"...หากถึงเวลาต้อง ‘ทิ้งมหาดไทย’ จริง ๆ ว่ากันว่า ‘ก๊กน้ำเงิน’ ซึ่ง ‘เขี้ยวลากดิน’ ในทางการเมือง อาจเปิดดีลใหม่ 2 สูตรที่น่าสนใจ ยื่นให้ ‘ก๊กแดง’ พิจารณา 1.สูตรปี 2562-2566 แบ่งเป็น รองนายกฯ 1 ตำแหน่ง ที่เหลือยึดหัวหาด ‘คมนาคม-สาธารณสุข-ท่องเที่ยวและกีฬา’ เหมือนช่วงปี 2562-2566 โดยรอบนี้ยอมลดตำแหน่ง ‘รัฐมนตรีว่าการ’ ลง 1 เก้าอี้ แต่ขอ ‘คุมเบ็ดเสร็จ’ ทั้ง 3 กระทรวงข้างต้น..."
พลันที่ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้มากบารมี ‘ก๊กแดง’ ออกปาก ‘ทวงคืน’ เก้าอี้ ‘มหาดไทย’ ทำเอา ‘ก๊กน้ำเงิน’ อยู่ไม่สุข มีประชุมวงใน-วงลับ หารือแก้เกมนี้กันพัลวัน
กระทั่งเริ่มมีสัญญาณถูกปล่อยออกมาเรื่อย ๆ ว่า ‘ภูมิใจไทย’ พร้อมหากมีการปรับ ครม. แต่ ‘ไม่ขอแลก’ ต้องใช้วิธี ‘เซตซีโร่’ พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดต้องมาเจรจา ‘แบ่งเค้ก’ กันใหม่

@ ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี
ฝุ่นควันจากการเขย่าปรับ ครม.ครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลาง 2 คดีร้อนที่คาดว่าจะเกิด ‘ทีเด็ดทีขาด’ ในเดือน มิ.ย. 2568 ได้แก่ 1.วันที่ 13 มิ.ย. 2568 ศาลฎีกาฯ นัดไต่สวน ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกฯ กรณีถูกศาลสั่งไต่สวนประเด็นถูกกล่าวหาไม่ได้ถูกจำคุกตามคำพิพากษา และถูกส่งตัวไปพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจโดยมิชอบ โดยศาลฎีกาฯนัด ‘ทักษิณ’ พร้อมคู่ความคือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโจทก์แทน คตส. พร้อมสำเนาคำร้องให้ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่รพ.ตำรวจ ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาล
2.ช่วงกลางเดือน มิ.ย. 2568 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ดำเนินการสอบสวน ‘คดีฮั้ว สว.’ ประเด็นการฟอกเงิน ในตอนนี้ เตรียมยกระดับผลการสอบสวนครั้งสำคัญ โดยคาดว่าอาจใช้สำนวนการไต่สวนจากคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน ส่วนกลาง คณะที่ 26 ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เข้าไปร่วมเป็นคณะกรรมการฯด้วย โดยคณะกรรมการสืบสวนฯ คณะที่ 26 ก่อนหน้านี้ ได้เรียก สว.เข้าไปรับทราบข้อกล่าวหา ‘คดีฮั้ว’ มาแล้วถึง 6 ลอต จำนวนกว่าร้อยคน มีทั้งบรรดา สว.ที่ถูกครหาว่าอิงแอบ ‘ก๊กน้ำเงิน’ พร้อมด้วยบรรดา ‘นักเลือกตั้งก๊กน้ำเงิน’ อีกหลายคน ในจำนวนนี้มีชื่อ ‘เนวิน-กรุณา ชิดชอบ’ รวมอยู่ด้วย
ทั้ง 2 คดีร้อนดังกล่าวถูกมองว่าอาจเป็น ‘ตัวแปรสำคัญ’ ในการปรับ ครม.ครั้งนี้ เพราะต้องไม่ลืมว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาทั้ง ‘ก๊กแดง-ก๊กน้ำเงิน’ ต่างใช้กลยุทธ์ ‘สงครามเย็น’ ดีลหน้าฉาก-รบหลังฉากกันมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่เรื่อง ‘เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์’ เรื่อง ‘จัดแข่งโมโตจีพี’ ลากยาวมาถึงกรณี ‘ฮั้ว สว.’ เป็นต้น
