
ปัญหาความมั่นคง ถูกตั้งคำถามอย่างน่ากังวลว่ารัฐบาลเพื่อไทยจะเอาอย่างไรต่อไป หลังจากนายกฯแพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
เพราะผลที่ตามมาไม่ใช่จำกัดแค่ตัวนายกฯแพทองธาร ที่อาจโดนสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ซ้ำอีกในฐานะ รมว.วัฒนธรรม และยังเกิดคำถามทางกฎหมายว่า ตัวท่านเองสามารถเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณได้หรือไม่ แม้ในฐานะ รมว.วัฒนธรรม ก็ตาม
แต่ปัญหาที่ลึกล้ำ ซ้ำซ้อนมากไปกว่านั้น คือ ขณะนี้ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง คือใคร? เพราะ รองฯภูมิธรรม เวชยชัย พ้นจากตำแหน่งเดิม และย้ายกระทรวง ที่สำคัญยังไม่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณ ช่วงนี้จึงเป็นสุญญากาศ
ประเทศกำลังมีปัญหาความมั่นคง ทั้งข้อพิพาทชายแดนกับกัมพูชา และไฟใต้ที่ขยายพื้นที่ก่อเหตุรุนแรงไปนอกปลายด้ามขวาน มุ่งสู่การวางระเบิดจังหวัดชายทะเลอันดามัน แต่กลับไม่มีผู้รับผิดชอบที่สามารถ “อินชาร์จ” ได้เต็มมือ
หนักกว่านั้น รัฐบาลยังไม่ตั้ง รมว.กลาโหม แต่มีข่าวมอบหมายให้ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาราชการแทน
การตั้ง ครม.แบบ “ไร้หัวที่กลาโหม” ทำให้งานความมั่นคงยิ่งชะงักหรือไม่ เพราะกองทัพเป็นกำลังหลักในการแก้ไขปัญหา ทั้งกัมพูชาและไฟใต้
เกิดคำถามดังก้องไปทั่วว่า รัฐบาลใชัหลักการอะไรในการพิจารณาปรับ ครม.รูปแบบนี้ ขนาดถาม AI อย่าง Chat GPT และ Gemini ยังบอกตรงกันว่า นี่คือความผิดปกติของการเมืองไทย
ข่าวที่อ้างว่าเว้นว่างเก้าอี้ไว้รอ “บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ถือว่าสมเหตุสมผลหรือไม่
ยิ่งไปกว่านั้น ความเป็นพรรคการเมือง และเป็นพรรคใหญ่อย่างเพื่อไทย ต้องพร้อมบริหารประเทศในทุกตำแหน่ง ทุกกระทรวงมิใช่หรือ การเว้นว่าง หรือไม่มีบุคลากรเข้าปฏิบัติหน้าที่บางกระทรวง ถือเป็นความบกพร่องของพรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่
“ทีมข่าวอิศรา” ตรวจสอบความเห็นจากคนชายแดนใต้ โดยตั้งคำถามในประเด็นเหล่านี้
@@ ไม่เกี่ยวไฟใต้ แค่ชนชั้นนำไทยคุยไม่ลงตัว
อาจารย์ประสิทธิ์ เมฆสุวรรณ นักวิชาการอิสระ และอดีตประธานสภาประชาสังคมชายแดนใต้คนแรก กล่าวว่า การถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ของนายกฯแพทองธาร ถือเป็นความอัปลักษณ์ของการเมืองไทย และองค์กรอิสระมีส่วนต้องรับผิดชอบ
ขณะที่การไม่ยอมตั้ง รมว.กลาโหม น่าจะเป็นความไม่ลงตัวในการจัดสรรอำนาจของกลุ่มชนชั้นนำ ไม่เกี่ยวกับกรณีปัญหาภาคใต้
@@ กระทบปลายด้ามขวาน เปิดช่องทหารกุมบังเหียน
นางสาวอัญชนา หีมมิหน๊ะ แกนนำกลุ่มด้วยใจ กล่าวว่า การที่นายกฯ ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ หมายถึงกระบวนการสันติภาพและการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ยิ่งถูกเลื่อนออกไป และล่าช้ามากขึ้น ยิ่งทำให้ขาดทิศทางในการแก้ปัญหา ซึ่งปัจจุบันทหารเป็นผู้นำในการจัดการอยู่แล้ว โดยเน้นปราบมากกว่าการใช้แนวทางทางการเมือง ซึ่งวิธีการแบบนี้ไม่ยั่งยืน
