
เริ่ม 18 ส.ค.ทั่วประเทศ ทุกเครือข่าย! กสทช. ออกมาตรการเข้ม ทุกค่ายมือถือต้องใช้เทคโนโลยี Liveness Detection ป้องกันสวมรอยลงทะเบียนซิม สกัดการก่ออาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ ล้อมคอกใช้ซิมมือถือก่อวินาศกรรม บทเรียนจากเหตุระเบิดชายแดนใต้
พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช. เดินหน้ามาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเพิ่มความปลอดภัยในการใช้บริการโทรศัพท์มือถือ ด้วยการนำเทคโนโลยี Liveness Detection มาตรวจสอบตัวตนแบบเรียลไทม์ ในขั้นตอนลงทะเบียนซิมการ์ด เพื่อป้องกันการสวมรอย
เป้าหมายเพื่อลดความเสี่ยงจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ รวมถึงการก่อวินาศกรรม และก่อความไม่สงบในรูปแบบต่างๆ ที่ใช้ซิมหรือโทรศัพท์มือถือเป็นส่วนประกอบ ซึ่งเกิดขึ้นแล้วในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวต่อว่า มาตรการนี้ครอบคลุมผู้ใช้บริการรายใหม่ ทั้งระบบเติมเงินและรายเดือน รวมถึงผู้ใช้รายเดิมที่เปลี่ยนซิมการ์ด แต่ใช้หมายเลขเดิม เริ่มใช้งานวันจันทร์ที่ 18 ส.ค.68 เป็นต้นไป ทุกพื้นที่ทั่วประเทศพร้อมกันทันที
สำหรับเทคโนโลยี Liveness Detection เป็นเทคโนโลยีตรวจสอบว่า ผู้ยืนยันตัวตนเป็นบุคคลจริง ไม่ใช่ภาพถ่าย วิดีโอ หรือหน้ากาก 3 มิติ โดยระบบสแกนใบหน้าจะขอให้ผู้ใช้กระพริบตา หรือหยุดนิ่ง คล้ายการยืนยันตัวตนในแอปพลิเคชันธนาคาร ซึ่งต่างจากวิธีเดิมที่เพียงถ่ายรูปก็สามารถลงทะเบียนได้ ทำให้มิจฉาชีพใช้ภาพหรือวิดีโอบุคคลอื่นมาสวมรอย
พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวอีกว่า ผู้ใช้บริการสามารถลงทะเบียนและยืนยันตัวตนด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการค่ายมือถือ ศูนย์บริการ รวมถึงร้านค้าตัวแทนจำหน่าย และร้านค้าย่อยทั่วประเทศ โดยผู้ให้บริการต้องเก็บข้อมูลอย่างปลอดภัยสูงสุด ตามข้อกำหนดของ กสทช. สำนักงาน กสทช. และ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

โดยเอกสารในการลงทะเบียนให้ใช้ฉบับจริงที่ยังไม่หมดอายุ แบ่งตามกลุ่มผู้ใช้บริการ ดังนี้
- บุคคลสัญชาติไทย ต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง
- บุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย ต้องใช้หนังสือเดินทาง หรือ พาสปอร์ต ฉบับจริงเท่านั้น
- กรณีนิติบุคคล ต้องมีหนังสือรับรองนิติบุคคล และเอกสารแสดงตนของผู้มีอำนาจ
@@ สกัดอาชญากรรมออนไลน์ - ใช้มือถือบึ้มป่วนใต้

พล.ต.อ.ณัฐธร บอกด้วยว่า กสทช. ให้ความสำคัญกับการปกป้องสิทธิของผู้บริโภค และยกระดับความมั่นใจในการใช้บริการโทรคมนาคม มาตรการนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากภัยไซเบอร์และอาชญากรรมต่างๆ ที่ใช้หมายเลขโทรศัพท์เป็นเครื่องมือ พร้อมขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการปฏิบัติตามขั้นตอน เพื่อสร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้
“ตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค. ทุกเครือข่าย ทั้งทรู เอไอเอส ต้องใช้ระบบเดียวกันทั่วประเทศ ป้องกันการปลอมหรือสวมรอยลงทะเบียนซิม แล้วนำมาก่ออาชญากรรมออนไลน์ และการกระทำผิดรูปแบบอื่น โดยเฉพาะการก่อความไม่สงบ หรือก่อวินาศกรรม โดยใช้ซิมหรือโทรศัพท์มือถือเป็นเครื่องมือ ซึ่งเคยเกิดขึ้นในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” กรรมการ กสทช. ระบุ
