
ปฏิบัติการปิดล้อม-ไล่ล่าที่สะบ้าย้อย สงขลา ยังไม่จบ เสียงปืนดังระลอกใหม่ รอบนี้ักลุ่มติดอาวุธต้องสงสัยดับ 1 เผยส่งทีมพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมาย 8 จุด พบอุปกรณ์สนาม เสบียง เครื่องมือสื่อสาร พร้อมรอยเลือด มั่นใจมีสมาชิกได้รับบาดเจ็บจากการปะทะวันแรก ผบช.ภ.9 สั่งผู้การ 4 จังหวัดยกระดับมาตรการป้องกันเหตุร้าย ส่วนที่ปะนาเระ เผาวอด “แบคโฮ” ขณะทำงานก่อสร้างโครงการพัฒนาของรัฐ
ความคืบหน้าปฏิบัติการปิดล้อมไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบ ซึ่งสร้างที่พักพิงชั่วคราวอยู่บริเวณเนินเขา ป่ายางพารา บ้านห้วยเต่า หมู่ 7 ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา โดยแม้จะมีการปะทะกันไปแล้ว 2 ระลอก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 ก.ย.68 โดยไม่มีฝ่ายใดสูญเสีย แต่ภารกิจของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยังไม่จบ เพราะเชื่อว่ากองกำลังติดอาวุธต้องสงสัยยังคงซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่เป้าหมาย
จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังเพิ่มเติมของทีมข่าว ทำให้ทราบว่า ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 05.30 น. ของวันที่ 11 ก.ย. โดยมีการยิงปะทะกันอย่างดุเดือดถึง 3 ครั้ง ในช่วงเวลา 05.30 น., 07.53 น. และ 11.30 น.

หลังการปะทะ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.10) ได้เข้าตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุทั้ง 8 จุด และพบหลักฐานสำคัญหลายอย่าง ซึ่งบ่งชี้ว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงน่าจะมีผู้ได้รับบาดเจ็บ หลักฐานที่พบประกอบด้วย
- เปลสนามและกระเป๋าสะพาย พบในจุดที่ 1 และ 2
- คราบเลือด พบเศษผ้าเปื้อนเลือดในจุดที่ 3 ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่ามีผู้บาดเจ็บ
- อุปกรณ์ยังชีพ พบอุปกรณ์ยังชีพที่ถูกไฟไหม้ คาดว่าเกิดจากกระสุนที่ถูกพาวเวอร์แบงค์ แล้วกลายเป็นเพลงลุกไหม้ขึ้น

- เครื่องมือสื่อสารและข้าวของส่วนตัว พบสมาร์ทโฟน 2 เครื่อง, หูฟัง, เงินสด 1,000 บาท, เสื้อผ้า, อุปกรณ์หุงต้ม, ยารักษาโรค, รองเท้า และกระเป๋าในจุดที่ 5 และ 7 พบกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 30 นัด ในจุดที่ 6 กล้องส่องวัดระยะ, ไฟฉายคาดศีรษะ, แบตเตอรี่สำรอง และถังแก๊สขนาดเล็ก
แม้จะมีการปะทะกันหลายรอบ แต่เจ้าหน้าที่ทุกนายปลอดภัยและไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ล่าสุดช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ 12 ก.ย. ได้เกิดการยิงปะทะกันอีกระลอกบนเนินเขา เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังคงปิดล้อมพื้นที่และเชื่อว่ากลุ่มก่อความไม่สงบยังซ่อนตัวอยู่
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่คาดว่า กองกำลังติดอาวุธของกลุ่มก่อความไม่สงบ คือกลุ่มของ นายฮุสนี ยีกะเส็ม ซึ่งมีสมาชิก ประมาณ 5-7 คน

มีรายงานเบื้องต้นว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการร่วมจังหวัดปัตตานีได้ยิงปะทะกับกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่บ้านห้วยเต่า เป็นผลให้มีกลุ่มติดอาวุธต้องสงสัยเสียชีวิต 1 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่ปลอดภัย
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 05.50 น. ระหว่างที่ชุดปฏิบัติการสลาตัน และเจ้าหน้าที่ทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 (ฉก.ทพ.46) ได้วางกำลังในพื้นที่เป้าหมายตามแผนปฏิบัติการ และได้เกิดการปะทะกันกับกลุ่มติดอาวุธเป็นเวลาประมาณ 10 นาที ภายหลังการปะทะ เจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่และยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
นอกจากนี้ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ยังได้กำชับให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยและเพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อป้องกันการตอบโต้จากกลุ่มคนร้ายในพื้นที่ต่างๆ เช่น ที่ตั้งหน่วย บ้านพัก และฐานปฏิบัติการ พร้อมทั้งเน้นย้ำให้มีการบูรณาการกำลังร่วมกันอย่างเข้มข้นต่อไป เพราะมีความเป็นไปได้ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจะสร้างสถานการณ์ในพื้นที่อื่น เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเจ้าหน้าที่ ซึ่งกำลังปฏิบัติการอยู่ใน อ.สะบ้าย้อย
@@ เผาวอดรถแบคโฮที่ ปะนาเระ ปัตตานี

อีกด้านหนึ่ง ยังคงมีเหตุการณ์ความไม่สงบอื่นๆ เกิดขึ้นควบคู่กันไปด้วย โดยเมื่อช่วงค่ำของวันพฤหัสบชดีที่ 11 ก.ย. คนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ลอบวางเพลิงเผารถแบคโฮ บริเวณสถานที่ก่อสร้างสะพาน สี่แยกบางมะรวด ในพื้นที่บ้านบางมะรวด ต.บ้านกลาง อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี โดยรถแบคโฮที่ถูกเผาเป็นของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) เธียรปรีชาก่อสร้าง ซึ่งกำลังทำงานก่อสร้างในพื้นที่ โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่า คนร้ายต้องการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ เนื่องจากการทำลายเครื่องจักรที่ใช้ในโครงการพัฒนาของรัฐ เป็นรูปแบบการก่อกวนที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่มักนำมาใช้ตลอด เพื่อสร้างความหวาดกลัวและขัดขวางโครงการดีๆ ของหน่วยงานรัฐ ป้องกันฝ่ายตัวเองเสียมวลชน
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานอยู่ระหว่างการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียง รวมถึงสอบปากคำพยานแวดล้อมเพื่อติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับ หจก. เธียรปรีชาก่อสร้าง มีสำนักงานตั้งอยู่ที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี มี นายกอบธรรม เธียรปรีชา เป็นเจ้าของ ที่ผ่านมาเคยถูกคนร้ายลอบวางเพลิงเผารถแบคโฮมาแล้ว เมื่อวันที่ 18 ก.ค.67 ขณะจอดบริเวณสถานที่ก่อสร้างถนนสาย 410 (ช่วงปัตตานี-ยะลา) ในพื้นที่บ้านบราโอ หมู่ 1 ต.ประจัน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
