
"...ในการดำเนินชีวิตของตนเอง คิดเสมอว่า ต้องเข้าใจตัวเราเองก่อนว่า คุณค่าที่เราให้กับตัวเองคืออะไร การทำงานก็เช่นเดียวกัน คุณค่าที่เราจะให้กับงานคืออะไร ถ้าเข้าใจแล้ว จะสามารถหาวิธีทำงานด้วยความสบายใจ ด้วยความสุขของตัวเองที่จะทำให้งานสำเร็จ ดังนั้น สิ่งที่ยากคือ การค้นหาคุณค่าให้กับตนเองและงานที่ทำ..."
สวัสดีครับ
30 กันยายน ถือเป็นวันสุดท้ายของการทำงานของหลาย ๆ คนก่อนเกษียณ ในช่วงเวลานี้ผมจึงหาโอกาสเข้าแบงก์ชาติไปทักทายและกล่าวต้อนรับพนักงานที่จะเกษียณในปีนี้เข้าสู่ชมรม “น้องใหม่ วัยใส” นอกเหนือจากพนักงานที่เกษียณปีนี้รวม 99 คนแล้ว ยังเป็นวันครบวาระการดำรงตำแหน่งผู้ว่าการแบงก์ชาติของผู้ว่านก ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ รวมทั้งผู้ที่จะอดกล่าวถึงไม่ได้คือ อลิศรา มหาสันทนะ (นุช) รองผู้ว่าการ ด้านบริหาร เพื่อนร่วมรุ่นที่เข้ามาทำงานปีเดียวกันกับผมก็จะเกษียณอายุเช่นเดียวกัน ทั้ง ๆ ที่หน้ายังดูอ่อนวัย ไม่แตกต่างกับวันแรกที่เข้ามาทำงานเมื่อ 36 ปีที่แล้ว
ผมนำหนังสือปฐมนิเทศพนักงานใหม่รุ่น 4 ประจำปี พ.ศ. 2532 มาพลิกอ่านดู พบว่าในบรรดาเพื่อนร่วมรุ่นทั้งหมด 29 คน มีเพียง 2 คน ที่ยังคงทำงานอยู่คือ นุช ที่จะเกษียณในปีนี้ และทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จะเกษียณปีหน้า
ในหนังสือรุ่นปรากฏรูปนุช หน้าตาละอ่อน ยิ้มละไม เสื้อผ้าหน้าผมดูเป็นสาวเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ แต่บ่งบอกถึงความมีเสน่ห์ที่หนุ่ม ๆ ต้องแอบเหลียวมองตลอด 2 สัปดาห์ที่อบรมร่วมกัน ในประวัติที่ทุกคนเขียน นุชระบุถึงงานอดิเรกว่า “นั่ง ๆ นอน ๆ” แถมย้อนถามว่า “อยากจะรู้ไปทำไมจ๊ะ” สำหรับคติประจำใจ เรียกว่า โดดเด่นไม่เหมือนใคร เตะตาคนอ่านจนอยากจะรู้จักตัวจริง

ถ่ายรูปร่วมกันในวันปฐมนิเทศ
(รูปนั่งขวาสุด)
ผมกับนุชเข้าทำงานที่ฝ่ายการธนาคาร แต่นุชทำงานที่หน่วยลงทุน ส่วนบริหารเงินสำรองระหว่างประเทศ ในขณะที่ผมอยู่หน่วยวิเคราะห์ ติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดเงินภายในประเทศ เรียกว่า งานอยู่กันคนละขั้วโลก ทั้ง ๆ ที่ห้องทำงานอยู่ใกล้กัน เวลาเดินผ่านไปบริเวณห้องทำงานของนุช ซึ่งเป็นเขตหวงห้าม มักได้ยินบทสนทนาทางโทรศัพท์กับคนต่างชาติ จนหลงนึกว่าอยู่ตลาดหลักทรัพย์ในมหานครนิวยอร์ก ในขณะที่ห้องทำงานผม เป็นโต๊ะทำงานตั้งเรียงยาว นั่งอ่าน และศึกษาเพื่อนำมาเขียนรายงาน บรรยากาศเงียบกริบ
ทุกคนจำนุชได้อย่างแม่นยำ เพราะทุกเช้าก่อน 8 โมงครึ่ง จะได้ยินเสียงรถยนต์สีแดง ดังกระหึ่มแล่นผ่านเข้ามาจอดใต้ต้นไม้ใหญ่หลังอาคารสำนักงาน พร้อมกับเสียงซอยฝีเท้าของเธอที่เดินเข้ามาในอาคารอย่างเร่งรีบ ส่งยิ้มทักทายกับคนที่เดินผ่าน สมกับเป็นสาวมั่น ใจถึง
ผมได้แวะไปพูดคุยกับนุชถึงห้องทำงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อบันทึกเรื่องราวของเธอในการทำงานที่แบงก์ชาติ นุชเริ่มเล่าว่า ชีวิตของเธอผูกพันกับแบงก์ชาติมาตั้งแต่เด็กเพราะแม่ (คุณหญิงศรีวงศ์ มหาสันทนะ) เคยทำงานที่นี่ จึงวิ่งเล่นอยู่บริเวณวังบางขุนพรหม สถานที่ทำงานเริ่มแรกของแบงก์ชาติ แต่เมื่อเรียนจบปริญญาตรี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท MBA จาก Pittsburg State University แล้ว เข้าทำงานที่แรกคือห้อง treasury ธนาคารไทยพาณิชย์ จนกระทั่งแบงก์ชาติเปิดรับสมัครพนักงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ลงทุน ทนแม่รบเร้าไม่ไหว อยากให้ลูกสาวเดินตามรอยแม่ “ไหน ๆ ลูกชอบการลงทุน ก็อยากจะให้ลงทุนเพื่อประเทศ” แม่หยอดด้วยประโยคเด็ด จนใจอ่อน สอบบรรจุเป็นพนักงานแบงก์ชาติได้สำเร็จ
นุชตอบอย่างไม่ลังเลว่า จากวันแรกที่เข้ามาทำงานบอกกับตนเองว่า “ใช่เลย แบงก์ชาติ” เพราะได้ทำงานในสิ่งที่มีคุณค่ากับตนเองและองค์กร ได้เรียนรู้ศาสตร์การลงทุน ที่ต้องผสมผสานกับศาสตร์อื่น ๆ ทั้งด้านภาวะเศรษฐกิจ การเมือง สังคม ไปจนถึงด้านจิตวิทยา และพยากรณ์ศาสตร์ถือเป็นสถานที่ทำงานที่ได้เรียนรู้วิทยายุทธอย่างครบครัน รอบด้าน และในช่วงเวลานั้น เป็นช่วงของการพัฒนาตลาดการเงินของประเทศ และภูมิทัศน์สถาบันการเงิน ในขณะที่เผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ห้องค้าแบงก์ชาติ (dealing room) เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ที่พนักงานทุกฝ่ายพร้อมใจกันมาขอข้อมูลจากสถาบันการเงินในต่างประเทศ พร้อมกับเฝ้าติดตามข่าวสารทางการเงินผ่านจอรอยเตอร์ที่ติดตั้งอยู่ เรียกว่า คิดอะไรไม่ออกถามห้อง dealing room คล้ายกับการพึ่ง ChatGPT ในปัจจุบัน

ในห้อง dealing room แบงก์ชาติ
(ยืนซ้ายสุด)
นุชยอมรับว่า ความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ต่างประเทศทำให้สะดุ้งตื่นในเวลากลางดึกบ้าง แต่เมื่อมีประสบการณ์และเชื่อมโยงภาพการลงทุนได้ดีขึ้น ความตื่นเต้นลดน้อยลง เพราะการลงทุนมีกรอบกติกาที่ชัดเจน และเป็นการลงทุนในระยะยาว เน้นความมั่นคงและสภาพคล่องของสินทรัพย์ที่ลงทุนมากกว่าผลตอบแทน แม้บางคืนต้องรอการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ๆ จนดึกดื่น
หลังจากทำงานที่หน่วยลงทุนได้ 6 ปี ต้องย้ายมารับผิดชอบดูแลค่าเงิน เพราะในช่วงเวลานั้น ค่าเงินบาทถูกโจมตีจากนักเก็งกำไร เป็นช่วงเวลาวิกฤติที่หนักหน่วงที่สุดของชีวิตการทำงาน แต่ทำให้นุชเป็นหญิงแกร่งจนถึงทุกวันนี้ ก่อนจะย้ายงานแบบสุดขั้วจากฝ่ายการธนาคาร ไปสู่ฝ่ายวิชาการ ดูแลด้านดุลการชำระเงิน ในยุคสมัย ม.ร.ว. จัตุมงคล โสณกุล เป็นผู้ว่าการ
นุชเล่าว่า ในช่วงเวลานั้น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ส่งตัวแทนเข้ามาส่องภาวะเศรษฐกิจของประเทศและติดตามให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างใกล้ชิด จึงได้มีโอกาสเรียนรู้การบันทึกดุลการชำระเงินจากผู้เชี่ยวชาญของ IMF แลกเปลี่ยนกับการสอนเทคนิคการดูแลค่าเงิน โดยเฉพาะการใช้ธุรกรรม Currency Swap1/ มาเป็นเครื่องมือ ที่ชาวตะวันตกฟังแล้วฟังอีกก็ไม่เข้าใจกับบริบทของตลาดเงินตราต่างประเทศในประเทศ emerging market
จากนั้น นุชได้มีโอกาสโยกย้ายงานรวมทั้งหมดกว่า 7 ฝ่ายงาน ตั้งแต่ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ฝ่ายนโยบายและกำกับการแลกเปลี่ยนเงิน ฝ่ายบริหารเงินสำรอง ฝ่ายตลาดการเงิน ฝ่ายนโยบายระบบการชำระเงิน ฝ่ายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ไปจนถึงฝ่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ ก่อนได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ระหว่างปี พ.ศ. 2566-2567 และรองผู้ว่าการ ด้านบริหาร ระหว่างปี พ.ศ. 2567-2568

ตอนทำงานเป็น ED ที่ IMF
อย่างไรก็ดี งานที่ถือว่าสร้างสีสัน เติมเต็มให้กับชีวิตการทำงาน คงหนีไม่พ้นช่วงดำรงตำแหน่ง Executive Director (ED), IMF ไปประจำอยู่ที่สำนักงานใหญ่ ณ กรุงวอชิงตัน ดี. ซี. ในช่วงปี ค.ศ. 2019-2021 เป็นช่วงเวลาที่ไทยเป็นผู้แทนของกลุ่มประเทศอาเซียน ฟิจิ เนปาล และตองก้า นุชยอมรับว่า ตอนได้รับการทาบทาม ยังคิดลังเล เพราะเป็นห่วงแม่ที่เริ่มชราภาพ แต่เมื่อได้ถามแม่ กลับพลิกโผ แม่สนับสนุนและอยากให้ไป จนเกือบจัดกระเป๋าเดินทางแทบไม่ทัน
งานที่รับผิดชอบคือการเป็นตัวแทนของกลุ่มประเทศสมาชิก เข้าประชุมบอร์ดของ IMF ที่มี ED อยู่ทั้งหมด 24 คน ในการตัดสินเชิงนโยบาย เช่น กรอบความช่วยเหลือทางการเงินและด้านวิชาการแก่ประเทศสมาชิก รวมถึงร่วมเดินทางไปกับทีมงานเพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ พร้อมได้มีโอกาสนำเสนอนโยบายสำคัญ ๆ เช่น นโยบายเคลื่อนย้ายเงินทุนที่มองต่างมุมกับนโยบายของประเทศที่พัฒนาแล้ว

งานเกษียณ ธปท. 1 กันยายน 2568
ปีแรกได้ทำงานอย่างเต็มที่ เดินทางไปเกือบรอบโลก แต่ปีที่สอง เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันโรคโควิดเกิดระบาด ทำให้ต้องทำงานที่บ้าน อ่านเอกสารจากหน้าจอคอมพิวเตอร์จนตาลาย ประชุมออนไลน์แบบเข้าห้องนี้ ออกห้องนั้น เรียกว่า เวลาทำงานแบบ 7-Eleven จากเวลาที่แตกต่างกันทั่วโลก ในขณะเดียวกัน เป็นช่วงเวลาที่น่าสะพรึงกลัวมาก เพราะระหว่างดูข่าว CNN หน้าจอทีวี ก็ได้ยินเสียงไซเรนรถตำรวจรถพยาบาลวิ่งผ่านหน้าบ้านตลอดเวลา ราวกับได้ดูหนังพากย์สด ที่สำคัญไม่ได้กลับเมืองไทยเป็นเวลากว่า 8 เดือน พูดคุยกับแม่ทุกวันด้วยความเป็นห่วงซึ่งกันและกัน
นอกจากได้เรียนรู้บทบาทของ IMF แล้ว ยังได้เพิ่มมุมมองเศรษฐศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศ ได้รับรู้ว่า องค์กรระหว่างประเทศมีอิทธิพลสูงมากในการวางกรอบนโยบายการเงินและการคลังของแต่ละประเทศ แต่ที่ได้เรียนรู้เต็ม ๆ คือทักษะด้าน soft skills ในด้านการสร้างความสัมพันธ์ การเจรจาต่อรอง การจับประเด็น และที่สำคัญคือการสื่อสาร
แม้ในแต่ละวันจะต้องเข้าประชุมตลอดเวลา แต่ผู้เข้าประชุมทุกคนต้องทำการบ้านมาก่อน มีการแจกเอกสารการประชุมล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันทำการ ทุกคนต้องอ่านและร่างความเห็นไว้ล่วงหน้า ซึ่งหากไม่ได้เอกสารและไม่ทำการบ้านมาก่อน การประชุมก็จะไม่เกิดขึ้น และหากเป็นการประชุมบอร์ด จะกำหนดกติกาให้เวลาแต่ละคนแสดงความคิดเห็นหรือเรียกในภาษา IMF ว่า “intervention” ได้ไม่เกิน 4 นาที และถ้าประธานเริ่มเอาดินสอมาเคาะที่ไมค์ แสดงว่าหมดเวลาแล้ว

รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน
นุชเสริมว่า การที่ได้มีโอกาสทำงานในหลายสายงานและที่ IMF ช่วยให้ตนเองทำงานในหน้าที่รองผู้ว่าการ ด้านบริหาร ได้สมบูรณ์แบบขึ้น เพราะงานบริหารเป็นงานสนับสนุน ตั้งแต่งานด้านทรัพยากรบุคคล งานด้านไอที งานโรงพิมพ์ธนบัตร ไปจนถึงงานธุรการ แต่ละงานมีลักษณะพิเศษจำเพาะ ต้องมีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์พอสมควร ดังนั้น ในฐานะผู้นำทัพ ซึ่งไม่ได้รู้เชิงลึกในหน้างาน จึงทำหน้าที่ในการช่วยตั้งเป้าหมาย และที่สำคัญตั้งคำถามที่ช่วยคิด ช่วย “เอ๊ะ” และเชื่อมโยง เพื่อช่วยให้ทีมงานทำงานไปสู่เป้าหมายได้ ในหนังสือ “1826 วัน เดินด้วยกันที่ ธปท.” พนักงานท่านหนึ่งได้เขียนระลึกถึงนุชว่า “ตัวตนจริง ๆ ของพี่นุช แม้จะดูจริงจังกับงานที่ได้รับมอบหมาย แต่จะห่วงใย คอยให้กำลังใจ รับฟัง และเป็น safe zone ให้กับคนรอบข้างเสมอ ทำให้บรรยากาศการทำงานดูผ่อนคลาย”2/

น้องยูกิ สุนัขตัวโปรด
สำหรับงานอดิเรกและการผ่อนคลายภายใต้บรรยากาศการทำงานที่ค่อนข้างเครียด นุชเฉลยว่า “แม้ดูเหมือนกับตนเองทำงานแบบ 7-Eleven แต่มักมีช่วงเวลาที่เป็นของตนเอง เลิกงานกลับบ้านไปเล่นกับน้องยูกิ สุนัขตัวโปรด ส่อง Tik Tok ให้เท่าทันโลกโซเชียล และช้อปปิ้งออนไลน์เล็กน้อย ก่อนที่จะเริ่มทำงานต่อ”
นุชกล่าวทิ้งท้ายว่า ในการดำเนินชีวิตของตนเอง คิดเสมอว่า ต้องเข้าใจตัวเราเองก่อนว่า คุณค่าที่เราให้กับตัวเองคืออะไร การทำงานก็เช่นเดียวกัน คุณค่าที่เราจะให้กับงานคืออะไร ถ้าเข้าใจแล้วจะสามารถหาวิธีทำงานด้วยความสบายใจ ด้วยความสุขของตัวเองที่จะทำให้งานสำเร็จ ดังนั้น สิ่งที่ยากคือ การค้นหาคุณค่าให้กับตนเองและงานที่ทำ
และนี่คือเรื่องราวของอลิศรา มหาสันทนะ ผู้ที่ทุ่มเทกับการทำงานที่แบงก์ชาติมาตลอด 36 ปี ผ่านร้อน ผ่านหนาว มาครบถ้วน เป็นหญิงแกร่ง ธปท. ที่ทำให้องค์กรแห่งนี้ยังคงเป็นที่ยอมรับและไว้วางใจสืบต่อไป
บทความโดย :
รณดล นุ่มนนท์
29 กันยายน 2568
ที่มา:
1/ ธุรกรรม SWAP (สวอป) คือ สัญญาทางการเงินระหว่างคู่สัญญาสองฝ่ายที่ตกลงแลกเปลี่ยนกระแสเงินสด (cash flows) ตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยทั่วไปจะเกี่ยวข้องกับการบริหารความเสี่ยง อัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน หรือราคาสินทรัพย์ สำหรับ Currency Swap หมายถึงการแลกเปลี่ยนเงิน 2 สกุล ซึ่งสามารถทำเป็นธุรกรรมพร้อมกันได้ทั้งแบบซื้อขายทันที (spot) และซื้อขายล่วงหน้า (forward)
2/ 1826 วัน เดินด้วยกันที่ ธปท., พิมพ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่, หน้า 26

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา