Mobile Suit Gundam GQuuuuuuX พยายามจะลึกซึ้ง แต่กลับกลวงเปล่า

อามาเทะ ยูซุริฮะ สาวน้อยวัยมัธยมปลายผู้ใช้ชีวิตอันแสนสงบสุขอยู่ในสเปซโคโลนี่ที่ล่องลอยอยู่ในอวกาศได้พบกับเนี้ยง สาวน้อยผู้ลี้ภัยจากสงคราม ชีวิตของเธอเลยเข้าไปพัวพันกับการแข่งขันต่อสู้ด้วย โมบิลสูท(หุ่นยนต์) ผิดกฎหมายอย่าง "แคลนแบทเทิล" 

Mobile Suit Gundam GQuuuuuuX ที่หลายๆ คนเรียกสั้นๆ กันว่า “จีควักซ์” ถือเป็นหนึ่งในโปรเจค ที่แฟนๆ หลายๆ คนค่อนข้างที่จะเฝ้ารอเนื่องจากการร่วมงานกันของสตูดิโอชื่อดัง อย่าง Sunrise ผู้ให้กำเนิด Mobile Suit Gundam และ Khara สตูดิโอที่มีชื่อเสียงจากงานอย่าง Neon Genesis Evangelion และ Shin Godzilla ถึงแม้ในช่วงเปิดตัวมาจะมีการวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนๆ ถึงการออกแบบหุ่นยนต์ภายในเรื่อง แต่ด้วยการฉายตอนนำร่อง มาตัดเป็นภาพยนตร์ให้ได้ดูกันก่อน จนเกิดกระแสปากต่อปากว่า มันดีมากๆ พลาดไม่ได้เด็ดขาด ซึ่งตัวผู้เขียนที่ได้ไปรับชมมาก็ต้องบอกว่า ผมมีทั้งสิ่งที่ชอบและแอบเป็นห่วงมาตั้งแต่แรกที่ได้รับชม ซึ่งเดี๋ยวผมจะอธิบายให้ได้ทราบกันต่อไป

สำหรับเรื่องราวของ Mobile Suit Gundam GQuuuuuuX เป็นเรื่องราวของ อามาเทะ ยูซุริฮะ สาวน้อยวัยมัธยมปลายผู้ใช้ชีวิตอันแสนสงบสุขอยู่ในสเปซโคโลนี่ที่ล่องลอยอยู่ในอวกาศได้พบกับเนี้ยง สาวน้อยผู้ลี้ภัยจากสงคราม ชีวิตของเธอเลยเข้าไปพัวพันกับการแข่งขันต่อสู้ด้วย โมบิลสูท(หุ่นยนต์) ผิดกฎหมายอย่าง "แคลนแบทเทิล"

หากจะเปรียบเทียบภาพรวมของ Mobile Suit Gundam GQuuuuuuX ก็คงไม่ต่างไปจากตึกที่โครงสร้างยังไม่เสร็จแต่เริ่มตกแต่งแล้ว รอวันถล่มลงมา เนื่องจาก Mobile Suit Gundam GQuuuuuuX ไม่เคยจะให้เวลากับการปูเนื้อเรื่อง หรือเพิ่มความเป็นมนุษย์ให้ตัวละครเลย แต่ดันรีบที่จะไปต่อทั้งที่พื้นฐานของตัวเองยังไม่แข็งแรงดี จนเกิดทำให้อารมณ์ของผู้ชมและเรื่องราวไม่สอดคล้องกัน

เมื่อพูดถึงข้อดีของ Mobile Suit Gundam GQuuuuuuX คงต้องยกให้กับพล็อตเรื่องรองที่น่าสนใจอย่าง การหายตัวไปของ ชาร์ อัสนาเบิล ตัวละครตัวร้ายของ Mobile Suit Gundam ภาคแรกสุด ที่หายตัวไปอย่างปริศนา และเรื่องการมีอยู่ของจักรวาลคู่ขนาน ก็ถือว่าเป็นพล็อตที่ดูแปลกตาดีสำหรับซีรี่ส์ Mobile Suit Gundamแต่นั่นก็นำมาซึ่งข้อเสียของเรื่องนั้นก็คือ สิ่งที่ผมว่ามาไม่ใช่เรื่องหลักที่เขาใช้เล่าเท่าที่ควร ตัวซีรี่ส์ กลับนำเวลาไปเล่าถึงชีวิตของตัวละครเด็กมีปัญหา อามาเทะ ยูซุริฮะ หรือชื่อเล่น มาชู ที่ต้องการไขว่คว้าหาอิสระให้ตัวเอง (เนื่องจากที่บ้านเคร่งครัดให้เรียนพิเศษ) มาชู นับเป็นตัวละครเอก ของ Mobile Suit Gundam อีกภาคที่ผมน่าจะจัดอยู่ในหมวด ไม่ชอบและน่ารำคาญ เพราะเกิดจากการที่ให้เวลาตัวละครที่จะแสดง เหตุผล และแนวคิดของตัวเองน้อยเกินไป จนเกิดเป็นความรู้สึกที่ผู้ชมไม่สามารถเชื่อมโยงกับความรู้สึกของตัวละครได้ ทำให้นี่เป็นอีก 1 ตัวละคร ที่พยายามใส่ปมมาให้ดูลึกซึ้ง แต่ข้างในกลับกลวง ไม่มีอะไรเลย จึงเหมือนเป็นการเล่าเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากแทน ถึงแม้หลายคนจะบอกว่านี่เป็นวิธีการเล่าเรื่องแบบ เอวานเกเลี่ยน แต่ ผมก็คิดว่า เอวานเกเลี่ยนไม่ใช่วิธีนี้เพื่อเล่าปริศนาในใจตัวละครขนาดนั้น เพราะมันยังพาผู้ชมไปสำรวจจิตใจของเด็กที่แตกสลาย แตกต่างไปจาก Mobile Suit Gundam GQuuuuuuX ที่เล่าเรื่องหลวมๆเพื่อจะไปโยงเซอร์วิสเฉยๆ 

นอกจากนี้แล้วตัวซีรี่ส์ ยังพยายามนำเสนอความรักของตัวละคร 3 ตัวจนเกิดเป็นรัก 3 เศร้าขึ้นมา แต่กลับไม่ได้รับการเอาใจใส่เท่าที่ควร จนเกิดคำถามว่าตัวละครมันได้ไปชอบกันตอนไหน ทั้งๆ ที่มันเพิ่งได้เจอกัน กลายเป็นว่ามีแต่ผลลัพธ์ ที่ไร้ซึ่งที่มา ซ้ำร้ายคือ เรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมดกลับมีการใช้ตัวละครมาทิ้งขว้างรายตอน แต่ดันพยายามยัดปมตัวละครให้คนรู้สึกเห็นใจ ทุกอย่างกลับพังไปหมด ด้วยเรื่องของเวลาในการเล่า และ ความพยายามที่จะขาย เซอร์วิสแฟนๆ จนล้นและลืมเล่าเรื่องไป ทำให้ผมเริ่มมีความรู้สึกว่า ตัวผู้สร้างนั้นเน้นแต่จะขาย Easter egg ไปเรื่อยๆ มากกว่าการพยายามนำเวลามาเล่าให้เรื่องราวมันดูสมบูรณ์ เพราะตัวผู้สร้างก็ทราบอยู่แล้วว่ามีเวลาเล่าได้ไม่มาก แต่ก็ยังสามารถเจียดเวลาไปใส่ Easter egg ให้มันมีทุกๆ ตอนและแทบจะทุกนาทีที่ตัวละครอ้าปากออกมา จนกลายเป็นแผลใหญ่ให้ตัวเองอีกข้อนั้นคือ คนที่ไม่เคยดู Mobile Suit Gundam เรื่องอื่นๆ น่าจะมีความมึนงงกันไปบ้าง

ปัญหาเรื่องของการจัดสรรนั้นยังมีอีกข้อที่น่าปวดหัวมากพอสมควร ด้วยการพยายามนำตอนที่มีความยาว 30 กว่านาทีที่ได้รับชมในภาพยนตร์ มาซอยใส่ในซีรี่ส์ที่ เสียเวลาไปกว่า 1 ตอนครึ่ง ทั้งที่ สามารถทำเป็นส่วนแยกกับตัวซีรี่ส์หลักก็สามารถทำได้ แต่เพราะอยากจะโชว์ Easter egg (อีกแล้ว) จึงพยายามนำในส่วนนี้เข้ามาใส่ให้ผู้ชมได้ดูกัน จนทำให้เสียเวลาที่น้อยอยู่แล้ว น้อยลงกว่าเดิมอีก

สิ่งต่อมาที่เป็นปัญหาคือฉากต่อสู้ของเรื่องนี้ ที่ไม่สามารถพรีเซ้นออกมาให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นและสนุกได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว หากไม่ใช่ฉากต่อสู้ที่อ้างอิงมาจาก Mobile Suit Gundam ภาคเก่าๆ เพื่อเป็น Easter egg แถมด้วยความเก่งจนเกินเหตุ ของตัวละครเอก ผนวกกับการเขียนบทตัวละครที่ไม่น่าเอาใจช่วยแล้ว จึงไม่สามารถรู้สึกลุ้นและเอาใจช่วยตามไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่องแม้แต่น้อย ขนาดเหตุการณ์ที่น่าจะใหญ่ที่สุดในกลางเรื่อง ที่ดูแล้ว หุ่นตัวเอกยังไงก็มีสู้ลำบากมากแน่ๆ ก็ยังไม่ให้ตัวละครเอกได้สู้ จนไม่เหลืออุปสรรคใดๆ ให้แก่เรื่องราวนี้เลยซักอย่าง เพราะทุกอย่างมันง่ายไปหมดจนตัวละครแทบไม่ต้างพยายามทำอะไรเลยด้วยซ้ำ

สุดท้ายแล้ว ผมเข้าใจว่านี่น่าจะเป็นไม่กี่บทความที่เขียนมาพูดถึงปัญหาการเล่าเรื่องของ Mobile Suit Gundam GQuuuuuuX แต่ผมไม่สามารถ ปล่อยวางถึงปัญหาการเล่าเรื่องที่อยูตรงหน้าได้จริงๆ ถามว่าผมชอบ Easter egg ที่พยายามใส่มาไหม ก็ต้องยอมรับว่าสนุกดี แต่นั่นมันโอเคแล้วจริงๆ เหรอ ที่คุณจะยอมให้ซีรี่ส์ที่เคยนำพาคุณไปรับชมถึง เรื่องปัญหาของสงคราม การต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ที่ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าถูกต้อง ความสูญเสีย ความรัก ความโศกเศร้า ไปเป็นแค่เพียงการ์ตูนเซอร์วิส Easter egg แบบหนังมาเวลในยุคที่เราเกลียด น่าเศร้านะครับ

ภาพจาก : Amazon Prime