
ครม.รับทราบข้อเสนอแนะ ‘กสม.’ ชงแนวทางแก้ผลกระทบการดำเนินโครงการ ‘แฟลตดินแดง’ ต่อ ‘มาตรฐานการครองชีพ’ ของ ‘ผู้อยู่อาศัยเดิม’ เสนอ ‘กคช.’ ทบทวนแนวทางปรับขึ้น ‘ค่าเช่า’-การอนุญาตตั้ง ‘แผงค้า
................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุม ครม. มีมติรับทราบข้อเสนอแนะกรณีการดำเนินโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง (แฟลตดินแดง) กระทบต่อมาตรฐานการครองชีพของผู้อยู่อาศัยเดิม ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เสนอ
พร้อมทั้งมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นหน่วยงานหลัก รับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับการเคหะแห่งชาติ (กคช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาแนวทางและความเหมาะสม ของข้อเสนอแนะดังกล่าว โดยให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์สรุปผลการพิจารณา หรือผลการดำเนินการดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน 30 วัน และเสนอ ครม.ต่อไป
สำหรับข้อเสนอแนะกรณีการดำเนินโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง (แฟลตดินแดง) กระทบต่อมาตรฐานการครองชีพของผู้อยู่อาศัยเดิม ของ กสม. ซึ่งเสนอ ครม.พิจารณามอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการ มีดังนี้
1.การเคหะแห่งชาติ
1) ทบทวนการเรียกเก็บค่าสาธารณูปโภค ค่าเช่าที่จอดรถ และการปรับเพิ่มค่าเช่าร้อยละ 5 หรือในอัตราที่การเคหะแห่งชาติกำหนดทุก 3 ปี โดยนำข้อมูลรายได้ของประชาชนแฟลตดินแดงมาเป็นฐานการคิดคำนวณค่าใช้จ่าย เพื่อให้เหมาะสมกับผู้มีรายได้น้อย และให้คำนึงถึงประชาชนผู้มีรายได้น้อยเป็นหลัก รวมทั้งให้ศึกษาการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายแบบขั้นบันได เพื่อให้ประชาชนมีเวลาปรับตัว สามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายและวางแผนการเงินในครัวเรือนได้
2) ทบทวนและหารือร่วมกับประชาชนผู้อยู่อาศัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางการจัดการแผงการค้าและสถานที่ค้าขายให้มีความชัดเจน สำรวจปริมาณความต้องการสินค้าและบริการ ให้ชุมชนมีส่วนร่วมออกแบบสถานที่ค้าขายให้เข้ากับวิถีชุมชน กระจายแผงการค้า โดยเฉพาะพื้นที่ขายอาหารให้ทั่วถึงทุกอาคาร เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงของผู้พิการและผู้สูงอายุ รวมทั้งกำหนดแผนการจัดการแผงการค้าและพื้นที่เชิงพาณิชย์สำหรับการค้าขายในแผนแม่บทโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง (แฟลตดินแดง)
3.แก้ไขระเบียบการเคหะแห่งชาติว่าด้วยการให้เช่าโครงการเคหะชุมชนดินแดง และโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง พ.ศ.2563 ข้อ 16 ให้มีการกำหนดเพดานการปรับขึ้นค่าเช่าที่ชัดเจน โดยนำรายได้เฉลี่ยของประชาชนแฟลตดินแดงมาเป็นฐานการคิดคำนวณ
4) ในการดำเนินโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง (แฟลตดินแดง) ในระยะที่ 3-4 ให้คำนึงถึงการออกแบบขนาดห้องให้เหมาะสมกับจำนวนผู้อยู่อาศัย มีความหลากหลาย และเข้ากับวิถีชีวิตชุมชน โดยให้ประชาชนผู้อยู่อาศัยมีส่วนร่วมในการดำเนินการดังกล่าวด้วย
2.ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ให้คำแนะนำและกำกับดูแลการเคหะแห่งชาติในการดำเนินการตามข้อ 1)-3) เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาให้เหมาะสม และคำนึงถึงประชาชนผู้มีรายได้น้อยเป็นอันดับแรก
