
เหตุการณ์ระทึกขวัญ สกัดจับ 2 หนุ่มจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ที่ จ.พังงา ขณะขับรถยนต์เก๋ง ป้ายทะเบียนสุรินทร์ ภายในรถซุกซ่อนอุปกรณ์ประกอบระเบิดและดินระเบิด เมื่อวันที่ 23 ต่อเนื่องวันที่ 24 มิ.ย.68 นั้น
เหตุการณ์นี้ลุกลามบานปลายไปมาก เพราะมีการไล่กล้องวงจรปิด พบผู้ร่วมขบวนการอีกหลายราย รวมถึงสอบปากคำขยายผลจากชายหนุ่ม 2 คนแรกที่ถูกควบคุมตัวได้ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถยิงทำลายวัตถุต้องสงสัยที่ติดตั้งไปกับรถจักรยานยนต์ ซึ่งถูกคนร้ายนำไปจอดภายในท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต รวมทั้งตามไปเก็บกู้ระเบิดตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของภูเก็ต ทั้งแหลมพรหมเทพ และหาดป่าตอง

แต่ปฏิบัติการของคนร้ายกลุ่มนี้ยังไม่จบแค่นั้น โดย ณ ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ยึดรถยนต์ได้ 1 คัน ซึ่งถูกจับพร้อม 2 หนุ่มชายแดนใต้ที่พังงา และตรวจพบรถจักรยานยนต์ที่เกี่ยวข้องอีก 3 คัน คือคันที่ประกอบระเบิดแล้ว และนำไปจอดก่อเหตุที่ท่าอากาศยานภูเก็ต คันนี้ถูกเจ้าหน้าที่ยิงทำลาย, คันที่ 2 พบที่มัสยิดแห่งหนึ่งใน จ.กระบี่ และคันที่ 3 เป็นคันที่ใช้ขับขี่กลับชายแดนใต้ มีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด ผ่านพืนที่ อ.สิเกา และ อ.เมือง จ.ตรัง

จนถึงขณะนี้พบการวางระเบิดในพื้นที่ จ.ภูเก็ต 5 จุด คือ ที่หาดป่าตอง 2 จุด ที่แหลมพรหมเทพ 1 จุด ที่หาดสุรินทร์ 1 จุด และที่ท่าอากาศยานภูเก็ต 1 จุด (จุดสนามบินเป็นรถจักรยายนต์)
ทั้งยังพบการวางระเบิดที่ จ.กระบี่ จำนวน 5 จุด หนึ่งในนั้นคือที่มัสยิด เป็นรถจักรยานยนต์ ส่วนที่เหลือยังค้นหาไม่พบ แต่ข้อมูลการวางระเบิด 5 จุด มาจากคำให้การของผู้ที่ถูกจับกุม

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ข้อมูลจากการแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่า กลุ่มคนร้ายยังมีช่วงเวลา 30 นาที หายไปใน อ.สิเกา จ.ตรัง คาดว่านำระเบิดไปวางในพื้นที่ โดยคนร้ายซึ่งใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ แต่เจ้าหน้าที่ยังหาวัตถุระเบิดไม่พบ
ส่วนทีมปฏิบัติการที่ร่วมก่อเหตุมีทั้งหมด 6 คน เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้แล้ว 5 คน ได้แก่
1.นายมูหามะ วาเด็ง ภูมิลำเนาอยู่ที่ ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ถูกจับที่ จ.พังงา
2.นายสุไลมาน กาซา ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ถูกจับที่ จ.พังงา เช่นกัน ขณะขับรถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ สีดำ ป้ายทะเบียนสุรินทร์ ไปตระเวนวางระเบิดในพื้นที่ จ.ภูเก็ต
3.นายซอลาฮุดีน แยนา
4.นายมูฮัมหมัดซิ๊กดิ๊ก ยุนุ
5.นายรอมือซี เจะเฮง
สามรายนี้ถูกควบคุมตัวขณะเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าค้นบ้าน ใน ต.ม่วงเตี้ย อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี
ส่วน นายเปาะซู (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องสงสัยอีกรายหนึ่ง ยังคงหลบหนี
@@ ค้นบ้านเช่าที่ยะรัง จุดรวมตัวก่อนปฏิบัติการ

การติดตามล่าตัว “ทีมปฏิบัติการบึ้มป่วนอันดามัน” ยังคงเข้มข้น และเจ้าหน้าที่ปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมายแบบปูพรม
กำลังผสมเข้าบังคับใช้กฎหมาย พิสูจน์ทราบที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง ในพื้นที่บ้านโคกหญ้าคา หมู่ 6 ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เนื่องจาก นายมูหามะ วาเด็ง ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ที่ จ.พังงา ให้การซัดทอดว่าใช้เป็นจุดรวมตัวก่อนเดินทางไปก่อเหตุในพื้นที่ จ.ภูเก็ต
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้านี้ไม่พบบุคคลต้องสงสัยเพิ่มเติมที่บ้านเช่าหลังนี้ แต่ได้ยึดวัตถุพยานไว้หลายรายการ ส่วนใหญ่เป็นของใช้ส่วนตัวของผู้อาศัย เพื่อนำไปตรวจสอบหาความเชื่อมโยง โดยเฉพาะแปรงสีฟัน ก้นบุหรี่ ไฟแช็ค หมวกเดินป่า
@@ อุกอาจ! วางระเบิดหน้าจวนผู้ว่าฯพังงา

จุดที่กลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิด ยังพบเพิ่มเติมที่ จ.พังงา บริเวณรั้วหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัด โดยเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ตรวจสอบแล้วเป็นวัตถุระเบิดจริง แต่เก็บกู้ได้สำเร็จ ไม่มีใครได้รับอันตราย
@@ เปิดแผนประทุษกรรม “หว่านระเบิด” แหล่งท่องเที่ยว

สำหรับการซักถามและสอบปากคำ นายมูหามะ วาเด็ง กับ นายสุไลมาน กาซา สองผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมชุดแรกที่ จ.พังงา ทั้งคู่ให้การรับสารภาพ โดยมีข้อมูลสำคัญดังนี้
- ตั้งใจนำระเบิดไปวาง 4 ลูกที่ภูเก็ต โดยมี “จยย.บอมบ์” เป็นรถจักรยานยนต์สีขาว ทะเบียน 3422 ซึ่งขี่ร่วมขบวนไปจากสงขลา เพื่อไปร่วมก่อเหตุ และมีแผนทำเป็น “จยย.บอมบ์” เข้าไปจอดที่สนามบินภูเก็ต
- มูหามะ วาเด็ง ให้การว่า ออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 21.00 น. ของวันที่ 21 มิ.ย. โดยให้เพื่อนขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งที่หาดสะกอม และเมื่อไปถึงจุดนัดพบ ก็มีรถยนต์เก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีดำ ป้ายทะเบียนสุรินทร์ จอดรออยู่แล้ว รวมถึงรถจักรยานยนต์อีก 3 คัน
- ทั้งหมดเดินทางขึ้นภูเก็ตพร้อมกัน โดยผลัดกันขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมทั้งสลับเสื้อแจ็คเก็ตกัน บรรทุกวัตถุระเบิดและน้ำมันเชื้อเพลิงไว้ในกระโปรงหลังของรถยนต์ นอนพักที่กระบี่ 1 คืน แล้วจึงเดินทางต่อ
- เมื่อไปถึงภูเก็ต ได้นำกระเป๋าส่งอาหาร แบบเดียวกับที่ไรเดอร์ใช้ มาติดตั้งที่รถจักรยานยนต์ และขับไปวางระเบิดที่สนามบิน
- ระหว่างรอเวลา ได้ไปแวะพักที่มัสยิดบ้านท่าฉัตรไชย รวมตัวกันกินข้าว ละหมาด โดยใช้มัสยิดระหว่างทางเป็นจุดแวะพักและรวมตัว
- มีการนำระเบิดไปวางที่แหลมพรหมเทพ 1 ลูก ที่หาดป่าตอง 2 ลูก จากนั้นได้แยกย้ายกันเดินทางกลับ กระทั่งถูกจับกุม
