
ป.ป.ช.รวบอดีต จนท.การเงิน อบต.เสาเล้า จ.กาฬสินธุ์ ร่วมขบวนการกับผู้ต้องหารวม 11 ราย สั่งจ่ายเช็คโดยมิชอบ 34 ฉบับ สร้างความเสียหาย 3.3 ล. ก่อนหนีคดีไป จ.ขอนแก่น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าสำนักงานคณะกรรมการป้อกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้ออกเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ กรณีเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา นักสืบสวนคดีทุจริต งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ได้จับกุมนางดวงใจ ศรีฮาด หรือกุลศรี อดีตเจ้าหน้าที่การเงิน องค์การบริหารส่วนตำบลเสาเล้า อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยจับกุมตัวได้ที่ ตำบลหัวนาคำ อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น
เอกสาร ป.ป.ช.ระบุว่านางดวงใจได้ร่วมกับผู้ถูกกล่าวหารายอื่นในคดีนี้รวม 11 ราย สั่งจ่ายเช็คโดยมิชอบด้วยระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 จำนวนทั้งสิ้น 34 ฉบับ รวมเป็นเงิน 3,314,768.58 บาท
สำหรับบทบาทของนางดวงในการกระทำความผิดมีดังนี้
1. เป็นผู้จัดทำและเขียนเช็คทั้ง 34 ฉบับ
2.ร่วมกับผู้ถูกกล่าวหาอีก 1 ราย ลงนามสั่งจ่ายเช็ค จำนวน 2 ฉบับ
3.ร่วมกับผู้ถูกกล่าวหาอีก 7 ราย นำเช็คทั้ง 34 ฉบับ ไปเรียกเก็บเงินกับธนาคารและธนาคารได้จ่ายเงินให้ โดยฟังว่ามีการสั่งจ่ายโดยไม่ชอบเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น และเบียดบังเอาเงินนั้นไปโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาเงินนั้นไปเสีย จำนวน 19 ฉบับ และฟังว่ามีการสั่งจ่ายโดยไม่ชอบเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น จำนวน 15 ฉบับ รวมทั้งสิ้น 34 ฉบับ อันเป็นการกระทำไปเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่องค์การบริหารส่วนตำบลเสาเล้า อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2551 ถึงวันที่ 19 สิงหาคม 2552
ต่อมาในวันที่ 7 พ.ย. 2566 ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ได้มีการอนุมัติออกหมายจับที่ จ.503/2566 โดยระบุว่านางดวงใจเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้น เป็นของตนเองหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 และมาตรา 157
อย่างไรก็ตาม นางดวงใจกลับมีพฤติการณ์หลบหนีหมายจับ โดยไม่ได้พักอาศัยอยู่ตามที่อยู่ภูมิลำเนาตามทะเบียนราษฎรที่อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ แต่เปลี่ยนที่อยู่ไปเรื่อยๆ ลักษณะเป็นบ้านเช่า ประกอบอาชีพไม่เป็นกิจจะลักษณะ เช่น รับจ้างกรีดยาง เก็บของเก่าขาย โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ
จนกระทั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 4 สืบสวนจนทราบว่า นางดวงใจมีความเคลื่อนไหวอยู่ในเขตพื้นที่ตำบลห้วยยาง อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น พนักงานเจ้าหน้าที่ฯ จึงลงพื้นที่ติดตามตัว พบนางดวงใจกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนอยู่บนถนนในเขตพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลห้วยยาง อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น พนักงานเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้เร่งติดตามไปและสามารถจับกุมตัวได้ในเขตพื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลหัวนาคำ อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น ในเวลาประมาณ 12.40 น.
โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าพนักงาน จากนั้นได้แสดงหมายจับและอ่านหมายจับให้นางดวงใจฟัง นางดวงใจ รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับนี้จริง และยังไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อน
พนักงานเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิให้ทราบ จากนั้นได้นำตัวไปยังสถานีตำรวจภูธรกระนวน อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ทำบันทึกจับกุม เก็บลายพิมพ์นิ้วมือเพื่อจัดทำทะเบียนประวัติผู้ถูกกล่าวหา/ผู้ถูกจับของสำนักงาน ป.ป.ช. รวมทั้งแจ้งการควบคุมตัวไปยังอัยการและฝ่ายปกครองและดำเนินการอื่นเพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้สูญหาย พ.ศ. 2565 จากนั้นได้ควบคุมตัวนำส่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 4 เพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ต่อไป
อนึ่งการจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้การดำเนินการของนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป ช. และนายประทีป จูฑะศร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 4

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา