
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดเชียงราย เผย ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ผู้ช่วยหาเสียง ช่วยผู้สมัครเลือกตั้ง ‘นายก อบจ.เชียงราย’ ในนามพรรคเพื่อไทย ปราศรัย ชู นโยบายรัฐบาล ‘แจกเงินหมื่นบาท-ลดค่าไฟฟ้า’ พูดได้-ยังไม่ผิดกฎหมาย ‘หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนสอบสวน-พรรคการเมือง’ จับตา โค้งสุดท้าย หาเสียงดุเดือด
สืบเนื่องจากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงให้กับนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช หมายเลข 2 ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) เชียงราย ในนามพรรคเพื่อไทย บนเวทีปราศรัย เมื่อวันที่ 5 มกราคม 68 ที่โรงเรียนปล้องวิทยาคม อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย โดยมีบางช่วงบางตอนที่นำนโยบายของรัฐบาลของนางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เช่น การลดค่าไฟฟ้าเหลือ 3.70 บาทต่อยูนิต หรือ นโยบายแจกเงิน 10,000 บาทให้กับผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป โดยมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม และอาจจะสุ่มเสี่ยงที่จะผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น
วันที่ 9 มกราคม 2567 นายเกชา กองนาค พนักงานสืบสวนและไต่สวนชำนาญการ รักษาการในตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนสอบสวนและพรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดเชียงราย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ถึงกรณีการปราศรัยของนายทักษิณเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง ตามข้อพึงระวังในการหาเสียงหรือไม่ ว่า เป็นการปราศรัยที่ยังอยู่ในอำนาจหน้าที่ของฝ่ายรัฐบาล เป็นการนำนโยบายของรัฐบาลไปพูดปราศรัย หรือเอาวาระแห่งชาติ มาพูด สามารถทำได้ เนื่องจากกฎหมายเปิดโอกาสให้ผู้สมัคร ฯ สังกัดพรรคการเมืองได้ แต่ถ้าไปพูดในเรื่องที่ไม่มีในมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่มีในนโยบายของรัฐบาล อาจจะต้องมาพิจารณาในรายละเอียดในข้อกฎหมายอีกที
เมื่อถามว่า นโยบายแจกเงิน 10,000 บาท เป็นนโยบายรัฐบาลและครม.ได้มีมติอนุมัติแล้ว แต่การปราศรัยว่าจะลดค่าไฟฟ้าให้เหลือ 3.70 บาทต่อยูนิต ครม.ยังไม่มีมติอนุมัติ สามารถพูดได้ใช่หรือไม่ นายเกชากล่าวว่า เรื่องตัวเลข เราจะไม่แตะ เพราะเป็นเรื่องของอุปสงค์ อุปทาน เราไม่สามารถประเมินได้ เราจะแตะในเรื่องของมีนโยบายลดค่าไฟฟ้าหรือไม่ ส่วนจะเกินจริงหรือไม่ เช่น ตัวเลขค่าไฟฟ้า 3.70 บาทต่อยูนิต เราไม่สามารถตรวจสอบได้ในเชิงปริมาณ หรือในเชิงการประโยชน์จากการหาเสียง คำนวณไม่ได้
“ทีมงานก็ดูการปราศรัยทั้งของผู้สมัครฯและผู้ช่วยหาเสียงเป็นข้อ ๆ ว่ามีอะไรที่นอกเหนือไปจากที่กฎหมายอนุญาตไว้หรือไม่ เรามีทีมงานเพื่อมอนิเตอร์ผู้สมัครฯของทุกพรรคการเมือง ทุกทีม ทุกคน”นายเกชากล่าว
นายเกชากล่าวว่า สำหรับบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งอบจ.ยังอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย การปราศรัยโจมตีรุนแรง หรือ ถึงขั้นใส่ร้ายป้ายสี ยังไม่ปรากฎชัดเจน หากเทียบกับการเลือกตั้ง สส.เมื่อปี 62 ถ้อยคำที่ใช้ในการปราศรัยของผู้สมัครจะรุนแรงกว่า
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย ครั้งนี้ ดุเดือดกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาหรือไม่ หลังจากการเมืองระดับชาติลงมาช่วยหาเสียง นายเกชากล่าวว่า จากประสบการณ์ ตนมองว่า ครั้งนี้ไม่รุนแรงเท่าครั้งที่ผ่านมา หรือก่อนการรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 57 เนื่องจาก ผู้สมัครฯและผู้ช่วยหาเสียงเข้าใจข้อกฎหมาย และไม่มีการล้ำเส้นมารยาททางการเมืองกัน
“แม้ตอนนี้ผู้สมัครฯยังไม่มีการโจมตี ยังไม่มีการใส่ร้าย ที่ก่อให้เกิดความไม่พอใจของคะแนนนิยมของผู้สมัครฯ แต่ยังฟันธงไม่ได้ ต้องดูช่วงโค้งสุดท้าย จึงต้องประเมินบรรยากาศในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนเลือกตั้ง”นายเกชากล่าว
เมื่อถามว่า ขณะนี้พบการซื้อสิทธิ์ขายเสียงบ้างหรือยัง นายเกชากล่าวว่า ตอนนี้ในเบื้องต้นยังไม่มีข่าวการเคลื่อนไหวของการใช้เงิน เนื่องจากมีมาตรการให้เงินรางวัลนำจับการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ทำให้ผู้ที่คิดกระทำความผิดเกิดการระวังตัวขึ้น แต่ขณะนี้หลายฝ่ายกำลังทำงานในเชิงลึกอยู่



ที่มาภาพปก : Facebook สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ด้วยจิตอาสา พัฒนาเชียงราย

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา