‘เพื่อไทย’ จัดเวทีปราศรัยใหญ่เมืองกรุงฯ ขอคนไทยเลือกตั้ง 14 พ.ค. 66 กาพรรคเพื่อไทยเปลี่ยนประเทศให้กินดีอยู่ดี ‘ชลน่าน’ ชี้พร้อม 2 อย่างแล้วทั้ง ‘นโยบาย-คน’ ‘แพทองธาร’ ชูนโยบายเศรษฐกิจกินดีอยู่ดี ปัดฝุ่นนโยบาย ‘รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย’ ด้าน ‘เศรษฐา’ ประกาศพลิกไทยกลับมาเป็นเสือตัวที่ 5 ชู 3 มหานครนโยบาย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 24 มีนาคม 2566 ที่สเตเดี้ยมวัน กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทยจัดงาน 'คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพฯ'
@14 พ.ค. วันเปลี่ยนชะตาประเทศ
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า วันที่ 20 มี.ค. 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยุบสภา เป็นการคืนความสุขให้คนไทยเป็นครั้งแรก วันที่ 14 พ.ค. 66 เป็นวันกำหนดชะตาประเทศและประชาชนทุกคน
กทม.เป็นเมืองหลวงของประเทศ เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นตัวแบบของวิธีคิดที่จะส่งผลกระทบไปทุกจังหวัด ขอเชิญชาวกทม. เปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่สิ่งที่ดีในวันที่ 14 พ.ค. 66 นี้
"ผมมั่นใจว่า ถ้าคนกรุงเทพตัดสินใจอย่างไร ประเทศชาติย่อมเป็นอย่างนั้น เพื่อไทยชวนทุกคนมาคิดใหญ่ ทำเป็นเพื่อชาวกทม. ถ้าท่านพร้อม เพื่อไทยพร้อม พร้อมจับมือเปลี่ยนแปลงไปกับพี่น้อง และนำสู่ทิศทางที่ดีในวันหน้า" นพ.ชลน่านกล่าว
นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยมี 2 พร้อมคือ
พร้อมที่ 1 ในฐานะเจ้าตำรับนโยบาย พรรคเลือกนโยบายที่ดีที่สุด จับต้องได้คืนสู่พี่น้องประชาชน เมื่อ กทม.ฟื้น ประเทศฟื้น ด้วยนโยบายกระเป๋าดิจิทัล เติมรายได้ให้มากกว่า 20,000 บาท/ครัวเรือน
และพร้อม 2 คณะผู้บริหารและแคนดิเดตนายกฯ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และนายศรษฐา ทวีสิน กำลังตามติดๆ ถ้าไม่เลือก พล.อ.ประยุทธ์กลับมาแน่นอน
@4 ปี เปลี่ยนกรุงเทพฯ
ด้านน.ส.แพรทองธาร ชินวัตร ประธานครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยคิดใหญ่ให้ภายใน 4 ปีนี้จะเปลี่ยนกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้เป็นเมืองหลวงของคนไทยทุกคน
ที่ผ่านมาเส้นทางชีวิตของคนกรุงเทพฯ ถูกกำกับด้วยความล้าหลังของระบบราชการและรัฐบาลที่ไม่มีวิสัยทัศน์ พรรคเชื่อว่าคนรุ่นใหม่ คือ กำลังสำคัญ เป็นอนาคตของกรุงเทพฯ พรรคไทยจึงจำเป็นต้องคิดใหญ่เพื่อคนรุ่นใหม่เพื่อคนที่กรุงเทพฯ
@ทวน 3 นโยบายเศรษฐกิจจีบคนกทม.
1. คิดใหญ่เรื่องรายได้ ครอบครัวไหนรายได้ไม่ถึง 20,000 บาทจะเติมรายได้ได้ถึง 20,000 บาททันที เรื่องค่าแรง 600 บาทจะทำในปี 2570 นักศึกษาจบใหม่ข้าราชการต้องมีเงินเดือนเริ่มต้นขั้นต่ำ 25,000 บาท
2. คิดใหญ่เรื่องโอกาสกรุงเทพฯต้องเป็นเมืองแห่งโอกาส พร้อมเปลี่ยนกรุงเทพฯให้เป็น blockchain และฟินเทคเซ็นเตอร์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี และยังมีนโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft Power
@ฟื้นลดค่ารถไฟฟ้า 20 บ./ตลอดสาย
3. คิดใหญ่เรื่องคุณภาพชีวิตการใช้ชีวิตในกรุงเทพฯจะต้องสะดวกและปลอดภัย พรรคเพื่อไทย พร้อม ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าเหลือ 20 บาทตลอดสายทันที เพิ่มโรงพยาบาลขนาดใหญ่ให้ครบ 50 เขต แก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ด้วยการควบคุมที่ต้นเหตุ บรรเทาผลกระทบ และวางแผนแก้ไขในระยะยาว
ขณะที่น้ำท่วมกรุงเทพฯมีสาเหตุสำคัญมาจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นทุกๆปี ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำสู่ทะเลได้ ประเทศไทยมีความเสี่ยงสูงถ้าไม่ได้รับการแก้ไขในเรื่องนี้ กรุงเทพฯจะจมน้ำภายในปี 2575 พรรคเพื่อไทยมีนโยบายจัดการเรื่องน้ำทันทีด้วยการสร้างเกาะสร้างเขื่อนรอบกรุงเทพฯ แล้วจะเร่งศึกษาเรื่องนี้โดยละเอียดให้ครอบคลุมและประหยัดที่สุด และลดความแออัดในกรุงเทพฯและโดยสร้างที่ดินใหม่ สร้างเกาะและเขื่อน ความหลากหลายจะคงอยู่ความเหลื่อมล้ำจะหมดไป
@นำไทยสู่เสือตัวที่ 5/จัด World Pride ในปี 2028
ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาครอบครัวเพื่อไทย กล่าวนำเสนอวิสัยทัศน์ของกรุงเทพ 3 มิติในการเปลี่ยนแปลงคนกรุงเทพ
มิติที่ 1 จะเป็นมหานครทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมของเอเชีย ให้ความสำคัญกับทางการค้าเป็นตัวแทนของทุกคนไปสร้างตลาดเปิดโอกาสให้กับธุรกิจไทยไปในระดับโลก ทลายกำแพงที่ไม่มีประโยชน์ กำจัดคอร์รัปชันทำให้นักลงทุนรู้สึกปลอดภัย ทำให้คนทั่วโลกอยากมาลงทุนที่กรุงเทพฯและจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ มีการสร้างงาน สร้างอาชีพ
มิติที่ 2 จะเป็นมหานครแห่งความหลากหลายทั้งความคิดอัตลักษณ์และทางวัฒนธรรม สิ่งสำคัญคือ จะต้องเปิดกว้างเปิดรับความแตกต่างของคนที่เข้ามาอยู่ ให้ทุกๆคนได้แสดงออกให้มีโอกาส ให้ทุกๆคนได้รักเมืองที่อยู่เหมือนบ้านของตัวเอง
"รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะไม่เพิกเฉยต่อการริดรอนสิทธิทางเพศสภาพ อัตลักษณ์และความคิด พรรคเพื่อไทยเห็นประโยชน์ของความหลากหลายเหล่านี้และความสามารถของเด็กไทยที่มีผลงานระดับโลกเราจะทำให้กรุงเทพฯกลายเป็นสถานที่จัดงานระดับโลก จังหวัดนำโชค Power ให้ประเทศไทยเป็นที่จับคอนเสิร์ตงานหนักงานโฆษณางานศิลปะและวัฒนธรรม จัดงานเวิลไพร์ดให้ได้ภายในปี 2028" นายเศรษฐากล่าว
ขณะที่มิติที่ 3 จะทำให้ กทม. เป็นมหานครแห่งความเท่าเทียม ขจัดมาเฟียในเมืองไทย ทำให้ทุกคนได้รับการยอมรับ ได้แสดงออก ทำให้รัฐกลับมาเป็นที่พึ่งของประชาชนคนไทย มีความหวังที่จะนำความภูมิใจของประเทศกลับมาให้เป็นประเทศไทยเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชียอีกครั้ง
