
วันพฤหัสบดีที่ 4 ก.ย.68 มีรายงานว่า นายพระนาย สุวรรณรัฐ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เสียชีวิตลงแล้ว สิริรวมอายุได้ 73 ปี ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว ญาติมิตร
โดยตลอดชีวิตราชการของนายพระนาย ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศอ.บต.) ช่วงปี พ.ศ.2549-2552 ถือเป็น ผอ.ศอ.บต.คนสุดท้ายก่อนเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านเป็นเลขาธิการ ศอ.บต. หลังจากบังคับใช้ พระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายภาคใต้ พ.ศ.2553 (นายภาณุ อุทัยรัตน์ เป็นผู้บริหาร ศอ.บต.ช่วงเปลี่ยนผ่าน จาก ผอ. เป็นเลขาธิการ)
@@ จากนักปกครอง สู่ ผอ.ศอ.บต.

นายพระนาย สุวรรณรัฐ เกิดเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 ที่ จ.ลำปาง เป็นบุตรชายคนสุดท้องของ นายพ่วง สุวรรณรัฐ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กับ ม.ร.ว.ประสาร สุวรรณทองแถม โดยมีพี่น้องทั้งหมด 5 คน และเป็นน้องชายของ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี
สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย ระดับปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโทด้านบริหารรัฐกิจจากมหาวิทยาลัยอินเดียนา สหรัฐอเมริกา
ตลอดชีวิตราชการเขาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง ตั้งแต่เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไปที่ จ.เชียงราย, ปลัดอำเภอแม่แตง จ.เชียงใหม่ และ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
ขึ้นเป็นนายอำเภออมก๋อย จ.เชียงใหม่ เป็นหัวหน้าสำนักงานจังหวัด ปลัดจังหวัด และรองผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.บุรีรัมย์ และ จ.กระบี่
ก่อนจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดครั้งแรกที่ จ.สิงห์บุรี และเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี กระทั่งเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2549 ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศอ.บต.)
จากนั้นได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตั้งเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในปี 2551 และปลัดกระทรวงมหาดไทย ในปี 2554
@@ นำ ศอ.บต.ขับเคลื่อนแก้ปัญหาชายแดนใต้ทุกมิติ

ขณะที่ได้รับมอบหมายให้เป็น ผอ.ศอ.บต.ในปี 2549 ซึ่งเป็นช่วงที่สถานการณ์ในพื้นที่วิกฤต นายพระนาย ได้เผชิญกับความท้าทายอย่างมาก ทั้งในด้านการจัดโครงสร้างองค์กรที่ขาดความพร้อม งบประมาณ และบุคลากรที่ไม่เพียงพอ
แต่เขาได้ยึดมั่นยุทธศาสตร์พระราชทาน ของในหลวงรัชกาลที่ 9 "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" เป็นเข็มทิศในการทำงาน โดยเน้นย้ำว่าปัญหาภาคใต้มีความซับซ้อนและต้องใช้การแก้ไขแบบเฉพาะทาง ไม่ใช่ใช้หลักทฤษฎีทั่วไป
ทั้งยุทธศาสตร์ "ชิงคน ชิงพื้นที่ ชิงมวลชน" ที่เขามุ่งเน้นการเอาชนะใจประชาชน โดยเฉพาะการดึงเยาวชนในพื้นที่ให้เข้าใจบทบาทและการทำงานของฝ่ายรัฐ สร้างสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคมที่ดี และขจัดเงื่อนไขความไม่เป็นธรรม
เน้นมิติของการส่งเสริมบทบาทผู้นำท้องถิ่น ให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้าใจและส่งเสริมบทบาทของผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน และปัญญาชนมุสลิม เพื่อร่วมกันแก้ไขและพัฒนาบ้านเกิดของตนเอง โดยมีแนวคิดว่า "คนในท้องถิ่นจะต้องมีบทบาทในการแก้ไขปัญหาของตนเอง"
นอกจากนี้ ยังสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนโดยการส่งเสริมให้ชุมชนจัดระบบดูแลความปลอดภัยของตนเอง สร้างเครือข่ายยุติธรรมชุมชนเพื่อไกล่เกลี่ยกรณีพิพาท และร่วมมือกับนักวิชาการด้านสันติวิธี
การทำงานอย่างทุ่มเทของในฐานะ ผอ.ศอ.บต. เป็นเวลาประมาณ 3 ปี สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเขาในการคลี่คลายสถานการณ์ความไม่สงบ และวางรากฐานการทำงานของ ศอ.บต. ยุคใหม่ให้เดินหน้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพจนถึงปัจจุบัน
นับเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่มีคุณูปการต่อการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีเป้าหมายเพื่อสันติสุขที่ยั่งยืน
