
ปปง.สั่งยึดอายัดทรัพย์ ที่ดิน เงินฝาก 18 รายการ 2.7 ล. ‘ดวงมณีรินทร์ ’ พวก บัญชีม้าเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ หลอก พันโท โอนเงิน 10 ครั้ง 3.3 แสน แจ้งความ ตร.ที่ จ.ปทุมฯ พบผู้เสียหาย 22 คน หมดหลายล้าน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) มีคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.248 /2567 ลงวันที่ 16 ธันวาคม 2567 เรื่อง ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รายนางสาวดวงมณีรินทร์ คืนดี ปรากฏตามเลขที่รับ สอ 452 ลงวันที่ 14 ธันวาคม 2566 ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญาและความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ
ทรัพย์ที่ ปปง.มีคำสั่งยึดและอายัด จำนวน 18 รายการ ประกอบด้วย ห้องชุด 1 รายการ ในชื่อบุคคลต่างชาติ และบัญชีเงินฝาก 17 รายการในชื่อนางสาวดวงมณีรินทร์กับพวกทั้งคนไทยและต่างชาติ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 2,797,697.89 บาท
เปิดรายละเอียดคำสั่งยึดอายัดทรัพย์
คำสั่งของคณะกรรมการธุรกรรม มีรายละเอียดดังนี้
ที่มาคดี กล่าวคือ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 คนร้ายไม่ทราบว่าคือบุคคลใด ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ติดต่อไปยังพันโทรายหนึ่ง (ปิดบังชื่อสกุล) และแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวหาว่าพันโทมอบอำนาจให้บุคคลอื่นทำธุรกรรมเกี่ยวกับการเปิดบัญชีแทน และยังมีบุคคลแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเมืองมุกดาหาร แจ้งให้พันโทโอนเงินให้สำนักงาน ปปง. ตรวจสอบโดยให้โอนเงินไปยังบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 169-8-9XXXX-X ชื่อบัญชี นางสาวดวงมณีรินทร์ คืนดี ซึ่งพันโทหลงเชื่อจึงโอนเงินไปตามที่ถูกหลอกลวง 10 ครั้ง รวมเป็นเงิน 334,200 บาท วันเดียวกันพันโทได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการตรวจสอบข้อมูลตามรายงานธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย (AERS แบบ ปปง. 1-03) และระบบฐานข้อมูลบัญชีม้า (APS HR-03) ของสำนักงาน ปปง. พบว่า มีเส้นทางการเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคารของนางสาวดวงมณีรินทร์ คืนดี โอนเงินต่อไปยังบัญชีเงินฝากธนาคารอื่น ๆ อีกหลายทอด น่าเชื่อว่าเป็นบัญชีที่ใช้ในการรับโอนเงินที่ได้จากการกระทำความผิด ซึ่งปรากฏผู้เสียหายเพิ่มเติมอีก 21 คน รวมมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (3) และ (18) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า กลุ่มบุคคลที่หลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร (ชื่อบัญชีนางสาวดวงมณีรินทร์ คืนดี) กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว
ในการนี้ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 10/2567 เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 25267 ที่ประชุมมีมติมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ประกอบกับคำสั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ลับ ที่ ม.445/2567 ลงวันที่ 23 สิงหาคม 2567 เรื่อง มอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รายกลุ่มบุคคลที่หลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร (ชื่อบัญชี นางสาวดวงมณีรินทร์ คืนดี) กับพวก
พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบรายงานการทำธุรกรรมหรือข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคลดังกล่าวแล้วปรากฎหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่า กลุ่มบุคคลที่หลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร (ชื่อบัญชี นางสาวดวงมณีรินทร์ คืนดี) กับพวก มีพฤติการณ์แห่งการกระทำอันเข้าลักษณะเป็นความผิดฐาน ตามมาตรา 3 (3) และ (18) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินหรือเป็นผู้ซึ่งเกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทำความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานฟอกเงินและจากการตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รวมทั้งจากพยานหลักฐานปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 18 รายการพร้อมดอกผล
และเนื่องจากทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีนี้ประกอบด้วยอสังหาริมทรัพย์ประเภทห้องชุดอันเป็นทรัพย์สินที่ปรากฎหลักฐานในทางทะเบียนในการเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์โดยผู้มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ อาจดำเนินการทางนิติกรรมโอนเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ในทางทะเบียนได้ และสังหาริมทรัพย์ประเภทเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร อันเป็นทรัพย์สินที่สามารถโอน ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นได้โดยง่าย หากมิได้มีการออกคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินดังกล่าวไว้ชั่วคราว เมื่อเจ้าของหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีสิทธิในทรัพย์สินดำเนินการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าวไปเสียและหากต่อมาศาลได้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน สำนักงาน ปปง. อาจไม่สามารถติดตามทรัพย์สินดังกล่าวกลับคืนมาได้ จึงเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า กลุ่มบุคคลที่หลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร (ชื่อบัญชี นางสาวดวงมณีรินทร์ คืนดี) กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด และอาจมีการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าว
ยึดอายัดทรัพย์ 18 รายการ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 34 (3) และมาตรา 48 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มติคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุมครั้งที่ 15/2567 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 และระเบียบคณะกรรมการธุรกรรม ว่าด้วยการรับเรื่องการตรวจสอบ การพิจารณาดำเนินการ และการควบคุมตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2556 ข้อ 25 คณะกรรมการธุรกรรม จึงมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จำนวน 18 รายการ พร้อมดอกผล กล่าวคือ มีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สิน จำนวน 1 รายการ คือ รายการที่ 1 และมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สิน จำนวน 17 รายการ ได้แก่ รายการที่ 2 ถึงรายการที่ 18 มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับตั้งวันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ กล่าวคือ นับตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2568 โดยมีรายการทรัพย์สินที่ยึดและอาอัดปรากฏตามบัญชีทรัพย์สินแบบท้ายคำสั่งนี้






Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา