
เผยมติ ป.ป.ช.เสียงเอกฉันท์ตีตกคดี 'วรุธ สุวกร' อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีโอที-พวก 3 ข้อกล่าวหา หลังก่อนหน้านี้ ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาลงโทษจำคุก 20 ปี คดีอนุมัติจ่ายเงิน 1,485 ล้าน ให้ ‘สามารถไอ-โมบาย’ โดยมิชอบ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. เสียงเอกฉันท์ ตีตกข้อกล่าวหา นายวรุธ สุวกร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ นายนิวัฒน์ กิมตระกูล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักอำนวยการธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) 3 กรณี คือ
ข้อกล่าวหาที่ 1 เมื่อเดือนธันวาคม 2552 บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) โดยนายวรุธ สุวกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ได้ลงนาม จัดทำบันทึกความเข้าใจโครงการทดลองการให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G กับผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมขายต่อบริการ ประเภทไม่มีเครือข่ายเป็นของตนเอง (Mobile Virtual Network Operator (MVNO)) จำนวน 5 ราย ได้แก่ บริษัท 365 คอมมูนิเคชั่น จำกัด บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไออีซี เทคโนโลยี จำกัด และบริษัท เอ็มคอนซัลท์ เอเชีย จำกัด ซึ่งบันทึกความเข้าใจโครงการทดลองการให้บริการฯ ดังกล่าว มีเงื่อนไขขัดกับประกาศ กทช. ลงวันที่ 12 ธันวาคม 2549 เรื่อง การประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภทการขายส่งบริการและบริการขายต่อบริการ ข้อ 10 ข้อ 11 ข้อ 14 (4) และข้อ 34
ข้อกล่าวหาที่ 2 เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2553 นายนิวัฒน์ กิมตระกูล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้โทรศัพท์สั่งให้บริษัท 365 คอมมูนิเคชั่น จำกัด ปิดระบบโปรโมชั่น 365 Multi User (5009) ซึ่งบริษัท 365 คอมมูนิเคชั่น จำกัด ได้เปิดขายโปรโมชั่น Unlimited ในราคา 790 บาทต่อเดือน โดยให้เหตุผลว่า บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) ร้องเรียนว่าไม่สามารถขายสินค้าได้ เนื่องจากบริษัท 365 คอมมูนิเคชั่น จำกัด เปิดขายโปรโมชั่น Unlimited ในราคาต่ำกว่า จากนั้นบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้ทำการปิดระบบโปรโมชั่น 365 Multi User (5009) ในทันที ทำให้บริษัท 365 คอมมูนิเคชั่น จำกัด ได้รับความเสียหาย
ข้อกล่าวหาที่ 3 เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2554 บริษัท 365 คอมมูนิเคชั่น จำกัด มีหนังสือขอเปิดใช้โปรโมชั่น Unlimited Package เช่นเดียวกับ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) ที่ใช้โปรโมชั่นดังกล่าวกับโทรศัพท์ยี่ห้อ Blackberry ต่อมาวันที่ 25 เมษายน 2554 นายนิวัฒน์ กิมตระกูล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาโดยปฏิเสธที่จะให้เปิดโปรโมชั่นเดียวกัน เนื่องจากไม่มีนโยบายให้บริการโปรโมชั่นนี้ ทั้งที่โปรโมชั่น Unlimited Package ไม่จำเป็นต้องใช้กับโทรศัพท์ยี่ห้อ Blackberry เท่านั้น
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีดังนี้
ข้อกล่าวหาที่ 1
จากการไต่สวนเบื้องต้นรับฟังได้ว่า คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาอนุมัติให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินโครงการสร้างโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 (3G) โดยมีนโยบายที่จะให้เปิดใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 ในเดือนธันวาคม 2552 เพื่อทูลเกล้าถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2552 บมจ.ทีโอที จึงได้ดำเนินการจัดหาพันธมิตรเพื่อเข้าร่วมเป็นผู้ขายต่อบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G โดยการจัดทำบันทึกความเข้าใจโครงการทดลองให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G (บันทึกความเข้าใจฯ) กับผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมขายต่อบริการ (ผู้ประกอบการ MVNO) จำนวน 5 ราย ได้แก่ บริษัท 365 คอมมูนิเคชั่น จำกัด บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไออีซี เทคโนโลยี จำกัด และบริษัท เอ็มคอนซัลท์ เอเชีย จำกัด โดยมิได้มีการจัดทำข้อตกลงเป็นสัญญาและจัดส่งสำเนาสัญญาให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ตามประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง การประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภทขายส่งบริการและบริการขายต่อบริการ ข้อ 15
พิจารณาแล้วเห็นว่า ขณะเกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ.2552 คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานหรือองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่และกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม ได้ออกประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง การประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภทขายส่งบริการและบริการขายต่อบริการ โดยมีผลใช้บังคับ ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2549 ซึ่งตามข้อ 15 ของประกาศฉบับดังกล่าว กำหนดให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมขายส่งบริการจัดส่งสำเนาสัญญาและเงื่อนไขเกี่ยวกับการขายส่งบริการให้แก่คณะกรรมการภายในสิบวัน นับแต่วันที่คู่สัญญาได้ลงนามในสัญญาและเงื่อนไขเกี่ยวกับการขายส่งบริการ
แต่ปรากฏว่าในการดำเนินกิจการโครงการทดลองให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ตามมติคณะรัฐมนตรี นั้น บมจ.ทีโอที ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมขายส่งบริการตามประกาศฉบับดังกล่าว ได้จัดทำบันทึกความเข้าใจฯ กับผู้ประกอบการฯ จำนวน 5 ราย ซึ่งเมื่อพิจารณาลักษณะ รายละเอียด และเงื่อนไขของบันทึกความเข้าใจดังกล่าวแล้ว ปรากฏว่าได้มีการกำหนดรายละเอียดเงื่อนไขเกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ความรับผิดชอบของบมจ.ทีโอที และผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมขายต่อบริการ มีการกำหนดค่าตอบแทนการขายส่งบริการ ดังนั้น บันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าว จึงมีลักษณะเป็นสัญญา ที่บมจ.ทีโอที จะต้องจัดส่งให้คณะกรรมการ กทช. ภายใน 10 วัน แต่บมจ.ทีโอที ได้จัดส่งให้เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2554 ซึ่งเป็นระยะเวลาภายหลังจากที่มีการทำบันทึกความเข้าใจฯ ประมาณ 2 ปี และเป็นเรื่องที่สืบเนื่องจากบริษัท 365 คอมมูนิเคชั่น จำกัด ได้ร้องเรียนต่อ กสทช. ว่าบมจ.ทีโอที ปฏิบัติไม่เป็นธรรม เห็นว่า กรณีการไม่จัดส่งสำเนาบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าว ซึ่งมีลักษณะเป็นสัญญาให้แก่ กสทช. นั้น เป็นการไม่ปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง การประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภทขายส่งบริการและบริการขายต่อบริการ ข้อ 15
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ตามข้อ 16 ของประกาศฉบับดังกล่าว คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) หรือปัจจุบันเปลี่ยนเป็นคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีอำนาจหน้าที่พิจารณาว่าสัญญาและเงื่อนไขเกี่ยวกับการขายส่งบริการดังกล่าวเป็นไปตามที่กำหนดในข้อ 14 ของประกาศดังกล่าว หรือขัดต่อกฎหมายหรือไม่ โดยกทช. หรือ กสทช.มีอำนาจสั่งให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมขายส่งบริการดำเนินการแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนดได้ ทั้งนี้ ข้อ 14 ของประกาศ กทช.ฯ กำหนดว่า สัญญาและเงื่อนไขเกี่ยวกับการขายส่งบริการอย่างน้อยจะต้องมีข้อกำหนด เช่น สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของคู่สัญญาที่ชัดเจนและเป็นธรรม ค่าตอบแทนการขายส่งบริการ มีข้อกำหนดอันมีลักษณะไม่เป็นการเลือกปฏิบัติ แบ่งแยก กีดกัน หรือไม่เป็นธรรมแก่คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เป็นต้น เมื่อพิจารณารายละเอียดเงื่อนไขที่กำหนดตามบันทึกความเข้าใจฯ แล้ว เห็นว่ามีการกำหนดเงื่อนไขอันเป็นสาระสำคัญรวมทั้งการกำหนดค่าตอบแทนการขายส่งบริการ มาตรฐานและคุณภาพการขายส่งบริการ ในลักษณะเดียวกันทั้ง 5 ฉบับ โดยมิได้มีการเลือกปฏิบัติกับผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมขายต่อบริการ (ผู้ประกอบการ MVNO) รายหนึ่งรายใด อันจะเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม
อีกทั้งการกำหนดค่าตอบแทนตามบันทึกความเข้าใจฯ ระหว่างบมจ.ทีโอที กับผู้ประกอบการทั้ง 5 รายดังกล่าว นอกจากจะกำหนดค่าตอบแทนในอัตราเดียวกัน ซึ่งมิได้มีการเลือกปฏิบัติแล้ว ฉะนั้น จากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานดังกล่าว จึงเห็นว่ากรณีที่บมจ.ทีโอที มิได้ส่งสำเนาบันทึกความเข้าใจฯ จำนวน 5 ฉบับ ให้กทช. ตามประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง การประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภทขายส่งบริการและบริการขายต่อบริการ ข้อ 15 นั้น เป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศฉบับดังกล่าว แต่ยังฟังไม่ได้ว่า มีเจตนาเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่บมจ.ทีโอที หรือผู้หนึ่งผู้ใด หรือมีเจตนาเพื่อเอื้อประโยชน์แก่ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมขายต่อบริการทั้ง 5 ราย ที่บมจ.ทีโอทีได้จัดทำบันทึกความเข้าใจฯ ด้วย
ข้อกล่าวหาที่ 2
จากการไต่สวนเบื้องต้นรับฟังได้ว่า ภายหลังจากบมจ.ทีโอที จัดทำบันทึกความเข้าใจฯ กับผู้ประกอบการทั้ง 5 ราย รวมทั้ง บริษัท 365ฯ แล้ว ต่อมาได้มีการอนุมัติค่าบริการขายส่งเพื่อทดลองบริการช่วงโปรโมชั่นช่วงระยะเวลาส่งเสริมการขาย 6 เดือนการส่งเสริมการขาย Internet SIM (prepaid) แบบ Unlimited Data Usage อัตราค่าบริการขายส่งเพื่อทดลองบริการ ราคาขายปลีกขั้นต่ำ จำนวน ราคา 790 บาท สำหรับ 15 วัน และราคา 1,490 บาทสำหรับ 30 วัน แต่ปรากฏว่าบริษัท 365 คอมมูนิเคชั่น จำกัด ได้กำหนดราคาขาย 790 บาทสำหรับ 30 วัน และแถมฟรีบริการ Voice Call ึ790 นาทีทุกเครือข่ายอีกด้วย บริษัท สามารถฯ จึงได้แจ้งให้บมจ.ทีโอที ดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าว โดยนายนิวัฒน์ กิมตระกูล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ในฐานะรักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักการตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นผู้ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ซึ่งตรวจพบว่า โปรโมชั่น Unlimited Data Sim ของ บริษัท 365ฯ เป็นการออกโปรโมชั่นทับซ้อนกับโปรโมชั่น Unlimited Data Usage ของบมจ.ทีโอที ซึ่งส่งผลกระทบต่อการกำหนดโครงสร้างราคาและบริการ ซึ่งเป็นการขัดต่อเงื่อนไขโปรโมชั่นของ บมจ.ทีโอที และมีผลกระทบต่อการทำการตลาดที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการ MVNO รายอื่น จึงได้นัดหมายบริษัท 365ฯ เข้าร่วมประชุมหารือถึงผลกระทบและแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่บริษัท 365ฯ ไม่ได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมประชุมแต่อย่างใด นายนิวัฒน์ฯ ได้โทรศัพท์ติดต่อกับนายสุรินทร์ฯ กรรมการผู้จัดการของบริษัท 365ฯ ว่าขอให้บริษัทปฏิบัติตามเงื่อนไขโปรโมชั่น Unlimited Data Usage ของบมจ.ทีโอที
ต่อมาบริษัท 365ฯ ได้มีหนังสือลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2553 แจ้งว่าได้หยุดจำหน่ายสินค้าโปรโมชั่น Unlimited Data Sim แล้ว พร้อมกับขอส่งสินค้าที่เหลือคืน ได้แก่ Unlimited Sim สำหรับ 15 วัน จำนวน 1,680 ชิ้น ราคาชิ้นละ 399 บาท เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 717,242.40 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) แต่บมจ.ทีโอที ได้แจ้งบริษัท 365ฯ ว่าตามเงื่อนไขโปรโมชั่น Unlimited Data Usage ไม่สามารถคืนสินค้าได้ แต่บริษัท 365ฯ ได้มีหนังสือ ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2553 แจ้งขอคืนสินค้าโปรโมชั่น Unlimited Data Sim อีกครั้ง ซึ่งบมจ.ทีโอที ได้มีการนัดหมายบริษัท 365ฯ เพื่อประชุมเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง แต่บริษัท 365ฯ ไม่มาร่วมประชุมแต่อย่างใด
พิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีที่บมจ.ทีโอที โดยนายนิวัฒน์ กิมตระกูล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 รักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สำนักการตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ ได้ตรวจสอบการกำหนดอัตราค่าบริการขาย Internet SIM (prepaid) แบบ Unlimited Data Usage ของบริษัท 365ฯ นั้น เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งผลการตรวจสอบปรากฏว่าบริษัท 365ฯ ได้ออกโปรโมชั่น Unlimited Data Sim ของ บริษัท 365ฯ เป็นการออกโปรโมชั่นทับซ้อนกับโปรโมชั่น Unlimited Data Usage ของบมจ.ทีโอทีซึ่งส่งผลกระทบต่อการกำหนดโครงสร้างราคาและบริการ ซึ่งเป็นการขัดต่อเงื่อนไขโปรโมชั่นของ บมจ.ทีโอที และมีผลกระทบต่อการทำการตลาดที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการ MVNO รายอื่น นายนิวัฒน์ กิมตระกูล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 จึงได้แจ้งให้บริษัท 365ฯ ยุติการจำหน่ายในราคาดังกล่าว และให้ปฏิบัติตามเงื่อนไข ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ อีกทั้ง ยังได้นัดหมายให้บริษัท 365ฯ ประชุมหารือกรณีดังกล่าว เพียงแต่บริษัท 365ฯ ไม่ได้เข้าร่วมประชุมตามที่นัดหมาย จึงเห็นว่าการที่นายนิวัฒน์ กิมตระกูล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 แจ้งให้บริษัท 365ฯ ยกเลิกการจำหน่าย Internet SIM (prepaid) แบบ Unlimited Data Usage ในราคาขาย 790 บาท สำหรับ 30 วัน และให้ปฏิบัติตามเงื่อนไข นั้น ยังฟังไม่ได้ว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมีเจตนาเพื่อกลั่นแกล้งบริษัท 365ฯ ให้ได้รับความเสียหาย แต่เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ข้อกล่าวหาที่ 3
จากการไต่สวนเบื้องต้นรับฟังได้ว่า ภายหลังจากบมจ.ทีโอที จัดทำบันทึกความเข้าใจฯ กับผู้ประกอบการทั้ง 5 ราย รวมทั้ง บริษัท 365ฯ แล้ว บมจ. ทีโอทีได้จัดทำบันทึกความเข้าใจโครงการร่วมทดสอบระบบการให้บริการ Blackberry Service ฉบับลงวันที่ 15 ตุลาคม 2553 กับบริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) เพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้โทรศัพท์ Blackberry ซึ่งใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ในระบบ WCDMA ของ บมจ. ทีโอที โดยมีแพคเกจค่าบริการสำหรับผู้ใช้บริการ Blackberry แบบไม่จำกัดการใช้งาน (Unlimited) Messaging , Social network , E mail , web browser เป็นต้น ต่อมา บริษัท 365ฯ ได้มีหนังสือ ฉบับลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554 แจ้งขอใช้โปรโมชั่น Unlimited เช่นเดียวกันกับบริษัท สามารถฯ ซึ่งบมจ.ทีโอที โดยนายนิวัฒน์ กิมตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สำนักการตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้มีหนังสือแจ้งให้บริษัท 365ฯ ทราบว่า บริษัท 365ฯ ไม่ได้ระบุรายละเอียดของอุปกรณ์ที่นำมาใช้กับโปรโมชั่นดังกล่าว และหากนำโปรโมชั่น Unlimited ไปใช้กับอุปกรณ์ AirCard หรือ Dongle (อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย) จะทำให้มีการใช้งาน DATA จำนวนมหาศาล ซึ่งโครงข่ายทีโอที 3G ไม่สามารถรองรับได้ ซึ่งแตกต่างจากกรณีของบริษัท สามารถฯ เนื่องจากบริษัท สามารถฯ ขอใช้โปรโมชั่นเฉพาะกับโทรศัพท์ Blackberry เท่านั้น ซึ่งมี server ของบริษัท RIM (Reserch In Motion ซึ่งเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์ Blackberry) โดยการให้บริการผ่านโทรศัพท์ Blackberry จะมีการเก็บข้อมูลที่ server ดังกล่าว และโทรศัพท์ Blackberry มีหน้าจอแสดงผลขนาดเล็ก และระบบมีการบีบอัดข้อมูลแบบพิเศษ จึงไม่ส่งผลกระทบกับคุณภาพโครงข่ายของ บมจ.ทีโอที และหาก บมจ.ทีโอที ติดตั้งและทดสอบระบบบริการจัดการทราฟฟิค (Bandwidth Management) แล้วเสร็จ และสามารถขยายโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 ได้ทั่วประเทศ บมจ.ทีโอที ยินดีพิจารณาข้อเสนอของบริษัท 365ฯ อีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่ปรากฏว่า บริษัท 365ฯ ได้ขอใช้โปรโมชั่นดังกล่าวอีกแต่อย่างใด
พิจารณาแล้วเห็นว่าการที่บมจ.ทีโอที ไม่อนุญาตให้บริษัท 365 คอมมูนิเคชั่น จำกัด เปิดใช้โปรโมชั่น Unlimited Package เช่นเดียวกันกับบริษัท สามารถฯ เนื่องจากบริษัท 365ฯ ไม่ได้ระบุอุปกรณ์ปลายทางที่จะใช้ ซึ่งแตกต่างกับบริษัท สามารถฯ ที่ระบุว่าจะใช้โปรโมชั่นดังกล่าวกับผู้ใช้บริการโทรศัพท์ Blackberry เท่านั้น ซึ่งการไม่ระบุอุปกรณ์ปลายทางที่จะใช้จะมีผลกระทบ หากนำไปใช้กับอุปกรณ์ AirCard หรือ Dongle (อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย) จะทำให้มีการใช้งาน DATA จำนวนมหาศาล ซึ่งโครงข่ายทีโอที 3G ไม่สามารถรองรับได้ เนื่องจากในขณะนั้น บมจ.ทีโอที ยังเป็นโครงข่าย Intial Phase เดิม 578 สถานีฐาน ซึ่งมีความจุและพื้นที่ครอบคลุมจำกัด สำหรับโทรศัพท์ Blackberry จะมี server ของบริษัท RIM (Reserch In Motion) โดยการให้บริการผ่านโทรศัพท์ Blackberry มีการเก็บข้อมูลที่ server ดังกล่าว และโทรศัพท์ Blackberry มีหน้าจอแสดงผลขนาดเล็ก และระบบมีการบีบอัดข้อมูลแบบพิเศษ จึงไม่ส่งผลกระทบกับคุณภาพโครงข่ายของ บมจ.ทีโอที ดังนั้น เหตุผลที่บมจ.ทีโอที ไม่อนุญาตให้ บริษัท 365ฯ เปิดให้บริการโปรโมชั่น Unlimited Package จึงเป็นเหตุผลที่รับฟังได้ อีกทั้ง ตามหนังสือที่นายนิวัฒน์ กิมตระกูล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้ลงนามแจ้งให้บริษัท 365ฯ ทราบเกี่ยวกับการไม่อนุญาตดังกล่าวนั้น ยังได้แจ้งเพิ่มเติมให้บริษัท 365ฯ ทราบว่า หากบมจ.ทีโอที ติดตั้งและทดสอบระบบบริการจัดการทราฟฟิค (Bandwidth Management) แล้วเสร็จ และสามารถขยายโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3G ได้ทั่วประเทศ บมจ.ทีโอที ยินดีพิจารณาข้อเสนอของบริษัท 365ฯ อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งกรณีดังกล่าว จะเห็นได้ว่าบมจ.ทีโอที ได้ไม่อนุญาตโดยมีเงื่อนไขเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้งานกับระบบโปรโมชั่นดังกล่าว และความพร้อมของระบบการจัดการทราฟฟิค ดังนั้น จึงยังรับฟังไม่ได้ว่าการไม่อนุญาตให้บริษัท 365 คอมมูนิเคชั่น จำกัด เปิดใช้โปรโมชั่น Unlimited Package เป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท 365ฯ
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 5 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะไต่สวนเบื้องต้น ว่า จากการไต่สวนเบื้องต้น ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่า นายวรุธ สุวกร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และนายนิวัฒน์ กิมตระกูล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
อนึ่ง จากการไต่สวนเบื้องต้นปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ละเว้นไม่ส่งสำเนาบันทึกความเข้าใจ จำนวน 5 ฉบับ ให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ตามประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง การประกอบกิจการโทรคมนาคมขายส่งและบริการขายต่อบริการ ข้อ 15 แต่ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง เป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง แต่เนื่องจากนายวรุธ สุวกร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ได้พ้นจากการเป็นพนักงานบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) แล้ว มีการเลิกสัญญาจ้างเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2553 ไม่อาจดำเนินการทางวินัยได้ จึงให้ยุติการดำเนินการทางวินัย
กล่าวสำหรับ นายวรุธ สุวกร ก่อนหน้านี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดกรณี จ่ายเงินให้บริษัท สามารถไอ - โมบาย จำกัด (มหาชน) ตามสัญญาจ้างบริหารการให้บริการลูกค้าสัมพันธ์และจัดทำระบบจัดเก็บเงินโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 1900 MHz และสัญญารับจ้างบริหารช่องทางการจัดจำหน่ายและการจัดการเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 1900 MHz สูงเกินจริง
ต่อมาเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาว่า นายวรุธ สุวกร จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 8 จำคุก 20 ปี กับให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้ร้องเป็นเงินจำนวน 1,062,147,006.16 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 525,370,000 บาท นับถัดจากวันที่ 15 ธ.ค.2565 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา