เช่าซื้อรถหด 9.58%-กู้ยืมอสังหาฯโต! ‘ธปท.’เผยไตรมาส 4/67‘หนี้ครัวเรือน’ต่อGDPเหลือ 88.4%

bot 05 04 25 pic

‘แบงก์ชาติ’ เผยสถิติหนี้ครัวเรือนไตรมาส 4/67 อยู่ที่ 16.42 ล้านล้าน คิดเป็น 88.4% ต่อจีดีพี กู้ยืมซื้ออสังหาฯยังโต 2.33% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่เงินกู้เช่าซื้อ ‘รถยนต์-รถจักรยานยนต์’ หดตัว 9.58%

.................................

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่ข้อมูลสถิติเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือน หรือหนี้สินครัวเรือน ณ สิ้นไตรมาส 4/2567 โดยหนี้สินครัวเรือน มีจำนวน 16,421,666 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 88.4% ต่อจีดีพี เพิ่มขึ้น 30,213 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (4/2566) ที่หนี้สินครัวเรือนมีจำนวน 16,391,453 ล้านบาท หรือคิดเป็น 91.3% ต่อจีดีพี

อย่างไรก็ดี หากเปรียบเทียบหนี้สินครัวเรือน ณ สิ้นไตรมาส 4/2567 กับไตรมาสก่อน (3/2567) ที่หนี้สินครัวเรือนมีจำนวน 16,357,962 ล้านบาท (คิดเป็น 88.9% ต่อจีดีพี) พบว่าหนี้สินครัวเรือนมีจำนวนเพิ่มขึ้น 63,704 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.39%

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณารายละเอียดเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือนจำแนกตามวัตถุประสงค์ พบว่า ณ สิ้นไตรมาส 4/2567 เงินกู้ยืมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ มีจำนวน 5,661,571 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 128,722 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (4/2566) ที่เงินกู้ยืมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ มีจำนวน 5,532,849 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 52,675 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.94% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (3/2567) ที่เงินกู้ยืมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ มีจำนวน 5,608,896 ล้านบาท

ส่วนเงินกู้ซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีจำนวน 1,625,145 ล้านบาท ลดลง 172,260 ล้านบาท หรือลดลง 9.58% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 4/2566) ที่เงินกู้ซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีจำนวน 1,797,405 ล้านบาท และลดลง 40,817 ล้านบาท หรือลดลง 2.45% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (3/2567) ที่เงินกู้ซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีจำนวน 1,665,962 ล้านบาท

สำหรับเงินกู้ยืมเพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลอื่น มีจำนวน 4,651,937 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 118,041 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 4/2566) ที่เงินกู้ยืมเพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลอื่น มีจำนวน 4,533,896 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 57,909 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.26% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (3/2567) ที่เงินกู้ยืมเพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลอื่น มีจำนวน 4,594,028 ล้านบาท

ขณะที่เงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพ มีจำนวน 2,909,420 ล้านบาท ลดลง 9,518 ล้านบาท หรือลดลง 0.32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 4/2566) ที่เงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพมีจำนวน 2,918,938 ล้านบาท และลดลง 1,586 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.05% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (3/2567) ที่เงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพ มีจำนวน 2,911,006 ล้านบาท

bot 05 04 25 1

นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาข้อมูลเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือน ณ สิ้นไตรมาส 4/2567 พบว่าหนี้สินครัวเรือนส่วนใหญ่ หรือ 13,177,004 ล้านบาท เป็นหนี้สินที่ครัวเรือนกู้ยืมจากสถาบันรับเงินฝาก ประกอบด้วย ธนาคารพาณิชย์ จำนวน 6,209,289 ล้านบาท ,สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่รับฝากเงิน จำนวน 4,497,357 ล้านบาท ,สหกรณ์ออมทรัพย์ จำนวน 2,407,074 ล้านบาท และสถาบันรับฝากเงินอื่นๆ จำนวน 63,285 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาถึงหนี้สินที่ครัวเรือนกู้ยืมธนาคารพาณิชย์ ที่มีจำนวน 6,209,289 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 4/2567 นั้น พบว่าลดลง 180,923 ล้านบาท หรือลดลง 2.83% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2566 ที่หนี้สินที่ครัวเรือนกู้ยืมธนาคารพาณิชย์ที่มีจำนวน 6,390,212 ล้านบาท และลดลง 19,552 ล้านบาท หรือลดลง 0.31% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2567 ที่หนี้สินที่ครัวเรือนกู้ยืมธนาคารพาณิชย์ที่มีจำนวน 6,228,841 ล้านบาท

สำหรับหนี้สินครัวเรือนที่กู้ยืมจากสถาบันการเงินอื่น ณ สิ้นไตรมาส 4/2567 มีจำนวน 2,505,269 ล้านบาท ประกอบด้วย บริษัทบัตรเครดิต ลิสซิ่ง และสินเชื่อส่วนบุคคล จำนวน 1,973,080 ล้านบาท , บริษัทประกันภัยและประกันชีวิต จำนวน 195,022 ล้านบาท ,บริษัทหลักทรัพย์ จำนวน 81,025 ล้านบาท ,ธุรกิจบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน จำนวน 94,183 ล้านบาท ,โรงรับจำนำ จำนวน 102,536 ล้านบาท และสถาบันการเงินอื่นๆ จำนวน 59,422 ล้านบาท

bot 05 04 25 2