
‘เศรษฐพุฒิ’ ส่งมอบหน้าที่ ‘ผู้ว่าฯธปท.’ ให้‘วิทัย’ อย่างเป็นทางการแล้ว ขณะที่ ‘ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ’ คนใหม่ ระบุยึดมั่นภารกิจ ‘ดูแลเสถียรภาพศก.’ ต้องเป็นอิสระจากแรงกดดัน ‘การเมือง’
.................................
เมื่อวันที่ 1 ต.ค. นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ได้ส่งมอบหน้าที่ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้แก่ นายวิทัย รัตนากร ซึ่งเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการฯ ลำดับที่ 25 ณ สำนักงานใหญ่ ธนาคารแห่งประเทศไทย หลังจากในช่วงเช้าวันนี้ (1 ต.ค.) นายวิทัย ได้ไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใน ธปท. เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการฯ ธปท. อย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ นายวิทัย ให้สัมภาษณ์สื่อหลังจากไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใน ธปท. ว่า การเข้ามาทำงานในตำแหน่งผู้ว่าการ ธปท. ถือเป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติ และยุคนี้จะเป็นยุคที่เรายึดมั่นในภารกิจหลักของเรา ในการดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาค แต่ว่าเราต้องมีความเป็นอิสระจากการกดดันทางการเมือง และคิดว่าเราเป็นยุคที่ภาวะเศรษฐกิจมีปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาวมากมาย
“ผมคิดว่า ธปท. มีหน้าที่โดยตรงในการดูแลเศรษฐกิจ เรายินดีจะร่วมมือกับกระทรวงคลัง และทุกหน่วยงาน ที่จะดูแลประคับประคองเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมีสมดุล สู่ศักยภาพที่ควรจะเป็นคิดว่าเป็นภารกิจของเรา” นายวิทัย กล่าว






ด้าน นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธปท. กล่าวว่า หากสถานการณ์ government shutdown ของสหรัฐฯ ไม่ยืดเยื้อ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ น้อย เพราะหน่วยงานภาครัฐที่จำเป็นและสำคัญยังคงเปิดดำเนินการ ทั้งนี้ จากตัวอย่างในอดีตในช่วงปลายปี 2561 สถานการณ์ government shutdown ของสหรัฐฯ เคยปิดดำเนินการนานที่สุด 35 วัน ซึ่งทางการสหรัฐฯ ประเมินว่า กระทบ GDP เพียง 0.02%
ส่วนผลกระทบต่อไทยจะผ่านช่องทางความผันผวนในตลาดการเงินเป็นหลัก ขณะนี้ยังไม่เห็นการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติในตลาดการเงินไทย แต่ต้องติดตามความคืบหน้าการเจรจากฎหมายงบประมาณของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด จึงขอแนะนำให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนบริหารความเสี่ยงจากความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและตลาดการเงิน
ภาพรวมตลาดการเงินโลก โดยรวมเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด โดยช่วงข้ามคืนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) อ่อนค่าลงเพียงเล็กน้อยที่ 0.2% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US Treasury) อายุ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้น 1.2 bps สะท้อนว่าตลาดทยอยรับรู้ (priced-in) ความเสี่ยงจากประเด็นดังกล่าวไปบางส่วนแล้ว
สำหรับตลาดการเงินไทย ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย 0.09% โดยเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ระดับ 32.45 บาท ทั้งนี้ เงินสกุลภูมิภาคเคลื่อนไหวในกรอบแคบเช่นกัน ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้น 2 bps มาอยู่ที่ระดับ 1.4% ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง
