"...แม่เล่าให้ฟังว่า กิ๊บเค้าอยากเป็นจิตแพทย์มานานแล้วเพราะเค้าชอบคุยกับคน มีเพื่อนๆ มาคุยกับเค้าอยู่เรื่อย ตอนเลือกเรียนจิตเวชกิ๊บบอกแม่ว่าเราไม่ต้องร่ำรวยเหมือนคนอื่นก็ได้นะ ทำสิ่งที่มีความสุขและพอมีพอกินก็พอแล้ว..."
.....................................
หมอกิ๊บมาเรียนจิตเวชเด็กที่จุฬาฯ ตั้งแต่ปี 2559 เพิ่งจบไปเมื่อเดือนกรกฎาปีนี้ ไปทำงานที่รพ.จังหวัดระยองได้ 3 เดือนเอง
กิ๊บเป็นนางฟ้าของทุกคน ตั้งแต่กิ๊บมาอยู่จุฬาฯ จนกิ๊บจบออกไปผมไม่เคยได้ยินใครบ่นเรื่องกิ๊บให้ฟังเลยซักคน
ตรงกันข้าม เวลาส่งกิ๊บออกไป elective ที่ไหน มักได้ยินคำชมตามมาว่าลูกศิษย์จุฬาฯ น่ารักจังเลย
กิ๊บเป็นแพทย์ประจำบ้านที่อาจารย์ไว้ใจได้มากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของหน่วยจิตเวชเด็ก มีเคสอะไรจะยากเย็นซับซ้อนแค่ไหนแต่ถ้าเป็นหน้าที่กิ๊บไปดูอาจารย์จะสบายใจได้ว่าคนไข้จะได้รับการดูแลที่ดี
ดีขนาดว่าตอนผมเรียนที่นี่ผมยังไม่แน่ใจเลยว่าอาจารย์ไว้ใจผมขนาดนี้หรือเปล่า
กิ๊บเป็นคนชอบเรียนรู้ สอนหรือแนะนำอะไรแล้วไม่เคยสูญเปล่า กิ๊บจะเอาไปลองคิดลองทำต่อเสมอ
ผมเคยแนะนำกิ๊บว่าคนไข้ social anxiety น่าเอาไปลองทำ behavioral experiment กิ๊บก็มาเล่าให้ฟังอย่างสนุกสนานว่าลองพาเด็กไปโรงอาหารทวีวงศ์แล้วให้เด็กเดินรอบโรงอาหาร ในขณะที่กิ๊บก็เดินตามถ่ายคลิปเอามาให้เด็กดูว่ามีใครมองเขาอย่างที่เขาคิดหรือเปล่า
กิ๊บบอกว่าหนูก็คิดเหมือนกันว่าคนจะมองหนูประหลาดๆ ว่าหมอนี่มันมาเดินถ่ายอะไรของมัน แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะเรากำลังสนใจคนไข้มากกว่า
กิ๊บเป็นคนอารมณ์ดีเสมอต้นเสมอปลาย ไม่เคยเห็นกิ๊บโกรธหรือหงุดหงิดอะไรใครซักกะที
หรืออาจจะมีทีนึง ในคลาสนึงด้วยความเป็นอาจารย์ปากเสีย ชอบจิกกัดชาวบ้านเขาไปเรื่อย ทีนี้ไม่รู้ไปพูดอะไรจำไม่ได้แล้ว (เข้าใจว่าไปแซวเรื่องให้แต่งตัวแต่งหน้าสวยๆ หรืออะไรซักอย่าง) กิ๊บก็สวนออกมาว่า “อาจารย์อย่า bully หนูค่ะ” แล้วหัวเราะ
ถ้าตอนนั้นกิ๊บโกรธจริงๆ ผมขอโทษนะจ๊ะ
กิ๊บเรียนจบบอร์ดอย่างดีงาม อาจารย์ห่วงน้อยที่สุดเรื่องกิ๊บจะสอบผ่านหรือไม่ผ่าน แล้วผลสอบก็เป็นยังงั้นจริงๆ เพราะกิ๊บเขียน essay ได้คะแนนสูงสุดของรุ่น ส่วนสอบ interview ก็ผ่านสบายๆ
พวกอาจารย์เคยพยายามชวนกิ๊บมาอยู่เป็นอาจารย์ด้วยกันที่จุฬาฯ แต่กิ๊บบอกว่าอยากไปตรวจรักษาเด็กที่ต่างจังหวัดมากกว่า
พวกเราได้แต่ดีใจแทนจังหวัดระยองที่จะได้หมอที่ทั้งเก่งและดีไปช่วยดูแลเด็กๆ
5 ตุลา กิ๊บโดนรถชนที่พัทยา
กิ๊บกำลังเดินข้ามถนนไปลานจอดรถ จู่ๆ รถกระบะที่จอดอยู่ก็เร่งเครื่องอย่างแรงแล้วถอยมาชนหลังกิ๊บจนกระเด็นศีรษะกระแทกพื้น
กิ๊บหมดสติไปตั้งแต่ตอนนั้นจนจากเราไป
ช่วงที่กิ๊บมาอยู่ที่ ICU รพ.จุฬาฯ ผมได้พบกับคุณพ่อคุณแม่และพี่โบพี่สาวของกิ๊บ ทำให้เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมกิ๊บถึงเป็นคนดีที่มีแต่คนรักแบบนี้
กิ๊บมีครอบครัวที่อบอุ่น คุณพ่อคุณแม่ดูแลกิ๊บมาดีมาก ทุกคนรักกัน คอยช่วยเหลือให้กำลังใจกัน
แม่เล่าให้ฟังว่า กิ๊บเค้าอยากเป็นจิตแพทย์มานานแล้วเพราะเค้าชอบคุยกับคน มีเพื่อนๆ มาคุยกับเค้าอยู่เรื่อย ตอนเลือกเรียนจิตเวชกิ๊บบอกแม่ว่าเราไม่ต้องร่ำรวยเหมือนคนอื่นก็ได้นะ ทำสิ่งที่มีความสุขและพอมีพอกินก็พอแล้ว
พี่โบเล่าว่า ตอนเรียนกิ๊บก็มีเครียดบ้างเวลาเจอเคสหนักๆ หรือทำวิจัยแล้วมีปัญหา ก็โทรมาบ่นให้พี่ฟังบ้าง แต่บอกว่าที่จุฬาฯ นี่อาจารย์และเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เค้า support กันดี พี่โบบอกว่าวันนี้ได้มาอยู่ที่นี่เองก็เลยได้เข้าใจที่น้องพูด
ผมบอกคุณพ่อคุณแม่ไปว่ากิ๊บเป็นลูกศิษย์ที่อาจารย์ภูมิใจมากที่สุดคนนึง คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงลูกมาได้ดีมากจริงๆ
ภาพที่ติดตาผมมากคือตอนคุณพ่อคุณแม่ไปกอดกิ๊บ ลูบผม ลูบหน้ากิ๊บ จับมือกิ๊บ
ผมยืนดูอยู่หน้าห้องน้ำตาไหลไปไม่รู้กี่รอบ (ตอนพิมพ์อยู่นี่ก็ไม่เว้น)
บางทีชีวิตมันก็ไม่ยุติธรรมกับเราเท่าไหร่
คนดีที่มีแต่คนรัก ทำแต่สิ่งดีๆ มาตลอดชีวิต มุมานะฝ่าฟันจนเรียนจบ กำลังเริ่มต้นชีวิตการทำงานทำประโยชน์เพื่อสังคม
อยู่ๆ มาจากเราไปง่ายๆ เพราะคนประมาท
คุณไม่ได้ตั้งใจ คุณไม่ใช่คนไม่ดี แต่คุณประมาท
วันนี้กิ๊บไม่อยู่กับเราแล้ว
เชื่อว่ากิ๊บคงล่วงหน้าไปตรวจลูกนางฟ้าลูกเทวดาบนสวรรค์ (ครอบครัวชั้นสูงก็ปัญหาสุขภาพจิตเยอะนะ)
ขอบคุณสำหรับ 4 ปีที่เราได้มารู้จักกัน
เป็นความทรงจำดีๆ ของชีวิตอาจารย์คนนึง
Reunion ครั้งต่อไปเราคงไม่ได้มาเจอกันตัวเป็นๆ เหมือนที่ตั้งใจ
แต่พวกเราจะระลึกถึงกิ๊บอยู่เสมอ
ตลอดไป
ที่มา : https://www.facebook.com/754281756/posts/10159021145616757/?extid=0&d=n
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก Warunya Pongparadorn