
การออกมาแสดงท่าทีแนวๆ “สะกิดเตือนไทย” ของ นายกฯอันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซีย ให้รีบเดินหน้ากระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพ/สันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับการอธิบายจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในอีกมิติหนึ่ง
โดย นายภูมิธรรม ยืนยันว่า รัฐบาลไม่เคยทิ้งหรือมองข้ามปัญหาชายแดนใต้ แต่ทำงานอย่างต่อเนื่องมาตลอด และมีความคืบหน้าสำคัญทั้งในเรื่อง ”ยุทธศาสตร์ดับไฟใต้” ที่เคยมีนโยบายให้ไปทบทวน และการเตรียมตั้งคณะพุดคุยสันติสุขชุดใหม่ โดยมีชื่อกรรมการเตรียมไว้หมดแล้ว
ทั้งหมดได้รับการสื่อสารผ่านบทสัมภาษณ์พิเศษชิ้นนี้ ที่กระทรวงมหาดไทย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 ส.ค.68
@@ ช่วงนี้มีปัญหาเรื่องไทย-กัมพูชาอยู่ แล้วจู่ๆ ท่านอันวาร์ (นายกฯ มาเลเซีย) ก็ออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องปัญหาภาคใต้ คล้ายๆ ตีความได้ว่าเหมือนกับทวงว่าเมื่อไหร่ประเทศไทยเราจะตั้งคณะพูดคุยฯสักที เพราะว่าเขาก็พร้อมที่จะเข้ามาไกล่เกลี่ยแก้ปัญหาในฐานะประธานอาเซียนแล้ว
ภูมิธรรม : จริงๆ เรื่องนี้ท่านอันวาร์ในฐานะประธานอาเซียน ท่านก็อยากจะให้อาเซียนเข้าสู่จุดที่สงบ และท่านก็สนใจในปัญหาของส่วนต่างๆ ไปประชุมครั้งที่แล้ว ครั้งที่ผมไปมาเลเซียตอนทำเรื่องยุติปัญหาขัดแย้งไทย-กัมพูชา ผมก็ได้เรียนท่าน และยังบอกว่าเรื่องนี้ยังอยู่ในความสนใจของรัฐบาลที่จะรีบดำเนินการผลักดันอยู่
เพราะฉะนั้นหลังจากเรื่องกัมพูชาซาลงเมื่อไหร่ ผมก็อยากจะบินไปพบท่าน แล้วก็จะได้คุยกันในรายละเอียด อันนี้ก็ได้พูดไปแล้ว ท่านอันวาร์ก็ได้ทราบถึงเจตนา ตอนนั้นคุยกันแล้ว ท่านก็บอกว่าหลังจากนี้เราจะนัดกันอีกที จริงๆ ผมกลับมา (จากที่ไปมาเลเซียเมื่อ 28 ก.ค. ทำความตกลงหยุดยิงกับกัมพูชา) ผมก็ดำเนินการต่างๆ ขณะนี้ไม่ใช่ว่าเห็นเราในหน้างานแล้วเราทำเรื่องกัมพูชาอย่างเดียว เพราะข้างหลังเราก็ทำ
เรื่องนี้เราคืบหน้าไปถึงขั้น...ขณะนี้จริงๆ เรามีการรวบรวมบุคคล แล้วก็ตอบรับแล้วหลายส่วน ที่จะตั้งคณะเจรจาชุดใหม่ แต่ก็ต้องอยู่ในเงื่อนไข
ผมคิดว่าถ้าเรื่องของกัมพูชามันคลายลง ผมก็จะบินไปมาเลเซียทันที เพื่อจะพูดคุยกับท่านอันวาร์ เพราะว่าผมมีเรื่องหลายเรื่องที่อยากคุย มีเรื่องหลายเรื่องที่อยากจะทำความเข้าใจกัน และก็คิดว่าถ้าเราเข้าใจในสิ่งต่างๆ ร่วมกัน การที่จะแก้ไขปัญหานี้โดยมีมาเลเซียเป็นตัวที่มีส่วนเข้ามาช่วยผลักดัน มันก็จะช่วยให้การแก้ปัญหามันเกิดขึ้นได้
ขณะนี้ผมได้คิดเรื่องโมเดลของการแก้ไขปัญหาทางสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เรียบร้อยแล้วในฐานะที่เป็นดราฟต์ที่คิด จริงๆ ถ้าไม่มีเรื่องกัมพูชามา มันกำลังจะเข้าที่ประชุม สมช.(สภาความมั่นคงแห่งชาติ) เพื่อให้รับแล้ว ตอนนี้อยู่ในระหว่างปรับปรุงตรงนี้นิดหนึ่ง แล้วก็จะเอาเข้ามาให้ทุกฝ่ายได้ทำความเข้าใจ ถ้าทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน ก็จะสามารถเดินไปด้วยกันพร้อมๆ กับที่ผมไปมาเลเซียเพื่อคุยกับท่านอันวาร์ พร้อมๆ กับข้อสรุปต่างๆ ที่ผมเตรียมไว้แล้ว
@@ ก็คือเป็นเรื่องต่อเนื่องจากที่เคยได้ให้ไปฟังข้อมูลทุกฝ่ายในการปรับยุทธศาสตร์ใช่หรือไม่

เราไม่ได้หยุดเลย ก็ตอนนี้มันมีอะไรต่างๆ ชัดเจนขึ้น ก็รอให้กัมพูชา-ไทยนิ่งกว่านี้หน่อย ก็จะได้หันกลับไปใช้เวลากับเรื่องนี้มากขึ้น
@@ ถ้าเผื่อคนสามจังหวัดอยากจะรู้หมุดหมาย ท่านคิดว่าน่าจะภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้น่าจะเห็นคณะพูดคุยฯ แล้วการเดินหน้าการพูดคุยสันติสุขหรือไม่
เห็นก่อนแน่นอนครับ ทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้แล้ว แต่ขออนุญาตที่ยังเปิดตัวอะไรไม่ได้
@@ สุดท้ายเรื่องภาคใต้ที่ว่าจะมีการปรับยุทธศาสตร์ใหม่ จะต้องมีการปรับตัวบุคคล อย่างเช่น แม่ทัพภาคที่ 4 ด้วยหรือไม่ เพราะว่าจริงๆ ท่านก็ยังไม่เกษียณ แต่ท่านอยู่มา 1 ปี และมีข่าวอาจจะเปลี่ยนตัว
จริงๆ ถ้าเวลาผมพิจารณา เรื่องคนเป็นเรื่องสุดท้าย เรื่องจริงๆ ที่ต้องตกผลึกก่อนคือเรื่องยุทธศาสตร์ เรื่องทิศทางที่เดิน กับเรื่องความพร้อมของเราทั้งหมด พอถึงตรงที่เราชัดเจนว่าทิศทางเราเดินอย่างไร ยุทธศาสตร์เราเป็นแบบไหน เรื่องคนถึงมาพิจารณาว่าเหมาะสมที่จะเดินตามยุทธศาสตร์ใหม่หรือไม่ เพราะฉะนั้นตรงนี้คงเป็นเรื่องสุดท้าย
แต่ถ้าตรงนี้ต้องเชื่อมั่นท่าน (แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ท.ไพศาล หนูสังข์) ว่าท่านทำงานได้ดี แล้วก็ยังไม่มีอะไรที่เป็นข้อบกพร่อง
————————
หมายเหตุ : บทสัมภาษณ์โดย ปกรณ์ พึ่งเนตร บรรณาธิการบริหาร เนชั่นทีวี และ บรรณาธิการศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา
ภาพ : เนชั่นทีวี
