความมั่นคง ได้นำกำลังลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุยิงหญิงชราตาบอดจนเสียชีวิต และลูกชายได้รับบาดเจ็บ ในพื้นที่บ้านไอร์บือแต หมู่ 4 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เมื่อวันศุกร์ที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา
ขณะเจ้าหน้าที่ใช้บันไดพาดเสาไฟฟ้า เพื่อปืนขึ้นไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่บนเสาไฟฟ้า ห่างจากจุดเกิดเหตุยิงสองแม่ลูกประมาณ 4 กิโลเมตร โดยที่ไม่รู้ว่าคนร้ายได้นำระเบิดแสวงเครื่องไม่ทราบขนาดไปใส่ไว้ในกล่องควบคุมกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่บนเสาไฟฟ้า เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดกล่องควบคุมกล้องวงจรปิด จึงได้เกิดระเบิดขึ้น แรงระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย และภายหลังสิ้นใจที่โรงพยาบาล 1 นายดังกล่าว
สำหรับ ส.ต.ท.ภคพงศ์ สุวรรณชะนะ ที่เสียชีวิต เป็นผู้บังคับหมู่ (ผบ.หมู่) งานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน ตำรวจภูธร จ.นราธิวาส
เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สะท้อนว่ากลุ่มคนร้ายมีการเฝ้าสังเกตุการณ์การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จนพบว่าหลังเกิดเหตุรุนแรง เจ้าหน้าที่จะไปเก็บข้อมูลจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งบนเสาไฟฟ้าในเส้นทางเกิดเหตุ เพื่อนำไปตรวจสอบ ทำให้คนร้ายวางแผนนำระเบิดแสวงเครื่องไปซุกเอาไว้ในกล่องควบคุมกล้องวงจรปิดที่เสาไฟฟ้า เพื่อหวังทำร้ายเจ้าหน้าที่ เพราะรู้ว่าหลังเกิดเหตุยิงชาวบ้านแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องมาเปิดกล่องควบคุมกล้องวงจรปิดดังกล่าว
สำหรับรูปแบบการนำระเบิดไปซุกซ่อนไว้ในกล่องควบคุมกล้องวงจรปิดในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรก เพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้เจ้าหน้าที่ที่เปิดกล่องควบคุมไม่ได้ระแวง หรือเอะใจ หรือระมัดระวังเป็นพิเศษว่าคนร้ายจะก่อเหตุระเบิดในลักษณะนี้ขึ้น
เบื้องต้นสันนิษฐานว่า เป็นการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงกลุ่มเดียวกันกับที่ก่อเหตุยิงยิงหญิงชราเสียชีวิต และลูกชายได้รับบาดเจ็บ โดยเป็นวางแผนก่อเหตุต่อเนื่องเชื่อมโยงมาจากเหตุดังกล่าว
