
‘กนศ.’ ไฟเขียวโครงการ ‘คนละครึ่งพลัส 1.5’ จ่ายเงิน ‘ท็อปอัพ’ ไม่เกิน 2,000 บาท จูงใจ ‘ร้านค้า’ พัฒนาทักษะ-ขายของออนไลน์
.......................................
เมื่อวันที่ 10 พ.ย. นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ (กนศ.) หรือ ครม.เศรษฐกิจ ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมฯ มีมติเห็นชอบโครงการพัฒนาเพิ่มทักษะ (Upskill/Reskill) สำหรับผู้ประกอบการผ่านโครงการคนละครึ่งพลัส หรือ ‘โครงการคนละครึ่งพลัส 1.5’ โดยจะเสนอโครงการฯให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป
“โครงการฯนี้ จะเป็นการเพิ่มทักษะและต่อยอดความรู้ให้ร้านค้า โดยเฉพาะการติดอาวุธดิจิทัลให้กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส โดยเราจะมีการเพิ่มทักษะให้กับร้านค้า อันที่หนึ่ง คือ ให้ร้านค้าที่เป็นรายเล็กรายย่อย พ่อค้าแม่ค้า เพิ่มยอดขายทางออนไลน์ ให้ขายออนไลน์เป็น เพิ่มยอดขายทางออนไลน์ อันที่สอง คือ การลดรายจ่าย ลดต้นทุนทางบัญชี เสริมสภาพคล่อง และจะให้กู้เงินผ่านระบบได้เลย ไม่ต้องไปพึ่งเงินกู้นอกระบบ
อันที่สาม คือ เพิ่มทักษะด้านดิจิทัล และ AI เพื่อให้เขาสามารถค้าขายเก่งขึ้น ซึ่งเราจะใช้เงินที่เหลือจากโครงการคนละครึ่งพลัสที่เหลืออยู่เอามาเสริม โดยเราให้เงินแก่ผู้ประกอบการหรือร้านค้า 9 แสนกว่าร้านค้า รวมถึงผู้ประกอบการที่จะลงทะเบียนเพิ่มเติมเข้ามา ไม่เกิน 2,000 บาท/ร้านค้า แต่สิ่งที่เขาต้องทำ คือ เขาต้องไปขายของออนไลน์ ซึ่งตอนนี้แพลตฟอร์มออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มได้มาจับมือกับเราแล้ว
แล้วเราจะมีระบบ MyMo ของธนาคารออมสิน ที่จะเข้าไปลดรายจ่าย เพิ่มความรู้ในการทำบัญชีให้เขา รวมทั้งเสริมสภาพคล่องให้ โดยร้านค้าจะสามารถกู้เงินผ่าน MyMo ได้ทันที นอกจากนี้ จะมีการเพิ่มทักษะทาง AI และดิจิทัลให้กับร้านค้าผ่านกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยร้านค้าจะต้องทำ 1 ใน 3 อย่างนี้ แล้วไปค้าขายปกติผ่านออนไลน์ ผ่านแอปฯถุงเงิน หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย.-19 ธ.ค.2568 จากนั้นเราจะเพิ่มเงินท็อปอัพให้” นายเอกนิติ กล่าว
นายเอกนิติ ยกตัวอย่างว่า “สมมติคนไปซื้อของ 200 บาท เขาจ่ายเอง 100 บาท กระทรวงการคลังหรือรัฐบาลสมทบให้ 100 บาท แต่ในส่วนที่กระทรวงการคลังสมทบ 100 บาทนั้น เราจะเพิ่มให้ 20% พูดง่ายๆ คือ เขาจะได้ตังค์ 120 บาท โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย.-19 ธ.ค.2568 แต่มีเงื่อนไขว่าเขาจะต้องไปเรียนเพิ่มทักษะ เช่น ขายของออนไลน์อย่างไรให้ปัง ลดต้นทุน สามารถขอกู้จากแอปฯ MyMo ได้ หรือไปเพิ่มทักษะ AI ดิจิทัล”
นายเอกนิติ กล่าวว่า ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯและปฏิบัติตามเงื่อนไขโครงการฯ จะได้เงินเพิ่มรวมกันไม่เกินรายละ 2,000 บาท โดยกระทรวงการคลังจะจ่ายเงินให้ร้านค้าในวันที่ 25 ธ.ค.2568
นายเอกนิติ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการคนละครึ่งพลัสนั้น ล่าสุดมีการใช้จ่ายแล้วกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท และมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการฯกว่า 9 แสนราย
ด้าน นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส 1.5 หากมียอดขายผ่านช่องทางปกติและยอดขายทางออนไลน์เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 19 พ.ย.-19 ธ.ค.2568 รัฐบาลจะให้ท็อปอัพเพิ่มขึ้น 20% ของยอดขายรวมที่เกิดขึ้นนั้น แต่รวมแล้วไม่เกิน 2,000 บาท ซึ่งรัฐบาลกำหนดวงเงินโครงการฯไว้ที่ 800 ล้านบาท โดยจะให้สิทธิร้านค้า 4 แสนรายแรก หรือได้เงินไม่เกินรายละ 2,000 บาท
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่เข้าร่วมโครงการฯแล้ว 4 แพลตฟอร์ม ได้แก่ Grab , Lineman , Robinhood และ Shopee food ซึ่งแพลตฟอร์มเหล่านี้จะมีการเทรนนิ่งในการขายของออนไลน์ ขณะเดียวกัน ร้านค้าสามารถเข้าเทรนนิ่งผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของธนาคารออมสิน หรือกรมพัฒนาธุรกิจการค้าก็ได้ หากผ่านการเทรนนิ่งผ่านแพลตฟอร์มเหล่านี้ ร้านค้ามีสิทธิ์เข้าโครงการฯได้เช่นกัน
