
"...ค่ำคืนนั้นกลายเป็นคืนที่ไม่มีใครลืมได้ง่าย ๆ จากการออกมาตีทั้งหมด 11 ครั้ง ริกกี้ตีถูกลูกทุกครั้ง และในจำนวนนั้นมีถึง 3 ครั้งที่เป็นโฮมรันตีไกลออกนอกสนาม ทุบสถิติการคัดเลือกนักเบสบอลอาชีพตั้งแต่เคยมีมา เด็กหนุ่มที่ไม่อยู่ในสายตาใครกลับกลายเป็นนักเบสบอลที่ถูกจับตามองมากที่สุดในคืนนั้น..."
สวัสดีครับ
ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าวในช่วงกลางเดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 1974 เยาวชนราว 300 คนจากทั่วสหรัฐอเมริกา ซึ่งส่วนใหญ่เพิ่งจบชั้นมัธยมศึกษา เดินทางมารวมตัวกันที่รัฐเท็กซัส ตามคำเชิญของแมวมองจากทีมเบสบอลอาชีพเพื่อเข้ารับการคัดเลือก หนึ่งในนั้นคือเด็กหนุ่มวัย 18 ปี ชื่อ ริกกี้ ฮิลล์ (Rickey Hill) ชื่อที่คนในเท็กซัสรู้จักกันดี เพราะเขาสามารถหวดลูกเบสบอลให้ลอยไปไกลกว่า 200 หลาได้อย่างน่าทึ่ง ทั้ง ๆ ที่ลูกที่พุ่งเข้ามานั้นเร็วราวกับรถไฟเหาะ ยิ่งคนขว้างแรงและเร็วมากเท่าไรลูกที่ออกจากริกกี้ก็ยิ่งพุ่งไกลมากขึ้นเท่านั้น
แต่ความโดดเด่นนั้น มาพร้อมกับความผิดปกติที่หลบไม่พ้นสายตาแมวมอง ริกกี้วิ่งกะเผลก เคลื่อนไหวไม่คล่องแคล่ว และนั่นทำให้เขาถูกตัดชื่อออก ไม่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของการคัดเลือก
ริกกี้ไม่ยอมเดินจากไปเงียบ ๆ เขาตัดสินใจเดินเข้าไปหากลุ่มโค้ชที่กำลังปรึกษากันอยู่ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ด้วยความเคารพครับ นักเบสบอลที่ตีลูกได้ไกลที่สุดกำลังจะถูกคัดออก ผมควรทำอย่างไรจึงจะได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มนักเบสบอลที่โค้ชคิดว่าเก่งที่สุด”
คำพูดนั้นทำให้โค้ชทุกคนต้องหยุดชะงัก ไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้ยินความท้าทายเช่นนี้จากเด็กหนุ่มที่เพิ่งถูกตัดชื่อออก สุดท้าย ริกกี้ได้รับโอกาสอีกครั้งให้ลงคัดเลือกในวันสุดท้าย โดยมีเงื่อนไขว่าเขาจะต้องเป็นตัวสำรองสำหรับการตีลูกให้กับทั้งสองทีม ซึ่งผู้ขว้างลูกเป็นนักเบสบอลอาชีพ
ค่ำคืนนั้นกลายเป็นคืนที่ไม่มีใครลืมได้ง่าย ๆ จากการออกมาตีทั้งหมด 11 ครั้ง ริกกี้ตีถูกลูกทุกครั้ง และในจำนวนนั้นมีถึง 3 ครั้งที่เป็นโฮมรันตีไกลออกนอกสนาม ทุบสถิติการคัดเลือกนักเบสบอลอาชีพตั้งแต่เคยมีมา เด็กหนุ่มที่ไม่อยู่ในสายตาใครกลับกลายเป็นนักเบสบอลที่ถูกจับตามองมากที่สุดในคืนนั้น

