
"...บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด มีผลงานการต่อเรือสำคัญ อาทิ โครงการเรือน้ำมันกองทัพเรือ เรือตรวจการไกลฝั่ง เรือระบายพลประจำเรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงสุรินทร์ เรือหลวงทองหลาง เรือหลวงวังนอก เรือหลวงทองแก้ว เรือหลวงวังใน เรือหลวงศุกร์ เรือหลวงสุริยะ เรือหลวงถลาง เรือเวรด่วนทางธุรการ นอกจากนั้นยังได้รับมอบหมายให้ดำเนินโครงการสำคัญ อาทิ พิพิธภัณฑ์เรือหลวงท่าจีน การกู้เรือหลวงกระบุรีออกจากการเกยตื้นภายหลังเหตุการณ์สึนามิ ณ ฐานทัพเรือพังงา จังหวัดพังงา โครงการเรือออมสิน โครงการยานวิจัยใต้น้ำขนาดเล็กด้วย..."
กรณีปรากฏข่าว เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา บริษัทอู่กรุงเทพ จำกัด ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในความควบคุมของกองทัพเรือ กระทรวงกลาโหม ได้ทำหนังสือแจ้งบอกเลิกสัญญาว่าจ้าง นาวาเอกปริศฏางค์ กาศขุนทด ผู้จัดการ บริษัทฯ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 กรกฏาคม 2568 เป็นต้นไป
ขณะที่นาวาเอกปริศฏางค์ ได้ทำหนังสือขอโต้แย้งและอุทธรณ์เพื่อให้คณะกรรมการบริษัทฯ พิจารณาทบทวนเรื่องนี้ทันที่ โดยระบุว่า เป็นมติที่ไม่ชอบไม่เป็นไปตามสัญญาจ้าง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า เหตุผลที่ คณะกรรมการบริษัทอู่กรุงเทพ จำกัด หยิบยกขึ้นมาเป็นเหตุในการบอกเลิกจ้าง นาวาเอกปริศฏางค์ กาศขุนทด
มี 2 ประเด็น คือ
1. บริษัทฯ มีเรื่องร้องเรียนหลายเรื่อง บางเรื่องอยู่ระหว่างการไต่สวนพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
2. ปัญหาเรื่องภาระหนี้สินจำนวนมาก และมีผลประกอบการขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปัญหาการขาดสภาพคล่องไม่ได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น
- ผจก.ยื่นอุทธรณ์สู้! บ.อู่กรุงเทพฯ ทัพเรือ เลิกจ้างฟ้าผ่าอ้างเหตุภาระหนี้สิน-ป.ป.ช.สอบ
- โชว์หนังสือ 2 ฉ. ก่อนไขปมเลิกจ้างผจก.บ.อู่กรุงเทพฯ ฟ้าผ่า ขาดทุนบักโกรก-ป.ป.ช.สอบอะไร?
เพื่อให้สาธารณชนมีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้น
สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกที่มาและการดำเนินธุรกิจของบริษัทอู่กรุงเทพ จำกัด มานำเสนอ ณ ที่นี้
@ ประวัติที่มา
ในฐานข้อมูลออนไลน์ ระบุข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับบริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด ว่า เป็นรัฐวิสาหกิจในประเทศไทย สังกัดกองทัพเรือ กระทรวงกลาโหม ประกอบกิจการอู่เรือ สร้าง ซ่อมเครื่องจักร เครื่องกลเรือ และอุตสาหกรรมพาณิชย์นาวีของกองทัพไทย
บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด ดำเนินกิจการต่อเนื่องมาจากบริษัท บางกอกด๊อก จำกัด ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2408 โดยกัปตันจอห์น บุช นักลงทุนชาวอังกฤษ และราชนาวีไทยต้องเข้ามาควบคุมกิจการในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และส่งคืนให้แก่ประเทศอังกฤษหลังเสร็จสิ้นสงคราม แต่ บางกอกด๊อก ต้องเลิกกิจการในปี พ.ศ. 2494 และขายกิจการกลับมาเป็นของบริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด อีกครั้งเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2495 และได้มีการโอนกิจการโดยสมบูรณ์ให้กองทัพเรือ ในปี พ.ศ. 2500 พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อภาษาอังกฤษของบริษัทจาก Bangkok Dock Co., Ltd. มาเป็น Bangkok Dock company (1957) Limited. เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2500
ต่อมาในปี พ.ศ. 2521 กองทัพเรือจึงโอนหุ้นทั้งหมดให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้น ตามมติคณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงการคลัง มอบหมายให้กองทัพเรือเป็นผู้ควบคุมนโยบาย และในปี พ.ศ. 2526 คณะรัฐมนตรี ได้มีมติให้อู่กรุงเทพ มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ ประเภทยุทธปัจจัย อยู่ในความควบคุมของกองทัพเรือ
บริษัทฯ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก ระหว่างสะพานกรุงเทพ และสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน มีพื้นที่ 20 ไร่ 1 งาน 82 ตารางวา เป็นพื้นที่อู่จำนวน 2 อู่ สามารถซ่อมเรือขนาดระวางบรรทุก 3,000 - 4,000 ตัน ได้ 3 ลำในเวลาเดียวกัน และยังมีสำนักงานธุรกิจตั้งอยู่ที่อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี อีกแห่งหนึ่ง มีพื้นที่ 44 ไร่ 2 งาน เป็นลักษณะอู่ลอย
@ ผลการดำเนินธุรกิจของบริษัท
บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด มีผลงานการต่อเรือสำคัญ อาทิ โครงการเรือน้ำมันกองทัพเรือ เรือตรวจการไกลฝั่ง เรือระบายพลประจำเรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงสุรินทร์ เรือหลวงทองหลาง เรือหลวงวังนอก เรือหลวงทองแก้ว เรือหลวงวังใน เรือหลวงศุกร์ เรือหลวงสุริยะ เรือหลวงถลาง เรือเวรด่วนทางธุรการ
นอกจากนั้นยังได้รับมอบหมายให้ดำเนินโครงการสำคัญ อาทิ พิพิธภัณฑ์เรือหลวงท่าจีน การกู้เรือหลวงกระบุรีออกจากการเกยตื้นภายหลังเหตุการณ์สึนามิ ณ ฐานทัพเรือพังงา จังหวัดพังงา โครงการเรือออมสิน โครงการยานวิจัยใต้น้ำขนาดเล็กด้วย
เมื่อตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัทฯ จดทะเบียนจัดตั้ง 8 ตุลาคม 2486 ปัจจุบันมีทุน 100,000,000 บาท ตั้งอยู่ที่ 174/1 ถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร จังหวัดกรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจ ทำการอู่เรือ สร้าง ซ่อม เรือ มีสาขาอยู่ที่สัตหีบ แจ้งที่อยู่ 2369 หมู่ 2 อาคารอู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ปรากฏชื่อกรรมการ ประกอบไปด้วย 1. พลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ , 2. พลเอก อดินันท์ ไชยฤกษ์, 3. พลเรือโท อนุรัตน์ ศิริวงศ์ , 4.พลเรือโท อภิรมย์ เงินบำรุง, 5. พลเรือตรี วศิน สระศรีดา, 6. พลเรือตรี ปิยะ ปฐมบูรณ์, 7. นาวาเอก ปริศฎางค์ กาศขุนทด , 8. นาย ชนิสร์ คล้ายสังข์ , 9. นาย ยศพนต์ จันทร์สุขศรี, 10. นางสาว สุภาภรณ์ โรจนรุ่งทวี, 11. นางสาว ปิยะนุช ธูปถมพงศ์
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 27 มิถุนายน 2567 กระทรวงการคลัง ถือหุ้นใหญ่99.9999% มูลค่า 99,999,900 บาท หุ้นอีก 1% อยู่ในชื่อ นางสาว ฐิรัตติกาล วสุประสาท
@ ผลประกอบการ
บริษัทฯ นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ล่าสุด ณ 30 กันยายน 2566 แจ้งว่ามีรายได้รวม 79,082,984.47 บาท รายจ่ายต้นทุนขายหรือต้นทุนการให้บริการ 88,872,847.90 บาท ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 176,223,574.60 บาท รวมรายจ่าย 265,096,422.50 บาท ขาดทุนสุทธิ 186,362,670.37 บาท ซึ่งเป็นการขาดทุนต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563
สินทรัพย์ แจ้งว่า สินทรัพย์หมุนเวียน เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 3,011,766.68 บาท ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น 8,336,914.34 บาท สินค้าคงเหลือ 6,074,265.76 บาท สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 21,147,533.79 บาท รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 38,570,480.57 บาท
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน เงินให้กู้ยืมระยะยาว 6,860,211.68 บาท ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ - สุทธิ 4,105,726,867.52 บาท สินทรัพย์ไม่มีตัวตน 834,548.41 บาท สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น 6,921,911.09 บาท รวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 4,120,343,538.70 บาท รวมสินทรัพย์ 4,158,914,019.27 บาท
หนี้สิน มีหนี้สินหมุนเวียน เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น 5,163,254.43 บาท ส่วนของหนี้สินระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายใน 1 ปี 465,659.82 บาท เงินกู้ยืมระยะสั้น 4,837,153.63 บาท หนี้สินหมุนเวียนอื่น 204,823,376.88 บาท รวมหนี้สินหมุนเวียน 215,289,444.76 บาท หนี้สินไม่หมุนเวียน เงินกู้ยืมระยะยาว 660,490.99 บาท ประมาณการหนี้สินผลประโยชน์พนักงาน 12,138,514.98 บาท หนี้สินไม่หมุนเวียนอื่น 10,616,321.70 บาท รวมหนี้สินไม่หมุนเวียน 23,415,327.67 บาท รวมหนี้สิน 238,704,772.43 บาท


จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่า การดำเนินธุรกิจบริษัทฯ ประสบปัญหาขาดทุนจริง และมีหนี้สินรวมจำนวนมาก ขณะที่งบการเงินล่าสุด แจ้งไว้ ณ ปี 2566 ส่วนปี 2567 ยังไม่มีรายละเอียด
ส่วนประเด็นที่ 2 เรื่องร้องเรียน ที่บางเรื่องอยู่ระหว่างการไต่สวนพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คือ เรื่องอะไร
สำนักข่าวอิศรา อยู่ระหว่างการติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก หากได้รับการยืนยันข้อมูลเป็นทางการ จะนำมาเสนอในโอกาสถัดไป
