
‘ธปท.’ เผยสินเชื่อ ‘ระบบธนาคารพาณิชย์’ ไตรมาส 2/68 หดตัว -0.9% ขณะที่ ‘หนี้เสีย’ อยู่ที่ระดับ 2.91% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน มอง NPL มีแนวโน้มเพิ่ม จากผลกระทบมาตรการภาษีสหรัฐฯ
...........................................
เมื่อวันที่ 19 ส.ค. น.ส.สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงสรุปภาพรวมธนาคารพาณิชย์ ไตรมาส 2/2568 ว่า ระบบธนาคารพาณิชย์มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ โดยมีเงินกองทุน เงินสำรอง และสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ดี สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ (รวมเครือ) ไตรมาส 2/2568 หดตัวต่อเนื่อง โดยหดตัว -0.9% จากระยะเดียวกันปีก่อน แต่หดตัวในอัตราที่ชะลอลงจาก -1.3% ในไตรมาสก่อน
ขณะที่การระดมทุนผ่านตราสารหนี้หดตัวมากขึ้น โดยหลักๆมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลายเจ้าที่หันมากู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์เพิ่มเติม และมีการนำไปชำระหนี้หุ้นกู้ด้วย ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงระมัดระวังการลงทุนในกลุ่มตราสารหนี้ในกลุ่ม high yield ที่มีความเสี่ยงสูง

น.ส.สุวรรณี กล่าวต่อว่า สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ฯ ไตรมาส 2/2568 ที่หดตัว -0.9% ดังกล่าว มาจากการหดตัวของสินเชื่อธุรกิจที่หดตัว -0.1% จากระยะเดียวกันปีก่อน แต่อัตราการหดตัวลดลงจากไตรมาสก่อนที่สินเชื่อธุรกิจหดตัว -0.8% ขณะที่สินเชื่ออุปโภคบริโภคยังคงหดตัวต่อเนื่อง โดยหดตัว -2.2% เท่ากับไตรมาสที่แล้ว
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาการขยายตัวของสินเชื่อแยกตามขนาดธุรกิจ พบว่าสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ยังขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยขยายตัวที่ 2.7% ส่วนใหญ่เป็นการขยายตัวในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การเงิน และภาคอุตสาหกรรมการผลิต ขณะที่สินเชื่อธุรกิจ SMEs ยังคงหดตัวต่อเนื่อง และหดตัวในทุกเซ็กเตอร์ โดย ธปท.เห็นความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์กับลูกหนี้ SMEs และเน้นให้สินเชื่อกับลูกหนี้เดิมที่มีประวัติการชำระเงินดี มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
สำหรับสินเชื่ออุปโภคบริโภคหดตัวต่อเนื่อง โดยเป็นการการหดตัวของสินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล โดยสินเชื่อเช่าซื้อยังคงหดตัวต่อเนื่อง โดยหดตัว -9.7% จากความระมัดระวังในการให้สินเชื่อ แต่เริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกจากยอดขายรถยนต์ในช่วงไตรมาส 2/2568 สูงกว่าค่าเฉลี่ยในปีที่แล้ว รวมทั้งเริ่มเห็นสัญญาณรถยึดที่น้อยลงต่อเนื่องมาจากไตรมาสก่อน ทำให้ดัชนีราคารถยนต์มือสองมีเสถียรภาพมากขึ้น
ส่วนสินเชื่อบัตรเครดิตหดตัวต่อเนื่อง จากยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรฯที่ลดลง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ถือบัตรที่มีรายได้เกิน 5 หมื่นบาท และสินเชื่อส่วนบุคคลหดตัวเล็กน้อยที่ -0.1% ส่วนใหญ่เป็นการหดตัว จากส่วนที่ได้ปล่อยกู้ไปมากในช่วงก่อนหน้า โดยเฉพาะสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์และกลุ่ม home for cash ที่ขยายตัวค่อนข้างสูงในช่วงที่ผ่านมา
ในขณะที่สินเชื่อที่อยู่อาศัยยังขยายตัวที่ 0.1% แต่ขยายตัวในอัตราชะลอตัวจากไตรมาสก่อน อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาส 2/2568 ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน (1/2568) ซึ่งเป็นผลจากการผ่อนคลายมาตรการ LTV และการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองอสังหาริมทรัพย์

น.ส.สุวรรณี ระบุด้วยว่า ในภาวะวิกฤตโควิดปี 2563 ต่อเนื่องปี 2564 นั้น จีดีพีปรับตัวลดลง แต่สินเชื่อต่อจีดีพีปรับสูงขึ้น ซึ่งการสะสมของสินเชื่อในช่วงดังกล่าว ทำให้เมื่อเวลาไปผ่านไป ก็คาดการณ์ได้ว่าแนวโน้มสินเชื่อจะชะลอตัวต่อไปอีกระยะหนึ่งในช่วง Deleverage จากการสะสมความเปราะบางในช่วงที่เจอวิกฤต อย่างไรก็ดี ยังคงมีสินเชื่อปล่อยใหม่อยู่ แต่ส่วนที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน คือ การชำระคืนหนี้ที่อยู่ในระดับสูง

น.ส.สุวรรณี กล่าวว่า ยอดคงค้างสินเชื่อ NPL (Stage 3) ไตรมาส 2/2568 ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 554.9 พันล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมที่ 2.91% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนเล็กน้อยที่ NPL อยู่ที่ 2.90% โดยหลักจากสินเชื่อธุรกิจเป็นสำคัญ และเมื่อเข้าไปดูพบว่าสินเชื่อธุรกิจที่เป็น NPL จะอยู่ในกลุ่มธุรกิจ SMEs ที่ผ่านการให้ความช่วยเหลือมาแล้วหลายครั้ง แต่ในท้ายที่สุดธุรกิจไม่ฟื้นตัว
ขณะที่ปริมาณ NPL ของสินเชื่ออุปโภคบริโภคปรับลดลงทุกประเภท ทั้งสินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล

สำหรับสินเชื่อ Stage 2 ปรับลดลงในเกือบทุกพอร์ต ยกเว้นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีวงเงินสินเชื่อเกิน 500 ล้านบาท โดยหลักเป็นการจัดชั้นดีขึ้นของลูกหนี้ที่สามารถชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ส่งผลให้สัดส่วน stage 2 ลดลงอยู่ที่ 6.88% จากไตรมาสก่อน (1/2568) ที่สินเชื่อ Stage 2 อยู่ที่ 6.97% อย่างไรก็ดี ธนาคารพาณิชย์ยังให้ความช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งบริหารจัดการคุณภาพหนี้
“ตัวธุรกิจขนาดใหญ่ที่ปรับ ไม่ได้เกิดจากการค้างชำระหนี้ แต่เป็นการจัดชั้นเชิงคุณภาพของสถาบันการเงินเจ้าหนี้ เรายังไม่เห็นการค้างชำระหนี้ของรายใหญ่ที่ปรับเพิ่มขึ้นใน Stage 2 แล้วเราห่วงมากหรือไม่ ก็ต้องเรียนว่า กรณีมาตรการภาษีสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบกับลูกหนี้ธุรกิจเป็นเฟสที่ 1 ก่อน โดยเฉพาะกลุ่มส่งออก แต่กลุ่มส่งออกส่วนใหญ่เป็นธุรกิจรายใหญ่ ซึ่งเราคิดว่ามีความสามารถในการปรับตัว
ส่วนกลุ่มที่เรากังวล คือ กลุ่ม SMEs ที่เป็นซัพพลายเชน หรือเป็นกลุ่มที่โดน import flooding มากกว่า ซึ่งตอนนี้ เขากำลังดูข้อเสนอที่ทำให้ธุรกิจเหล่านี้ มีความสามารถในการปรับตัวได้อย่างไร ส่วน NPL จะเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น เราคิดว่าน่าจะทยอยปรับเพิ่มขึ้น แต่อยู่ในระดับที่ระบบยังบริหารจัดการได้” น.ส.สุวรรณี กล่าว

น.ส.สุวรรณี ระบุว่า ในส่วนผลการดำเนินงานธนาคารพาณิชย์ในช่วงไตรมาส 2/2568 ปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยหลักจากรายได้เงินปันผลตามปัจจัยฤดูกาล ขณะที่ค่าใช้จ่ายสารองปรับเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นจากผลกระทบนโยบายการค้าโลก ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับลดลงตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและปริมาณสินเชื่อที่ลดลง รวมทั้งจากมาตรการคุณสู้ เราช่วย ที่มีการลดดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้

น.ส.สุวรรณี กล่าวว่า สำหรับสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ 87.4% ปรับลดลงจากไตรมาสก่อน จากสินเชื่อภาคครัวเรือนที่ขยายตัวชะลอลงเป็นสำคัญ และมีแนวโน้มลดลงอีกเล็กน้อยในช่วงไตรมาส 2/2568 จากสินเชื่อภาคครัวเรือนที่ชะลอตัวและจีดีพีที่ปรับเพิ่มขึ้น แต่น่าจะยังสูงกว่าระดับ 87% ต่อจีดีพี อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามคุณภาพสินเชื่อภาคครัวเรือนต่อไป
ขณะที่ภาคธุรกิจ สัดส่วนหนี้สินต่อ GDP ในช่วงไตรมาส 1/2568 ลดลงมาอยู่ที่ 83.2% ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่การก่อหนี้ทรงตัว ด้านความสามารถในการทำกำไรโดยรวมลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน แม้ภาคการผลิตปรับดีขึ้นจากการเร่งผลิตเพื่อส่งออกในช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ภาคการท่องเที่ยวและภาคบริการอื่นๆ เผชิญแรงกดดันจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงและกาลังซื้อที่ชะลอลงในตลาดที่อยู่อาศัย


น.ส.สุวรรณี กล่าวถึงความคืบหน้าในการปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้หลักเกณฑ์ Responsible Lending ว่า การปรับโครงสร้างหนี้สะสมของระบบสถาบันการเงินในช่วงครึ่งปีแรก 2568 มีจำนวนบัญชีที่ได้รับการช่วยเหลือ 2.54 ล้านบัญชี และยอดภาระหนี้ที่ได้รับการช่วยเหลือสะสม 1.5 ล้านล้านบาท ส่วนโครงการ ‘คุณสู้ เราช่วย’ มีลูกหนี้ลงทะเบียนทั้งสิ้น 1.7 ล้านคน จำนวนบัญชี 2.2 ล้านบัญชี มีลูกหนี้มีคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการฯได้ 7.4 แสนคน 5.3 แสนล้านบาท


อ่านประกอบ :
ติดลบต่อเนื่อง 3 ไตรมาส! ‘ธปท.’เผยสินเชื่อระบบแบงก์ Q1/68 หดตัว 1.3%-‘หนี้เสีย’แตะ 2.9%
‘ธปท.’เผยสินเชื่อ‘ระบบแบงก์พาณิชย์’ไตรมาส 4/67 หดตัว 0.4%-‘หนี้เสีย’ลดเหลือ 2.78%
‘สินเชื่อแบงก์-รวมเครือ’ไตรมาส 3/67 ลบ 2% หดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 53-‘หนี้เสีย’ 2.97%
สินเชื่อ‘แบงก์พาณิชย์’ไตรมาส 2/67 โต 0.3%'หนี้เสีย'ขยับ 2.84%-NIM แตะ 3.04%
‘ธปท.’เผยสินเชื่อ‘แบงก์พาณิชย์’ปี 66 หด 0.3%-สศช.แนะหั่นดอกเบี้ยอุ้ม‘ภาคครัวเรือน-SMEs’
แบงก์ระวังปล่อยกู้ SMEs! ‘ธปท.’เผยสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 3/66 หดตัว 0.9%
คืนเงินกู้-ออกตราสารหนี้! ‘ธปท.’เผยสินเชื่อ‘แบงก์พาณิชย์’ไตรมาส 2/66 หด 0.4%-NPL 2.67%
'ธปท.' เผยไตรมาส 1/65 สินเชื่อ'แบงก์พาณิชย์' เติบโต 6.9%- 'หนี้เสีย'ทรงตัวที่ 2.93%
ไตรมาสแรก '6 แบงก์ใหญ่' กำไรเพิ่มทั่วหน้า ตั้งสำรองฯลดลง-คุณภาพสินเชื่อดีขึ้น
‘ธปท.’ เผยปี 64 ระบบแบงก์พาณิชย์ มีกำไรสุทธิ 1.81 แสนล้าน เพิ่มขึ้น 23.6%-NPL 2.98%
ธปท.ประกาศให้ 'แบงก์พาณิชย์' จ่ายเงินปันผล ไม่เกิน 50% ของกำไรสุทธิ ปี 64