แต่กว่าริกกี้จะมายืนอยู่ตรงจุดนี้ได้ เขาต้องต่อสู้กับอุปสรรคของชีวิตตั้งแต่วัยเยาว์ เขาเกิดมาพร้อมกับโรคหมอนรองกระดูกเสื่อม (degenerative disc disease) ต้องเข้ารับการผ่าตัดหลายครั้งตั้งแต่เกิดจนถึงอายุเพียง 4 ขวบ และต้องใส่เหล็กดามขาทั้งสองข้างเพื่อช่วยให้สามารถเดินได้ ครอบครัวของเขามีฐานะยากจน พ่อเป็นบาทหลวงผู้เคร่งครัดในวินัย
ริกกี้เคยให้สัมภาษณ์ว่า “ช่วงเด็กเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก ผมเคยต้องกินอาหารสุนัขกระป๋อง การเดินด้วยเหล็กดามขา และการถูกเพื่อนล้อเลียนทำให้ทุกอย่างยิ่งเลวร้ายลงไปอีก”
เขาเริ่มฝึกเล่นเบสบอลตั้งแต่อายุ 7 ขวบ จากการชักชวนของพี่ชาย แม้จะเคลื่อนไหวไม่คล่องเหมือนคนอื่น แต่ริกกี้กลับตีลูกได้ไกลกว่าใครทั้งหมด เขาเป็นนักกีฬาทีมโรงเรียนตั้งแต่มัธยมต้น และได้รับฉายาว่า “Home Run King” ตั้งแต่อายุเพียง 12 ปี

อย่างไรก็ตาม พรสวรรค์ด้านเบสบอลของเขากลับไม่ได้รับการยอมรับจากพ่อผู้ซึ่งเชื่อมั่นว่าลูกชายควรเติบโตไปเป็นบาทหลวง ดำเนินชีวิตตามหนทางที่พระเจ้ากำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อริกกี้สามารถจดจำคำสอนในคัมภีร์ไบเบิลได้อย่างแม่นยำ
ท่ามกลางความขัดแย้งนั้น ริกกี้เลือกเดินตามหัวใจของตนเองเขาบอกกับพ่อว่า “พ่อพูดถูก พระเจ้าไม่เคยทำผิดพลาด เมื่อผมหวดไม้ผมได้เป็นสักขีพยานถึงพลังของพระองค์” ทุกครั้งก่อนออกไปตีลูก ริกกี้จะลากไม้เบสบอลลงบนพื้นเป็นรูปกางเขน เพื่อย้ำเตือนถึงศรัทธาที่เขามี ในที่สุดพ่อไม่อาจหนีความจริงได้อีกต่อไป คืนหนึ่งเขาตัดสินใจเข้าไปชมการแข่งขัน และหลังจบเกมเขายอมรับกับลูกชายทั้งน้ำตาว่า “พ่อเพิ่งเข้าใจแผนการที่พระเจ้าวางไว้ให้ลูก ไม่ใช่ลูกที่เป็นคนพิการ แต่เป็นพ่อที่ตาบอดมองไม่เห็นตัวตนที่แท้จริงของลูกมาตลอด”

ริกกี้ ฮิลล์ ในวันนี้
ในเวลาต่อมา ริกกี้ ฮิลล์ ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่ทีม Montreal Expos แม้จะไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวหลักได้แต่เขาก็ได้ลงเล่นกับทีมอาชีพยาวนานกว่า 4 ปี ก่อนที่อาการหมอนรองกระดูกเสื่อมจะกำเริบจนต้องเลิกเล่นในที่สุด หลังจากนั้น เขาหันมายึดอาชีพโค้ชทีมเบสบอลสมัครเล่น และสอนกอล์ฟมาจนถึงปัจจุบัน
ริกกี้ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “แม้หลายคนจะบอกว่าโรคหมอนรองกระดูกเสื่อมคือจุดจบของชีวิตผม แต่ผมไม่เคยยอมรับและจะไม่มีวันยอมแพ้ ผมพิสูจน์แล้วว่าอุปสรรคไม่อาจหยุดยั้งความฝันได้”
เรื่องราวชีวิตจริงของริกกี้ ฮิลล์ ถูกถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์เรื่อง “The Hill” ทาง Netflix ซึ่งติดอันดับหนึ่งในสิบของภาพยนตร์ที่มีผู้ชมสูงสุด ภาพยนตร์เรื่องนี้เตือนใจเราว่า “ชีวิตจะมีคุณค่าได้เสมอ เมื่อเราไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรมที่เราไม่ได้เลือกเอง”
บทความโดย :
รณดล นุ่มนนท์
15 ธันวาคม 2568
แหล่งที่มา:
1/ Monica Mercuri, Is “The Hill” On Netflix A True Story? What Happened To Rickey Hill,
Forbes Magazine, Jan 28, 2024, 06:16 pm. EST.
https://www.forbes.com/sites/monicamercuri/2024/01/28/is-the-hill-on-netflix-a-true-story-what-happened-to-rickey-hill/
หมายเหตุ:
ขอขอบคุณ ผศ. นพ.ปุณณฤกษ์ ทองเจริญ เพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ที่ได้แนะนำให้นำเรื่องนี้มาเขียน Weekly Mail ในสัปดาห์นี้

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา