รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยันลูกกระสุนระเบิด M79 ที่ยึดได้ขณะส่งเป็นพัสดุไปแม่สอด ไม่มีในบัญชีอาวุธกองทัพ พร้อมเผยขั้นตอนซื้อขาย-ส่งของจากคำรับสารภาพของผู้ต้องหา อดีตทหารพราน พบยังผู้ร่วมขบวนการอีก อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผล
วันพฤหัสบดีที่ 23 ต.ค.68 พ.อ.เอกวริทธิ์ ชอบชูผล รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) และหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ได้ชี้แจงความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกล่ำ จ.สงขลา ได้ตรวจยึดกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิด M79 (ขนาด 40 มม.) จำนวน 36 ลูก ภายในกล่องพัสดุของบริษัทขนส่งสินค้าเอกชนแห่งหนึ่ง ที่บริเวณคลังเก็บสินค้าเตรียมส่งต่อ เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมาวันที่ 22 ต.ค.68 เจ้าหน้าที่สามารถ ควบคุม นายกีซัม วุธางกูร อดีตทหารพราน และส่งตัวเข้ากระบวนการซักถาม เจ้าตัวให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้จัดส่งลูกกระสุนดังกล่าวจริง จึงเร่งขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการนั้น
โดย พ.อ.เอกวริทธิ์ เปิดเผยคำให้การของ นายกีซัม ว่า ในช่วงเดือน ก.ค. - ส.ค.68 นายกีซัมได้รับการติดต่อจากบุคคลรายหนึ่งที่รู้จักกันมาก่อนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ว่ามีความต้องการจัดหาลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด 40 มิลลิเมตร นายกีซัมจึงติดต่อไปยังผู้จัดหารายหนึ่ง เพื่อดำเนินการจัดหาให้ โดยตกลงราคาซื้อขายกันผ่านช่องทางออนไลน์
ต่อมาวันที่ 14 ต.ค.68 ผู้จัดหารายดังกล่าวแจ้งว่า สามารถจัดหาลูกกระสุนได้แล้ว แต่ยังไม่สะดวกส่งมอบของ จนกระทั่งวันที่ 20 ต.ค.68 ได้มีการนัดหมายให้ไปรับของที่บริเวณร้านสะดวกซื้อภายในสถานีบริการน้ำมัน แยกมลายูบางกอก ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา ในช่วงเวลาประมาณใกล้เที่ยงคืน ซึ่งก่อนเดินทางไปรับของ นายกีซัมได้ติดต่อกลับไปยังผู้ว่าซื้อ เพื่อแจ้งราคาลูกกระสุนและขอให้โอนเงินค่าซื้อขายเข้าบัญชีของญาติ จากนั้นนายกีซัมจึงเดินทางไปรับของตามนัด และได้โอนเงินให้ผู้จัดหาผ่านบัญชีธนาคาร ก่อนนำลูกกระสุนกลับมาที่บ้านใน จ.นราธิวาส
ต่อจากนั้น วันที่ 21 ต.ค. นายกีซัมได้นำลูกกระสุนดังกล่าวบรรจุกล่องใส่พัสดุ และส่งผ่านบริษัทขนส่งเอกชน โดยใช้ชื่อและที่อยู่ปลอมทั้งผู้ส่งและผู้รับ รวมทั้งหมายเลขโทรศัพท์ที่ซื้อล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ เพื่อปกปิดตัวตน และติดตามการจัดส่งพัสดุด้วยตนเอง
จนในวันที่ 22 ต.ค. ระหว่างที่นายกีซัม เดินทางไปทำธุระส่วนตัวในพื้นที่ จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่ทหารได้แสดงตัวเข้าจับกุม และนำตัวไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อดำเนินการซักถามเบื้องต้น ก่อนส่งต่อไปยัง ศูนย์ซักถามหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถามเชิงลึก และขยายผลทางคดีต่อไป
รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. กล่าวว่า จากการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่า กระสุนเครื่องยิงลูกระเบิดล็อตที่ตรวจพบและยึดได้ ไม่ได้อยู่ในบัญชีสิ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในกองทัพบก โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนเชิงลึก เพื่อสืบหาผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม รวมถึงตรวจสอบแหล่งที่มาว่ามาจากแหล่งใด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างรอบคอบและโปร่งใสต่อไป