กลับมาที่สูตรการปรับ ครม. คำถามสำคัญคือทำไม ‘ก๊กแดง’ ต้องการทวงคืนเก้าอี้ ‘มหาดไทย’ คืนจาก ‘ก๊กน้ำเงิน’ กูรูการเมืองประเมินกันว่า ในการเลือกตั้งครั้งถัดไปที่กำลังจะมาถึงอีก 1-2 ปีข้างหน้า กระแสของ ‘ก๊กแดง’ น่าจะลดลงจากเดิม เนื่องจาก ‘ก๊กส้ม’ เดินสายปักธงทางความคิด กวาดต้อนฐานแฟนคลับมวลชน ‘เสื้อแดงอกหัก’ ไปได้จำนวนมาก รวมถึง ‘คนรุ่นใหม่’ ที่แน่นอนว่าส่วนใหญ่เลือก ‘ก๊กส้ม’ เพราะผิดหวังในช่วงจัดตั้งรัฐบาลที่ ‘พรรคแดง’ เขี่ยทิ้ง ‘พรรคส้ม’ ไปสังฆกรรมกับ ‘ก๊วนรัฐประหารเดิม’

@ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย
การยึดหัวหาด ‘มหาดไทย’ ของ ‘ก๊กแดง’ ครั้งนี้ จึงหวังขับเคลื่อน ‘กลไกท้องถิ่น’ แบบที่ ‘ก๊กน้ำเงิน’ ถนัดและทำมาโดยตลอดหลายปี ตั้งแต่ยุคคุม ‘กระทรวงหมอ’ ก็ใช้ ‘อสม.’ ขับเคลื่อนงาน พอได้คุม มท.ก็ใช้ฐานท้องถิ่น ที่ผูกขาดโดย ‘บ้านใหญ่’ บัญชาการเกมรบทางการเมืองแทน ซึ่งกลไกนี้ประสบความสำเร็จค่อนข้างมาก เห็นได้จากผลลัพธ์การเลือกตั้ง อบจ.เมื่อปี 2568 ที่ผ่านมา โดยวางตัว ‘ประเสริฐ จันทรรวงทอง’ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม คนปัจจุบัน ไปนั่ง รมว.มหาดไทย
อย่างไรก็ดี หากถึงเวลาต้อง ‘ทิ้งมหาดไทย’ จริง ๆ ว่ากันว่า ‘ก๊กน้ำเงิน’ ซึ่ง ‘เขี้ยวลากดิน’ ในทางการเมือง อาจเปิดดีลใหม่ 2 สูตรที่น่าสนใจ ยื่นให้ ‘ก๊กแดง’ พิจารณา 1.สูตรปี 2562-2566 แบ่งเป็น รองนายกฯ 1 ตำแหน่ง ที่เหลือยึดหัวหาด ‘คมนาคม-สาธารณสุข-ท่องเที่ยวและกีฬา’ เหมือนช่วงปี 2562-2566 โดยรอบนี้ยอมลดตำแหน่ง ‘รัฐมนตรีว่าการ’ ลง 1 เก้าอี้ แต่ขอ ‘คุมเบ็ดเสร็จ’ ทั้ง 3 กระทรวงข้างต้น
2.สูตรคุมกระทรวงเศรษฐกิจ แบ่งเป็นรองนายกฯ 1 ตำแหน่งที่กำกับดูแลสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ที่เหลือคุม ‘เกษตรฯ-ดิจิทัลฯ-ทรัพยากรฯ-พาณิชย์’ เพื่อหวังขับเคลื่อนงานด้านเกษตรกรรม น้ำ และทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีโครงการต่าง ๆ ลงท้องถิ่นจำนวนมาก
ส่วนประเด็นการสลับเก้าอี้ระหว่าง มหาดไทย กับ ศึกษาธิการนั้น คาดว่าสูตรนี้คงไม่เกิดขึ้น เพราะกระทรวงเกรดต่างกันเกินไป แม้งบประมาณของ ‘ศธ.’ จะมีมหาศาล แต่ศักดิ์ศรี และการขับเคลื่อนงานทางการเมือง ‘มท.’ เหนือกว่าหลายขุม ซึ่ง ‘ก๊กน้ำเงิน’ คงไม่มีทางยอมให้เกิดขึ้น
อย่างไรก็ดีทั้ง 2 สูตรนี้ยังมิได้ถูกเคาะอย่างเป็นทางการจาก ‘ก๊กน้ำเงิน’ ขณะที่บรรดานักเลือกตั้งพรรคภูมิใจไทย ต่างดาหน้าปฏิเสธผ่านสื่อว่า ที่ผ่านมายังมิได้มีการหารือกันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการปรับ ครม.ในครั้งนี้ ทว่ามีกระแสข่าวว่า ในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ น่าจะมีการคุยกันเพื่อเคาะให้ลงตัวอีกครั้งหนึ่ง
ขณะเดียวกันใช่ว่า ‘ก๊กแดง’ จะยอมตามที่ ‘ก๊กน้ำเงิน’ เปิดดีลมาทั้งหมด คงต้องรอ ‘นายใหญ่’ ผู้มากบารมี คิดทบทวนแผนการให้สะเด็ดน้ำ ก่อนเดินหมากปรับ ครม.ครั้งนี้ เพื่อสมผลประโยชน์ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในสถานการณ์การเมืองร้อนแรงในตอนนี้
แต่สูตรการปรับ ครม.ข้างต้น คงจะยังเคาะให้ลงตัวไม่ได้ง่าย ๆ จนกว่าจะผ่านพ้น 2 ตัวแปร ‘คดีสำคัญ’ ที่จะเกิดขึ้นช่วงกลางเดือน มิ.ย.นี้ บทสรุปจะเป็นอย่างไร ต้องรอติดตามกันอย่างเป็นทางการต่อไป
