
มูลนิธิพันธมิตรประชาธิปไตยทำดัชนี เผยผลสำรวจ ปชช.ไทย 32 เปอร์เซ็นต์มอง รบ.ยังไม่ดำเนินการไปตามวิถีประชาธิปไตย ชี้มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์มองว่าประเทศไทยยังเป็นประชาธิปไตยไม่พอ ขณะคนส่วนมากมอง รบ.ไทยจำกัดเสรีภาพเกินขอบเขตช่วงโควิด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่ามูลนิธิกลุ่มพันธมิตรประชาธิปไตยหรือ มูลนิธิ Alliance of Democracies ซึ่งเป็นมูลนิธิของนายอันเดอร์ส ฟ็อกห์ ราสมัสเซน อดีตเลขาธิการนาโต้ได้มีการจัดทำดัชนีการรับรู้ประชาธิปไตยประจำปี 2566 ซึ่งลักษณะของดัชนีจะเป็นการสำรวจความคิดเห็นของประชากรในประเทศต่างๆเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ
โดยในกรณีของประเทศไทยนั้นมีการสำรวจประชากรไทยระบุว่าในกรณีของความเป็นประชาธิปไตย พบว่าประชาชนกลุ่มที่มีความรู้สึกว่ารัฐบาลไม่ได้ดำเนินไปตามวิถีทางของประชาธิปไตยอยู่ที่ 32 เปอร์เซ็นต์ (เปอร์เซ็นต์ยิ่งน้อยยิ่งดี) ซึ่งเปอร์เซ็นต์นี้เทียบเท่ากับประเทศอิตาลี ส่วนประเทศที่ประชาชนรู้สึกว่ารัฐบาลมีความเป็นประชาธิปไตยที่สุดสามอับดับแรกได้แก่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์อยู่ที่ 11 เปอร์เซ็นต์ เทียบเท่ากับประเทศอินเดีย และสิงคโปร์พบว่ามีเปอร์เซ็นต์ของความรู้สึกของประชาชนว่ารัฐบาลไม่ได้เป็นประชาธิปไตยอยู่ที่ 12 เปอร์เซ็นต์
ส่วนประเทศที่ประชาชนมีความรู้สึกว่ารัฐบาลไม่เป็นประชาธิปไตยสูงสุดในสามอันดับแรกได้แก่ประเทศฮังการี อิหร่าน และเวเนซุเอลา โดยมีเปอร์เซ็นต์เท่ากันอยู่ที่ 51 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ผลสำรวจประชากรจำนวน 53 ประเทศพบว่า 41 เปอร์เซ็นต์ของประเทศเหล่านี้ระบุว่าประเทศตัวเองยังไม่เป็นประชาธิปไตย มี 46 เปอร์เซ็นต์บอกว่าประเทศตัวเองเป็นประชาธิปไตยเหมาะสมแล้ว และอีก 13 เปอร์เซ็นต์ระบุว่าประเทศตัวเองเป็นประชาธิปไตยมากเกินไป
โดยในส่วนของประเทศไทยนั้น ผลสำรวจระบุว่าประชาชนประมาณมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์มองว่าประเทศไทยยังไม่เป็นประชาธิปไตยเพียงพอ ประชาชนอีกประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์เป็นว่าเป็นประชาธิปไตย และไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์มองว่าไทยมีประชาธิปไตยมากเกินไป
ในดัชนี้ยังได้ระบุถึงความรู้สึกของประชาชนที่คิดว่ารัฐบาลจำกัดเสรีภาพมากเกินไปในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤติโควิด-19 พบว่าประเทศไทยมีประชาชนที่รู้สึกว่ารัฐบาลนั้นจำกัดเสรีภาพมากเกินไป โดยประชากรกลุ่มนี้พบว่ามีมากกว่า 41 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกันประชาชนที่รู้สึกว่ารัฐบาลไม่ได้จำกัดเสรีภาพช่วงโควิดแต่อย่างใด

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา