ชวน หลีกภัย: อุดมการณ์ ปชป.จะเหลืออยู่มากน้อยเพียงใด ให้ถามผู้บริหารพรรคชุดปัจจุบัน

คนรุ่นนี้ถ้ายังอยากจะอยู่ต่อไปก็ต้องสร้างผลงาน สร้างความดีให้คนยอมรับเหมือนคนรุ่นก่อน แต่ถ้าไม่สร้าง แล้วอาศัยใบบุญในอดีต พรรคจะเป็นอย่างไรในอนาคตก็ต้องติดตามดูต่อไป ส่วนอุดมการณ์พรรคในปัจจุบันจะเหลืออยู่มากน้อยเพียงใดนั้น ให้ไปถามผู้บริหารพรรคปัจจุบัน แต่แน่นอนว่าคนเก่าก็รักษาอุดมการณ์ ส่วนคนปัจจุบันต้องไปถามเขา เราตอบแทนเขาไม่ได้

หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) :เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ที่โรงแรมเรือรัษฎา ตำบลบทับเที่ยง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย ให้สัมภาษณ์กรณีที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) มีมติร่วมรัฐบาลต่อและสนับสนุนการทำงานของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป พร้อมเตรียมรับการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีเพิ่มในรัฐบาล โดยมีรายละเอียดดังนี้

เรื่องนี้คงต้องไปถามเหตุผลจากผู้บริหารพรรคชุดปัจจุบัน เพราะในอดีตตั้งแต่ตั้งรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ผู้บริหารชุดนี้ก็บอกชัดว่าจะไม่สนับสนุนนายเศรษฐาเป็นนายกฯ แต่ก็มากลับมีการสวนมติเข้าไปร่วมรัฐบาล ซึ่งผมก็อยู่ในฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการไปร่วมรัฐบาลมาตลอด รวมถึงครั้งนี้ ส่วนปรากฎการณ์ที่มีสมาชิกพรรคทยอยลาออกจากพรรคต่อเนื่องอีกรอบนั้น คนที่เป็นครม.อยู่ทุกวันนี้ล้วนเคยสวนข้อเสนอของตัวเองมาตั้งแต่การเปลี่ยนมาสนับสนุนนายเศรษฐาเป็นนายกฯแล้ว ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาอะไร การที่คนพวกนี้จะออกคงไม่มี ในส่วนของผม แม้จะเป็นเพียงสมาชิกพรรคธรรมดาๆคนหนึ่ง แต่อยู่กับพรรคมานานตั้งแต่พ.ศ.2511

ถือว่าผมเป็นคนหนึ่งที่รับช่วงมาจากผู้หลักผู้ใหญ่รุ่นก่อน ได้มีส่วนในการพัฒนา สร้างเกียรติยศเกียรติภูมิให้กับพรรคจนพรรคชนะได้เป็นรัฐบาล แม้ว่าแพ้ก็ได้เป็นฝ่ายค้าน โดยมีเป้าหมายเป็นพรรคการเมืองของประชาชน ยึดมั่นประชาธิปไตยและความซื่อสัตย์สุจริต ในยุคพวกเราเป็นยุคที่ไม่ใช้วิธีการอะไรที่ไม่ถูกต้องเช่นใช้เงินซื้อเสียงซื้อคน เราไม่ทำ พรรคก็ยืนยงมาได้ ภาคใต้เราได้เกือบทุกที่นั่งตั้งแต่ช่วงที่ผมเป็นหัวหน้าพรรคและต่อเนื่องมาก

ส่วนวันหนึ่งในตอนหลังเมื่อนายชวนไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคแล้ว ประชาชนก็ดูคนว่าเป็นที่ยอมรับหรือไม่ ถ้าไม่เป็นที่ยอมรับ เขาไม่เกรงใจ เขาไม่เลือก เพราะมองคุณภาพคนและเกียรติยศพรรคเป็นส่วนตัดสินใจ สำหรับผม ผมก็จะยังอยู่ต่อไป เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่ง แม้ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ก็ต้องทำงานทำหน้าที่ต่อไป ไม่ดูดาย อะไรที่ไม่ถูกต้องก็ต้องทำหน้าที่ เพราะผมเป็นผู้ที่มีส่วนสร้างความเจริญให้กับพรรค ที่จริงแล้วคนรุ่นนี้ก็ได้อาศัยใบบุญที่คนรุ่นผมทำไว้ตั้งแต่ต้น

คนรุ่นนี้ถ้ายังอยากจะอยู่ต่อไปก็ต้องสร้างผลงาน สร้างความดีให้คนยอมรับเหมือนคนรุ่นก่อน แต่ถ้าไม่สร้าง แล้วอาศัยใบบุญในอดีต พรรคจะเป็นอย่างไรในอนาคตก็ต้องติดตามดูต่อไป ส่วนอุดมการณ์พรรคในปัจจุบันจะเหลืออยู่มากน้อยเพียงใดนั้น ให้ไปถามผู้บริหารพรรคปัจจุบัน แต่แน่นอนว่าคนเก่าก็รักษาอุดมการณ์ ส่วนคนปัจจุบันต้องไปถามเขา เราตอบแทนเขาไม่ได้

ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองของรัฐบาลต่อจากผลกระทบกรณีปัญหาไทย-กัมพูชา ต้องรอดูว่าจะมีการปรับครม.อย่างไร เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เป็นเรื่องของภาพพจน์ของบ้านเมืองที่เสียหายจากการกระทำของรัฐบาล ส่วนในแง่ความสามารถของนายกฯ ผมไม่วิจารณ์มาตั้งนานแล้ว เพราะกระบวนการได้มาซึ่งนายกฯ ไม่ได้มีการคัดสรรเอาคนที่เก่ง แต่เป็นเรื่องของครอบครัว มันก็เลยเป็นแบบนี้

ดังนั้นเมื่อเกิดอะไรขึ้น เราจะมองสาเหตุยาก เพราะเขาไม่ได้เอาคนเก่งมาเป็น แต่เอาคนในครอบครัวมาเป็นนายกฯ กรณีปัญหาไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นผลพวงมาจากเรื่องสองครอบครัวทะเลาะกัน ก็เลยกระทบมาถึงประเทศด้วย ส่วนจะซ้ำรอยรัฐบาลนายทักษิณ หรือรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่นั้นไม่ทราบ แต่ระหว่างประเทศมันไม่ควรทะเลาะกัน สองประเทศที่เป็นเพื่อนบ้านไม่ควรเป็นศัตรูกัน เพราะคนในประเทศจะตายก่อน เพราะมีปัญหาด้วยเรื่องสองครอบครัวทะเลาะกัน

 ปัญหาไทย-กัมพูชา เรายึด MOU 2543 ที่ลงนามโดยม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร รมว.ต่างประเทศในขณะนั้น ซึ่งเราเตรียมการมาตั้งแต่สมัยผมเป็นนายกฯในปี 2537 ผมไปเยือนกัมพูชา พูดคุยกันมาเรื่อยๆ จนเกิดเป็น MOU 2543 ดังกล่าว ที่ได้มีส่วนทำให้ทั้งสองประเทศได้หาโอกาสปักปันเขตแดนร่วมกันโดยไม่ต้องทะเลาะกันมาหลายสิบปี เพิ่งจะมามีเรื่องกันก็ตอนนี้ เพราะเป็นการทะเลาะกันระหว่าง 2ตระกูล ทำให้ภาพพจน์ประเทศกระทบไปด้วยจากการกระทำของรัฐบาล

ทั้งที่ในอดีตเรามีเงื่อนไขสำคัญในข้อที่ 5 ของบันทึกข้อตกลง คือไม่ให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเข้าไปทำอะไรในพื้นที่ที่ยังทับซ้อนกันอยู่ ถ้าเรายึดแนวทางนี้ต่อก็สามารถไปได้ เพราะเรายังคงต้องเจรจาปักปันเขตแดนกันต่อตามหลักสันปันน้ำตาม MOU 2543 แต่สถานการณ์ปัจจุบันนี้ทุกฝ่ายล้วนมีความเป็นห่วง เพราะเพื่อนบ้านนั่นไม่ควรเป็นศัตรูกันเหมือนวันนี้ เพราะถ้าไปทะเลาะกันมันไม่จบ ก็ได้แต่หวังว่าในอนาคตจะลงตัวกันได้ โดยทั้งสองฝ่ายคงไม่ตายจากกันไปก่อน

ก็ขอให้รัฐบาลยึดความถูกต้องชอบธรรมในการแก้ปัญหา ถ้ายึดหลักนิติธรรม หลักกฎหมาย บ้านเมืองก็ไม่มีปัญหา แต่เพราะไปเอาพวกมากกว่ากฎหมายมันจึงวุ่นวาย วุ่นวายไปถึงแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เพราะไม่ยึดหลักกฎหมายความถูกต้อง แต่กลับไปยกเว้นให้คนๆหนึ่ง กลายเป็นว่าเป็นเรื่องปัญหาของครอบครัวนี้มาก จนกลายเป็นปัญหาประเทศ

ส่วนคลิปการสนทนาระหว่างนายกฯไทยกับอดีตนายกฯกัมพูชาที่นายกฯไทยอ้างว่าเป็นเทคนิคในการเจรจาและไม่ได้ทำให้ประเทศเสียหายอะไรนั้น แน่นอนว่านายกฯต้องปกป้องตัวเอง แต่ภาพพจน์ประเทศเสียหายมาก ซึ่งคนไทยทุกคนต้องมีส่วนรับรู้ว่าผู้บริหารประเทศพาประเทศไปสู่จุดไหน ทำให้เขาดูถูกประเทศมันไม่ควร เรื่องนี้มันเป็นเรื่องทะเลาะกัน2ครอบครัว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องดีที่ทำให้คนไทยได้รู้ว่ายบ้านเมืองเราเป็นอย่างไร ไม่นั้นเราจะไม่รู้เลยว่า 2 ครอบครัวนี้เอาประเทศไปแลกผลประโยชน์กันอย่างไร เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้คนไทยได้รู้ว่า 2ครอบครัวเขามีผลประโยชน์ร่วมกันมานาน ใกล้ชิดกันขนาดไหน

ผมเชื่อว่านายกฯพูดกับผู้นำกัมพูชาด้วยใจจริง ด้วยความนับถือและเคารพต่อสมเด็จฮุนเซน แม้ตอนหลังจะมาแก้ว่าเป็นเทคนิคการเจรจา เพราะถึงขนาดขอให้คุณลุงช่วยปกป้อง เพราะตอนนี้คนไทยไล่ให้ไปเป็นนายกฯกัมพูชาแล้ว รวมทั้งการตำหนิแม่ทัพภาคที่ 2 เพราะมีความรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ ผมก็รอดูว่าสมเด็จฮุนเซนจะเปิดเผยอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ เพราะสมเด็จฮุนเซนบอกว่า จะเปิดโปงว่ามีนักการเมืองไทยคนไหนไปเล่นไปเปิดบ่อนการพนัน เอาเงินไปฝากไปฟอกไว้ฝั่งกัมพูชา ก็หวังว่าจะมีการเปิดเผย คนไทยจะได้รับรู้เพราะบ้านเมืองเป็นของคนไทยทุกคน แม้จะเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็ตาม ก็ไม่มีสิทธิ์ทำให้ประเทศเสียหาย ต้องดูผลปกป้องเกียรติยศชื่อเสียงประเทศด้วยการบริหารที่ดี

เมื่อถามถึงการประเมินอายุรัฐบาลหลังจากนี้ที่เจอสารพัดปัญหา นายชวนยิ้มก่อนกล่าวว่า “ต้องไปถามพ่ออุ๊งอิ๊ง”