สำหรับตำแหน่ง รมว.กลาโหม มีความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงมองว่าไม่ง่ายที่จะหาบุคคลที่เหมาะสม อาจจะยังหาคนไม่ได้
“แต่ทั้งสองปัจจัยจะส่งผลอย่างหนักต่อจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะขาดนโยบายและการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาทางการเมือง เพราะในปัจจุบันมีการใช้ความรุนแรงมากขึ้น ขยายพื้นที่มากขึ้น มีเยาวชนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการทางทหารมากขึ้น ทำให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อน หากขาดนโยบายการเจรจาสันติภาพที่ชัดเจน จะยิ่งทำให้สถานการณ์กลับไปสู่ความรุนแรงเหมือนช่วงปี 2550” แกนนำกลุ่มด้วยใจ ระบุ
และว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่กรุงเทพฯ ยิ่งทำให้สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้แย่ลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นรัฐบาลต้องตัดสินใจอย่างเร่งด่วนว่าจะดำเนินการอย่างไร
@@ เจรจา BRN ส่อชะงัก เจอสุญญากาศการเมือง
ทางด้านเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ กล่าวว่า ทั้งเรื่องนายกฯถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ และการไม่แต่งตั้ง รมว.กลาโหม ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก ทำให้เกิด “สุญญากาศทางการเมือง” และความไม่แน่นอนในระดับนโยบาย ส่งผลกระทบทางอ้อมต่อปัญหาชายแดนใต้ เพราะทำให้การกำหนดทิศทางยุทธศาสตร์ เช่น แผนสันติภาพ หรือการเจรจากับ BRN ต้องหยุดชะงัก ไม่มีผู้นำในการขับเคลื่อน
“การไม่ตั้ง รมว.กลาโหม ทำให้เกิดช่องว่างในการสั่งการ และลดประสิทธิภาพการประสานงาน โดยเฉพาะกับกองทัพภาค 4 ขณะนี้การแก้ปัญหาในภาคใต้ต้องอาศัย ‘แผนยุทธศาสตร์ร่วม’ ระหว่าง ศอ.บต. กอ.รมน. และฝ่ายพลเรือน ซึ่งหากไม่มีคนกลาง คือ รมว.กลาโหม ที่มีอำนาจเต็ม จะทำให้กลไกเหล่านี้เคลื่อนไหวช้าลง และขาดเอกภาพ”
“ที่สำคัญจะส่งผลต่อการพูดคุยสันติภาพอย่างแน่นอน เพราะทหารยังเป็นคู่เจรจาสำคัญ โดยเฉพาะในการเจรจาลับ หรือช่องทางที่ไม่เป็นทางการ ถ้าไม่มีรัฐมนตรีกลาโหมที่ได้รับการยอมรับ จะทำให้การส่งสัญญาณ หรือการให้คำมั่นทางยุทธศาสตร์กับขบวนการ เช่น BRN ขาดน้ำหนัก” แหล่งข่าวซึ่งเป็นทหารที่ทำงานเชิงยุทธศาสตร์ในพื้นที่ ระบุ
แหล่งข่าวคนเดิม สรุปว่า กรณีนายกฯแพทองธาร ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ จะทำให้เกิดความไม่แน่นอนทางการเมือง และนโยบายระดับชาติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความต่อเนื่องของยุทธศาสตร์ดับไฟใต้ ส่วนการไม่มี รมว.กลาโหม ทำให้งานความมั่นคงไร้ทิศทาง
@@ ประธานพูโล รับ สะเทือนกระบวนการสันติภาพ
นายกัสตูรี มาห์โกตา ประธานองค์การพูโล ให้สัมภาษณ์ข้ามประเทศว่า เมื่อเกิดความไม่มั่นคง หรือความปั่นป่วนขึ้นในใจกลางรัฐบาลกรุงเทพฯ ย่อมส่งผลกระทบต่อการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ในภาพรวมทั้งประเทศ รวมถึงพื้นที่ปาตานี (สามจังหวัดชายแดนภาคใต้) และกระบวนการเจรจาสันติภาพด้วย