3.ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำรวจประชาชนที่อาศัยในแฟลตดินแดงซึ่งมีความยากจน มีรายได้ไม่เพียงพอกับกายังชีพ โดยหามาตรการหรือแนวทางในการช่วยเหลือเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกบังคับให้ย้ายออก และป้องกันปัญหาคนไร้บ้านหรือไร้ที่อยู่อาศัยที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตจากการดำเนินโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง (แฟลตดินแดง)
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนที่แฟลตดินแดงจะโอนมาอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของการเคหะแห่งชาติ แฟลตฯดังกล่าวเคยอยู่ภายใต้การดูแลของกรมประชาสงเคราะห์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการจัดหาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย โดยชุมชนแฟลตดินแดงเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีผู้อยู่อาศัยหนาแน่นมาอย่างยาวนาน ผู้อยู่อาศัยเดิมส่วนใหญ่เป็นผู้ไม่มีรายได้ประจำ ประกอบอาชีพค้าขาย รับจ้างทั่วไป ขับรถรับจ้าง พ่อบ้านแม่บ้าน คนว่างงาน และนักเรียน นักศึกษา ผู้อยู่อาศัยบางส่วนเปิดแผงค้าขายในพื้นที่โครงการ
ต่อมารัฐบาลได้มีโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ตามแผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564) และการเคหะแห่งชาติได้เข้าไปดำเนินโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง (แฟลตดินแดง) โดยพัฒนาที่อยู่อาศัยในพื้นที่เติมได้ถึง 20,292 หน่วย แบ่งเป็นผู้เช่าเติม 2,556 หน่วย และผู้เช่าใหม่ 13,746 หน่วย
อย่างไรก็ดี การเคหะแห่งชาติ ได้เรียกเก็บค่าบริหารจัดการ ประกอบด้วย ค่าสาธารณูปโภค 425 บาทต่อเดือน ค่าเช่าที่จอดรถ 200-2,500บาทต่อเดือน ค่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 100 บาทต่อปี และยังกำหนดให้ปรับเพิ่มค่าเช่าร้อยละ 5 หรือในอัตราที่การเคหะแห่งชาติกำหนดทุก 3 ปี รวมถึงได้ลดขนาดห้องจาก 42 ตารางเมตร เหลือ 33 ตารางเมตร ส่งผลให้ผู้เช่าเดิมที่มีสมาชิกในครอบครัวหลายคนต้องเช่าห้องเพิ่ม ทำให้ภาระค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัยของผู้เช่าเดิมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกัน ในการแก้ไขปัญหากรณีประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ไม่สามารถจ่ายค่าบริหารจัดการได้นั้น จะมีการต่อไปยังบ้านพักคนชรา มูลนิธิหรือหน่วยงานประชาสงเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการเคหะแห่งชาติที่ต้องจัดให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัย มีระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก
นอกจากนี้ การเคหะแห่งชาติไม่ได้ให้ประชาชนผู้มีส่วนได้เสียจากโครงการมีส่วนร่วมในการจัดการแผงการค้าหรือพื้นที่ประกอบอาชีพ และในแผนแม่บทของโครงการไม่ได้จัดทำพื้นที่เชิงพาณิชย์สำหรับการค้าขายไว้ ทั้งที่การเคหะแห่งชาติควรวางแผนเกี่ยวกับแผงการค้าหรือพื้นที่เชิงพาณิชย์ โดยสำรวจปริมาณความต้องการสินค้าและบริการ ออกแบบตลาดให้เข้ากับวิถีชุมชน รวมทั้งให้ชุมชนมีส่วนร่วมออกแบบและจัดการวางแผนกระจายแผงการค้าให้ทั่วถึงทุกอาคาร โดยให้ผู้พิการและผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงได้ง่ายและสะดวก
จากข้อเท็จจริงดังกล่าว กสม.เห็นว่า มีการกระทำและละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน กสม. จึงอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 247 วรรคหนึ่ง (3) และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ.2560 มาตรา 26 (3) ประกอบมาตรา 42 จัดทำข้อเสนอแนะกรณีการดำเนินโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง (แฟลตดินแดง) กระทบต่อมาตรฐานการครองชีพของผู้อยู่อาศัยเดิม ให้ ครม.พิจารณา และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
