
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กดปุ่มโอนเงิน 10,000 บาท เฟสสอง กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 3 ล้านคน เติมเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจไทย 3 หมื่นล้านบาท โอนซ้ำ 3 ครั้ง ทุกวันที่ 28 จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง คาด เม็ดเงินหมุนในระบบเศรษฐกิจ ไม่ต่ำกว่า 70,000 ล้านบาท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 27 มกราคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน (Kick Off) โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผู้สูงอายุ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเข้าร่วม อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นางสาว แพทองธารกล่าวว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งรัฐบาลได้เน้นย้ำและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ เพื่อทำให้ประชาชนมีกินมีใช้ ที่ผ่านมาการแจกเงิน 10,000 บาท ในเฟสแรกมีการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ จำนวน 14 ล้านคน ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างมาก มีการจับจ่ายซื้อของทำให้เศรษฐกิจกระตุ้นขึ้น และบางครอบครัวได้นำเงินมารวมกันเพื่อต่อยอดทำธุรกิจสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ถือเป็นความสำเร็จของรัฐบาลที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ
นางสาว แพทองธารกล่าวว่า วันนี้เป็นเฟสที่สองของการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะจ่ายเงิน 10,000 บาท ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชนให้ผู้สูงอายุจำนวนกว่า 3,000,000 คน ส่งผลให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทยเป็นจำนวนประมาณกว่า 30,000 ล้านบาท หวังให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยเงินจำนวนนี้ เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ แบ่งเบาภาระได้หลาย ๆ อย่าง และนำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพต่อไป

ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลาง ได้โอนเงินผ่านธนาคารไปแล้ว 30,200 ล้านบาท และในช่วงเย็นกรมบัญชีกลางจะรายงานกลับมาว่า โอนเงินไม่สำเร็จจำนวนเท่าไหร่ โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ และจะมีการโอนซ้ำในทุกวันที่ 28 อีก 3 ครั้ง หรือ ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ วันที่ 28 มีนาคม และ วันที่ 28 เมษายน
นายจุลพันธ์กล่าวว่า ถือเป็นจังหวะและและไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้ ซึ่งตรงกับวันจ่ายในเทศกาลตรุษจีน ส่งผลให้อัตราการหมุนเวียนเศรษฐกิจเป็นที่น่าพอใจ ร่วมกับมาตรการก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนกันยายน 67 ผ่านโครงการแจกเงิน 10,000 บาท เฟสแรก วงเงิน 145,000 ล้านบาท โครงการไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ หรือ ไม่เกิน 10,000 บาท และมาตรการลดหย่อนภาษี หรือ easy e-receipt โดยจะมีเม็ดเงินหมุนอยู่ในระบบเศรษฐกิจ ไม่ต่ำกว่า 70,000 ล้านบาท ในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ รวมถึงเงินหมื่นเฟสสองอีก 30,000 ล้านบาท ที่จะลงไปในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการรักษาโมเมนตัมไปถึงไตรมาสสองซึ่งตรงกับการแจกเงินหมื่นในเฟสที่สามอีกด้วย

นายจุลพันธ์กล่าวว่า ส่วนคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ไม่เกิน 2 เดือนจะทราบความชัดเจนว่าจะได้ลงทะเบียนเมื่อไหร่ และกลุ่มที่มีอายุตั้งแต่ 16 – 60 ปี จะเดินหน้าดำเนินการในไตรมาสสอง หรือ เมษายนถึงมิถุนายน โดยเตรียมกรอบงบประมาณไว้ไม่ต่ำกว่า 160,000 ล้านบาท
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ประมาณการณ์ว่า จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจร้อยละ 0.1 ของจีดีพี โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับโมเมนตัมทางเศรษฐกิจ โดยมีอีกขา คือ โครงการคุณสู้ เราช่วย

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา