บยยส.รุ่นที่ 2 เสนอทางออก ปลดล็อก 'กับดักเรตติ้ง' แนะใช้ AI เน้นคุณภาพสื่อ-พัฒนาเครื่องมือวัด ชี้เทคโนโลยี-พฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิดัลเปลี่ยนไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2565 หลักสูตรผู้บริหารยุทธศาสตร์การสื่อสารมวลชนระดับสูง ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (บยสส.) รุ่นที่ 2 ร่วมกับสถาบันอิศรา จัดสัมมนาในหัวข้อ 'คอนเทนต์คุณภาพกับโอกาสเติบโตในสมรภูมิเรตติ้ง' เสนอนวัตกรรมและแนวทางต้นแบบเพื่อตอบโจทย์วงการสื่อมวลชนของไทยได้สามารถและดำเนินผลิตเนื้อหาสาระที่มีคุณภาพให้ผู้ชม
นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ผู้อำนวยการหลักสูตร บยสส. รุ่นที่ 2 กล่าวว่า การจัดเวทีในวันนี้ เป็นอีกโอกาสหนึ่งที่จะเปิดมุมมองให้สังคมได้รับรู้ข้อมูลที่รอบด้านที่ทางผู้เข้าอบรมได้จัดทำและเชื่อว่าเป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยเฉพาะในประเด็นเกี่ยวกับคุณภาพเนื้อหาของรายการในสื่อท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้น และการพัฒนาของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
รศ.ดร.อรพรรณ โตสิงห์ รองคณบดีฝ่ายวิจัยนวัตกรรมและวิเทศสัมพันธ์ คณะพยาบาลศาสตร์ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ สภาการพยาบาล ในฐานะประธาน บยสส. รุ่นที่ 2 กล่าวว่า การจัดสัมมนาฯ ครั้งนี้ เป็นเวทีนำเสนอ และแบ่งปันแนวทาง หรือนวัตกรรมของผู้เข้าอบรม บยสส.รุ่นที่ 2 นำไปสู่การสร้างสรรค์เนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และองค์กรสื่อยังสามารถอยู่รอดได้ แบบ win-win รวมทั้งรับฟังมุมมอง และแนวคิด ตลอดจนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ผู้นำองค์กร นักวิชาการ และผู้ที่เกี่ยวข้องในองค์กรสื่อมวลชน เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในวงการสื่อสารมวลชนของไทย
โดยผู้เข้าอบรม บยสส.รุ่นที่ 2 ได้นำกระบวนคิดเชิงออกแบบ หรือ Design Thinking มาช่วยวิเคราะห์ปัญหาเชิงลึกของสื่อในปัจจุบัน ซึ่งพบตรงกันว่า จากพัฒนาการของเทคโนโลยีการสื่อสารที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เกิดแพลตฟอร์มการนำเสนอข่าวสารที่เกิดขึ้นใหม่และมีหลากหลายรูปแบบ องค์กรสื่อต้องพยายามอย่างหนักเพื่อเอาตัวรอดจาก Digital Disruption จึงเป็นที่มาของการผลิตและนำเสนอเนื้อหาที่ดึงดูดผู้ชมและมีรายได้เพิ่มขึ้น จนทำให้บางครั้งละเลยบทบาทหน้าที่หลักในการนำเสนอเนื้อหาที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อสังคม
"ปัญหาเกิดจากการแข่งขันด้านเรตติ้ง เพื่อแย่งชิงรายได้จากโฆษณา จากการศึกษา กลุ่มผู้เข้าอบรม บยสส.รุ่นที่ 2 จึงได้นำเสนอแนวคิดใหม่ และผลงานต้นแบบ ในการที่จะช่วยให้องค์กรสื่อหลุดจาก 'กับดักเรตติ้ง' เพื่อให้องค์กรสื่อสามารถดำรงอยู่และเดินหน้าต่อได้แบบมั่นคง ควบคู่กับการรักษาบทบาทการเป็นที่พึ่งด้านข้อมูลข่าวสารที่สำคัญ" รศ.ดร.อรพรรณ กล่าว
ในเวทีเสวนาฯ เป็นการนำเสนอโครงการฯ เพื่อตอบโจทย์การบาลานซ์ระหว่างคุณภาพและเรตติ้งของวงการสื่อ เพื่อสามารถนำไปต่อยอดหรือขยายผลปรับใช้ได้ มีประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้
-
The Premium คนสื่ออยู่ได้ คนอ่านยอมจ่าย เป็นโมเดลธุรกิจใหม่ พัฒนาแอปพลิเคชั่นที่กลุ่มเป้าหมายจ่ายเงินเพื่ออ่านข้อมูลข่าวสาร เช่นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น อย่าง Netflix หรือแอปพลิเคชั่นนิยายออนไลน์ เริ่มต้นกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ประกอบการ สตาร์ทอัพ นักศึกษา ทำคอนเทนต์พรีเมียมที่หาอ่านจากสื่อออนไลน์ไม่ได้ และเป็นประโยชน์กับผู้อ่านสามารถเอาไปต่อยอดหรือใช้งานต่อได้ นอกจากนี้ เจ้าของธุรกิจสามารถต่อยอดนำเนื้อหาในแอปไปผลิตเป็นสื่อรูปแบบอื่นๆ หรือจัดอีเว้นท์ สร้างรายได้เพิ่มเติมได้อีกด้วย
-
ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพ เป็นแนวทางที่พัฒนาขึ้นจากความตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ส่งผลให้เด็กมีช่องทางในการเปิดรับสื่อหลากหลายขึ้น และสามารถเลือกเนื้อหาได้เอง เรตติ้งต้องอาศัยการวัดที่หลายมิติ โดยเฉพาะ วัดจากการ feedback ของผู้ชมแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ผู้ซื้อโฆษณาเห็นว่าใครเป็นผู้ชมรายการ มีความชอบหรือมีความเห็นต่อรายการนั้นๆ เป็นต้น
-
คอนเทนต์แพลตฟอร์ม OTT และ คอนเทนต์ทีวี ร่วมกันอย่างไร ท่ามกลางการเติบโตของแพลตฟอร์ม OTT ความแตกต่างของคนแต่ละ generation คนผลิตเนื้อหาโทรทัศน์จะปรับตัวให้สามารถเชื่อมต่อกับ OTT ซึ่งช่องทาง การสร้างเนื้อหาที่เป็นจุดร่วมระหว่างคนแต่ช่วงวัย ผลิตเนื้อหาแบบ Event television ที่ทุกคนดูได้พร้อมกัน นำไปสู่การ cross ระหว่างแพลตฟอร์ม และก่อให้เกิดรายได้ ปัจจัยสำคัญ คือ การปรับปรุงเรื่อง กฎระเบียบ ที่ยังเหลื่อมล้ำกันระหว่างแพลตฟอร์ม
-
Application คนข่าว แพลตฟอร์มสนับสนุนการนำเสนอข่าวที่มีคุณภาพ โดยให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมให้ข้อเสนอแนะ ตักเตือน และส่งเรื่องร้องเรียนการทำงานที่ไม่เหมาะสมของสื่อได้ที่หน่วยงานที่กำกับดูแล พร้อมติดตามผล และมีการดำเนินงานอย่างไร มีส่วนช่วยขจัดปัญหาข่าวที่ไม่ได้คุณภาพ และจะเกิดขึ้นได้จริงหากวงการสื่อพร้อมรับฟังเสียงของประชาชนมากกว่าฟัง เรตติ้ง
-
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ต่อยอดให้สร้างสรรค์ข่าวตามความสนใจของผู้ชมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว“น้องสาระ”จะช่วยสร้างสรรค์การอ่านข่าวตามความสนใจของผู้ชมผ่าน 4 ขั้นตอนง่ายๆ ตั้งแต่ การเลือกคอนเทนต์ที่ต้องการ สร้างเสียงพูดตามเสียง เลือกหน้าตาอวตาร และเผยแพร่คลิป ก็ได้ข่าวที่อ่านโดยเสียงและคนที่ชอบ
สำหรับบทสรุป ทั้งทุกโครงงานฯ สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ผลิตสื่อรับรู้ได้ว่า ปัญหาของสื่อในปัจจุบัน คือ การสื่อหลักถูกแย่งพื้นที่จากแพลตฟอร์มที่หลากหลาย จึงต้องมีการแข่งขันกันด้วยเรตติ้งเพื่อความอยู่รอดจากเม็ดเงินที่ได้จากค่าโฆษณา เนื้อหาที่แพร่ให้ประชาชนจึงต้องเป็นเนื้อหาที่ดึงดูดใจ อยู่ในกระแส คุณภาพของเนื้อหาและประโยชน์สำหรับประชาชนจึงถูกละเลย
ทางออกที่ทุกกลุ่มพัฒนาขึ้น เป็นนวัตกรรมที่เน้นคุณภาพของเนื้อหา พัฒนาเครื่องมือเพื่อวัดคุณภาพของรายการ และพัฒนา Business Model สำหรับผู้ผลิตสื่อ ทั้งนี้เพื่อให้ สื่อสารมวลชนเป็นที่พึ่งด้านข้อมูลที่สำคัญ ให้ความบันเทิงที่สร้างสรรค์ และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมไทยให้เป็นสังคมอุดมปัญญา และเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน
ขณะเดียวกัน น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค ให้มุมมองในฐานะเป็นตัวแทนผู้บริโภคแสดงความเป็นห่วงกังวลต่อการนำเสนอข่าวทุกวันนี้ที่ให้ความสนใจเรื่องของเรตติ้งมากกว่าคุณภาพของเนื้อหา เรียกร้องให้องค์กรสื่อ และผู้ผลิตข่าวพัฒนาคุณภาพเนื้อหาข่าวเพื่อเป็นการปลดล็อคเรตติ้ง
"เรตติ้งคู่กับคุณภาพได้ คนดูต้องการคอนเทนต์คุณภาพ แต่ขณะนี้เหมือนกับผู้สื่อข่าวยอมจำนน สื่อ..ต้องสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับผู้บริโภค สังคม และสามารถทำให้สนุกได้ อย่างเรื่องคังคูไบ ทำให้เราเห็นว่าคุณภาพ ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการสร้างเรตติ้ง" น.ส.สารี กล่าว
น.ส.สารี กล่าวว่า ในมุมมองของผู้บริโภค สื่อต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับผู้บริโภค สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมได้ ต้องหาประเด็นที่น่าสนใจตอบโจทย์ผู้บริโภค อย่างการรายงานข่าวอาชญากรรม สื่อนำเสนอในเชิงเป็น ดราม่ามากกว่า แทนการหาสาเหตุของปัญหา 'ผู้สื่อข่าวปัจจุบันเน้นทำตัวเป็นตำรวจมากกว่า ใครหาคนผิดได้ก่อนช่องนั้นเก่ง แต่จริงๆ สื่อควรทำหน้าที่สื่อหาต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุมากกว่า'
ด้าน นายวัชร วัชรพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจ บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด กล่าวว่า ความจริงการบาลานซ์ระหว่างคุณภาพเนื้อหากับเรตติ้ง เป็นสิ่งที่สื่อในบ้านเราเผชิญมาตลอดการพัฒนาคุณภาพสาระ กับคอนเทนต์ที่สร้างรายได้ ดังนั้น ในมุมมองผู้ผลิตคอนเทนต์ ต้องเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับช่วงเวลา อะไรเป็นประโยชน์กับประชาชน เช่น การรายงานข่าวในประเด็นที่ต้องยืนหยัดกับประชาชน
ขณะที่ รศ. พิจิตรา ศุภสวัสดิ์กุล คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เรตติ้งเป็นตัวชี้วัดตัวหนึ่งของวงการทีวีไทย และจากสถานการณ์ปัจจุบัน วงการโทรทัศน์เผชิญกับความท้าทาย แบ่งเป็นสองด้าน ด้านแรกระบบโทรทัศน์แบบเดิม อีกด้านหนึ่งคือสตรีมมิ่ง แพลตฟอร์มดิจิทัลกำลังมาแรง เม็ดเงินโฆษณากำหนดมาเหล่านี้ทั้งนั้น ในอนาคตเรากำลังหา business โมเดลใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการหาสปอนเซอร์ หรือระบบสมาชิกก็ตาม
“ในเชิงวิชาการสื่อเป็นสินค้าที่กระทบวิธีคิดของคนสื่อต้องเป็นตะเกียงนำแสงทาง ไม่ใช่แค่กระจกสะท้อนวิธีคิดสังคม และที่สำคัญเราเห็นประชาชนลุกขึ้นมาเป็นตะเกียงนำทางให้สื่อ” รศ. พิจิตรากล่าว
รศ. พิจิตรา กล่าวถึงเหตุการณ์ล่าสุดในจังหวัดหนองบัวลำภูว่า การรายงานข่าวของสื่อมวลชนครั้งนี้ถือว่าเป็นการทำงานที่รวดเร็ว และไม่มีภาพอะไรที่น่าหวาดเสียวออกมา ถือได้ว่าตอนนี้เรากำลังยกระดับมาตรฐานจรรยาบรรณทั่วไปได้ดี ซึ่งมองว่าจะเป็นบรรทัดฐานการรายงงานข่าวคุณภาพได้ดีเหตุการณ์หนึ่ง
ทั้งนี้ หลักสูตรผู้บริหารยุทธศาสตร์การสื่อสารมวลชนระดับสูงด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (บยสส.) ได้ดำเนินการโดยสถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย เป็นหลักสูตรที่เปิดโอกาสให้องค์กรสื่อด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ นักวิชาการ และผู้ที่เกี่ยวข้องมาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และนำเสนอแนวคิดหรือโครงการที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อวงการสื่อรวมถึงสังคมโดยรวม