
‘แพทองธาร’ เปิดใจหลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ น้อมรับคำวินิจฉัย เตรียมทำคำชี้แจง ยืนยันมีเจตนาที่ดี ไม่อยากให้เกิดการสููญเสีย ขอโทษคนไทยที่อาจจะไม่ชอบวิธีการ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7 ต่อ 2 ให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี นับแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย จากการที่ประธานวุฒิสภา (สว.) ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่ 18/2568) ปรากฏคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ผู้ถูกร้อง) กับสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา

ล่าสุด นางสาวแพทองธารแถลงหลังรับทราบผลของศาลรัฐธรรมนูญ โดยนางสาวแพทองธารแถลงไว้ดังนี้
ขอน้อมรับคำพิจารณาของศาล แล้วก็ต่อจากนี้ก็จะเป็นการทำคำชี้แจงซึ่งมีระยะเวลา 15 วัน ก็จะทำให้เต็มที่ในการบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่า เรื่องของคลิปเสียงที่หลุดออกมา ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ 100% ตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพของทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา มั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ทำอาจจะถูกใจและไม่ถูกใจใครหลายๆคนยังไงก็ตามก็พยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ว่ามันเป็นความตั้งใจเป็นความพยายาม เกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ
“เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย แล้วก็คิดอย่างเดียวว่า ทำยังไงเพื่อที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ทำยังไงที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ เพราะดิฉันเองก็คงรับไม่ได้ถ้าพูดอะไรกับทางผู้นำแล้วทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะ เกิดการโกรธเคือง ก็เป็นความตั้งใจจริงๆถ้าท่านฟังดูจริงๆ ไม่ได้มีเจตนาร้าย อันนี้คือสิ่งที่ตั้งใจและจะใช้เวลาที่สามารถชี้แจงได้อย่างครบถ้วน” นางสาวแพทองธารกล่าว
นางสาวแพทองธารกล่าวต่อว่า ขอขอบคุณทุกท่านที่ส่งกำลังใจ แล้วต้องขอโทษพี่น้องคนไทยทุกๆคนที่รู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้หรือรู้สึกโกรธเคือง ขอยืนยันอีกครั้งว่า ตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ ก็ต้องขอโทษในวิธีการ ถ้าไม่ถูกใจใครหลายๆคน แน่นอนว่าหลังจากนี้ ช่วงเวลาที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ ดิฉันเองก็สามารถทำเพื่อประเทศชาติได้ต่อไปในฐานะคนไทยคนหนึ่งแน่นอน และยังมีแรงกายแรงใจเต็มครบ 100% พร้อมที่จะทำงานต่อไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งไหนก็ตาม อยู่ในฐานะไหนก็ตาม ก็ยังเป็นคนไทยคนหนึ่งเหมือนเดิม พร้อมทำเพื่อประเทศชาติเต็มที่ทุกนาที ขอบคุณสำหรับหัวใจของทุกท่านอีกครั้ง


