
‘ผู้ว่าฯธปท.’ ลั่นพร้อมผ่อนคลาย ‘นโยบายการเงิน’ สนับสนุนเศรษฐกิจ ชี้ยังมี ‘ช่องว่าง’ ลด 'ดอกเบี้ย' ขณะที่ ‘กรรมการ กนง.’ คาดเศรษฐกิจไทยปีหน้าโตต่ำกว่าศักยภาพ
...................................
เมื่อวันที่ 22 พ.ย. นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยในงาน ‘GovernorConnect สัญจร’ ถึงแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินในสถานการณ์เศรษฐกิจไทยปัจจุบัน ว่า เราต้องคอยดูข้อมูลที่เข้ามา และเราก็พร้อมที่จะใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายมากขึ้นกว่านี้ หากมีความจำเป็นที่จะสามารถสนับสนุนเศรษฐกิจได้ แต่เราต้องดูข้อมูลที่จะออกมาก่อน ในขณะที่การดำเนินนโยบายการเงินนั้น เรามีช่องว่างที่จะลดดอกเบี้ยนโยบายต่อไปได้อีก
“ต้องยอมรับว่า เศรษฐกิจที่ไม่ดี มันเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง มันเป็นปัญหาเรื่องขีดความสามารถในการแข่งขัน มันเป็นปัญหาเรื่อง K-Shaped สังคมผู้สูงวัย ทุกเรื่องมารวมกัน การลดดอกเบี้ยมีผลในการเปลี่ยนแปลงเรื่องพวกนี้จำกัด แต่ถามว่าลดดอกเบี้ยแล้วมันมีอะไร มันช่วยทำให้ผ่อนคลายเรื่องสภาพคล่อง ผ่อนคลายการตึงตัว
มันทำให้คนจ่ายหนี้ได้ เป็น NPLs น้อยลง ถามว่าลดได้ไหมก็กำลังดูข้อมูลอยู่ ถามว่าลดได้ไหม ก็มีช่องทาง มี room ที่จะลดต่อได้อย่างที่เคยไป แต่ถามว่า terminal rate เท่าไหร่ อันนี้ตอบไม่ได้ terminal rate ปลายทางเท่าไหร่ ตอบไม่ได้ อันนี้ต้องดีเบสกันพอสมควร แล้วก็ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจ ณ ตอนนั้น” นายวิทัย กล่าว
ด้าน นายปิติ ดิษยทัต รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธปท. ในฐานะกรรมการนโยบายการเงิน กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในที่ผ่านมาค่อนข้างโตช้า และเป็นสิ่งที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เป็นห่วง จึงเป็นที่มาว่า เราเห็นด้วยที่ให้ลดดอกเบี้ยนโยบายลงมา และลดดอกเบี้ยประมาณ 1% มาตั้งแต่ปลายปีแล้ว รวมทั้งเราอยากให้จุดยืนของนโยบายการเงินสนับสนุน และตรึงอยู่ในระดับที่ผ่อนคลาย เพื่อช่วยประคองเศรษฐกิจไป นี่เป็นจุดยืน ณ ปัจจุบัน และก็ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจแล้ว
“มองไปข้างหน้า อีกไม่นาน 2-3 อาทิตย์ คณะกรรมการฯก็จะมาดูข้อมูลล่าสุดอีกที แล้วก็ประเมินดูว่า ความเหมาะสมกับจุดยืนที่ผ่อนผ่อนคลายอยู่แล้วนั้น จำเป็นต้องการการผ่อนคลายเพิ่มเติมหรือเปล่า อันนี้ผมคงไม่ไปคาดเดาคณะกรรมการฯล่วงหน้า แต่ก็เรียนว่า แนวโน้มของจุดยืนนโยบาย เรามองเห็นด้วยกันว่า เศรษฐกิจ Need ที่จะมีการให้ภาวะการเงินเข้ามาช่วย ไม่เป็นอุปสรรคต่อการขยายตัว” นายปิติ กล่าว
นายปิติ กล่าวต่อว่า สำหรับปัญหาในด้านภาวะการเงินสินเชื่อนั้น เป็นเรื่องความเสี่ยงด้านเครดิตมากกว่าเรื่องต้นทุนทางการเงิน แต่แน่นอนว่าการลดอกเบี้ยก็ช่วยได้เท่าที่สมควร
“เศรษฐกิจที่โตช้า แล้วเราคาดว่าจะโตต่ำกว่าศักยภาพในระยะปีหน้า ต้นตอของกิจกรรมที่โตช้า มันไม่ใช่เพียงแค่เรื่องดอกเบี้ย เรื่องค่าเงิน จริงๆ แล้วเราได้คุยกับผู้ประกอบการค่อนข้างเยอะ ประมาณ 800 ราย เขาบอกว่าต้นทุนทางการเงิน ไม่ได้เป็นตัวต้นๆของธุรกิจ แต่เป็นเรื่องของโอกาสที่มองไปข้างหน้ามากกว่า ไม่ว่าจะเป็นความไม่แน่นอน การลงทุน ปัจจัยเชิงโครงสร้าง และกฎเกณฑ์กติกาภาครัฐ เป็นต้น ซึ่งมันมีปัจจัยสำคัญ แล้วก็แก้ยากกว่าพอสมควร
แน่นอน ในแง่ภาวะการเงินนั้น เป็นตัวที่เข้ามาเสริม ไม่ใช่เป็นพระเอก เป็นพระรอง และอยากเรียนว่าเหตุผลที่เศรษฐกิจโตช้า รัฐบาลก็อยากแก้ อยากยกเครื่องพอสมควร และจะเข้าไปดูบางเซ็กเตอร์ที่อาจเป็นตัวนำได้ในอนาคต ก็จะลงแรงไปตรงนั้นด้วย ดังนั้น ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ มันจึงมากกว่าเรื่องการเงิน เพราะถ้าเป็นเรื่องการเงิน ผมว่าจะดีมากเพราะแก้ได้ไม่ยาก แต่ข้อเท็จจริงมันไม่ใช่ มันเป็นเรื่องประเด็นเชิงโครงสร้างที่เราคุยกันค่อนข้างเยอะ” นายปิติ กล่าว
