
กลุ่มสแกมเมอร์ตกลงยุติกิจกรรมค้ามนุษย์ที่เมียวดี หลังประชุมหารือกับกลุ่มชาติพันธุ์ BGF-DKBA นักธุรกิจจีนอ้างกรณีหลอกลวงหวัง ซิง เป็นเหตุ ทำทั่วเอเชียเพ่งเล็ง-รบ.ไทย เมียนมา กดดันหนัก ส่งผลทำให้ต้องออกกฎเข้มห้ามค้ามนุษย์ ทรมาน ฉ้อโกงหลอกลวง หากใครไม่ทำตามจะสูญเสียธุรกิจ ถูกไล่ออกจากพื้นที่
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์สแกมเมอร์ริมชายแดนไทย-เมียนมา หลังจากปรากฏเป็นข่าววันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า กองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) จ.เมียวดี โดย พ.อ.หม่องชิดตู่ เลขาธิการกองกำลัง BGF ได้เป็นประธานการประชุมร่วมกับกลุ่มผู้นำกองกำลัง BGF, ผู้นำกองกำลังกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย (DKBA) , ผู้ประกอบการและกลุ่มทุนจีน ที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในพื้นที่ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศสาธารณรัฐสหภาพเมียนมา เพื่อขอความร่วมมือและกำหนดมาตรการการปฏิบัติในพื้นที่เรื่องการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การหลอกลวง และการค้ามนุษย์
ล่าสุดมีข่าวจากสำนักข่าวเรดิโอฟรีเอเชียหรือ RFA จากสหรัฐอเมริกาว่ากลุ่มผู้นํากองกําลังติดอาวุธที่สนับสนุนรัฐบาลทหารในเมียนมาและผู้ประกอบการศูนย์หลอกลวงออนไลน์ได้ตกลงที่จะหยุดการค้ามนุษย์หลังจากมีข่าวการช่วยเหลือนายหวัง ซิง นักแสดงชาวจีนในเดือนนี้ทําให้เกิดความตื่นตระหนกจากนานาชาติเกี่ยวกับการดําเนินงานของกลุ่มสแกมเมอร์และดูเหมือนว่าจะสร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย
กองกําลังติดอาวุธชาติพันธุ์กะเหรี่ยงที่ประจําอยู่ชายแดนเมียนมากับไทยถูกสงสัยว่าเป็นปัจจัยทำให้เกิดการฉ้อโกงทางอินเทอร์เน็ต การค้ามนุษย์ การบังคับใช้แรงงาน และอาชญากรรมอื่นๆ และกิจกรรมที่ผิดกฎหมายเหล่านี้ได้รับการเสริมสร้างความเข้มแข็งจากเครือข่ายธุรกิจที่แผ่ขยายไปทั่วเอเชีย
แต่กรณีของนายหวัง ซิง ที่ได้รับการช่วยเหลือให้ออกมาจากนิคมศูนย์หลอกลวงชื่อดังอย่างเคเคพาร์คในเมืองเมียวดีทางตะวันออกของเมียนมา ริมชายแดนไทย กลับทำให้สาธารณชนทั่วเอเชียให้ความสนใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ส่งผลทำให้เกิดแรงกดดันจากรัฐบาลไทยและกองทัพเมียนมา จึงนำไปสู่การประชุมกันเมื่อวันที่ 15 ม.ค. ระหว่างกองกําลังติดอาวุธและพันธมิตรทางธุรกิจของพวกเขา ทำให้พวกเขาบรรลุข้อตกลงว่าจะหยุดการค้ามนุษย์ ตามคำกล่าวอ้างของนักธุรกิจที่มีความใกล้ชิดกับกองกำลังติดอาวุธกะเหรี่ยง
“ปัญหาปัจจุบันจากกรณีนักแสดงชาวจีนได้ทำให้เกิดแรงกดดันจากประเทศไทยและสภารัฐบาลทหารในกรุงเนปิดอว์ นั่นเป็นเหตุผลที่การประชุมจัดขึ้นเพื่อบังคับใช้กฎ" นักธุรกิจซึ่งขอปกปิดตัวตนกล่าวกับ RFA
มีรายงานว่าผู้นําของกองกําลังรักษาชายแดนในเมียวดี หรือ BGF และกองกำลัง DKBA ซึ่งควบคุมเขตชายแดนไทย-เมียนมานั้นอยู่ภายใต้การอุปถัมภ์ของกองทัพเมียนมา ทั้งหมดได้ตกลงเกี่ยวกับกฎห้าข้อกับผู้นํานักธุรกิจซึ่งหลายคนเป็นชาวจีน
กฎระเบียบที่ออกมาระบุถึงการไม่ใช้กำลัง การข่มขู่ หรือการทรมาน ไม่มีการใช้แรงงานเด็ก ไม่มีรายได้จากการค้ามนุษย์ และไม่มีการหลอกลวง ตามคำกล่าวอ้างของนักธุรกิจคนดังกล่าวที่พูดถึงสำเนารายละเอียดกฎระเบียบในพื้นที่ ซึ่งใครก็ตามที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบนี้จะสูญเสียธุรกิจและถูกขับไล่ออกจากพื้นที่
ทาง RFA ได้พยายามติดต่อกับ พ.ท.นาอิง ม่วง ซอว์ (Naing Maung Zaw) จากกองกำลัง BGF และ พล.ท.ซอว์ ชเว ว้า จาก DKBA แต่ทั้งสองคนไม่รับสายโทรศัพท์แต่อย่างใด

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา