
‘สุริยะ’ เคาะตัวเลขสุดท้าย 190 ล้านบาท ขอครม.อนุมัติจากงบกลาง 4 ก.พ.นี้ เมิน BTS จ่อขอเงินอุดหนุนเพิ่ม ชี้ 133 ล้านบาทเหมาะสมแล้ว ด้านขสมก.สรุปคนขึ้นรถเมล์ฟรี 1 สัปดาห์ยอดพุ่ง 5 ล้านคน พบวันที่ 31 ม.ค. คนขึ้นรถเมล์ขสมก.ถึง 7 แสนคน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หลังสิ้นสุดมาตรการให้ประชาชนได้ใช้บริการรถไฟฟ้าและรถโดยสารประจำทางสาธารณะ (รถเมล์) ฟรีระหว่างวันที่ 25-31 ม.ค. 2568 รวม 7 วัน เพื่อช่วยลดฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เกิดจากยานพาหนะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลตามข้อสั่งการของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นคาดว่าจะไม่มีการต่อมาตรการแล้ว โดยประเมิน ผล 7 วัน พบว่า ผู้ใข้บริการรรถไฟฟ้า และรถเมล์ เพิ่มขึนเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ช่วยลดปริมาณรถยนต์บนถนนลงได้กว่า 3.5 แสนคันต่อวัน
ทั้งนี้มาตรการใช้รถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรี นอกจากมีวัตถุประสงค์เรื่องลดฝุ่น PM 2.5 แล้ว ยังจะเป็นส่วนที่ยืนยันถึงโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ว่าราคามีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนในการเลือกใช้ขนส่งสาธารณะในการเดินทางโดยเฉพาะรถไฟฟ้า ซึ่งจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการฟรี มีสัดส่วนการเพิ่มที่สอดคล้องและเป็นไปตามประมาณการณ์ ของนโยบายอัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย
และภาพรวมปริมาณการใช้รถไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในขณะนี้ สะท้อนให้เห็นว่า มาตรการอัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย จะประสบผลสำเร็จ และมั่นใจว่า ประชาชนจะให้การตอบรับที่ดี และหันมาใช้รถสาธารณะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะเริ่มใช้กับรถไฟฟ้าทุกสายได้ในกลางปี2568 หลังจากพ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ มีผลบังคับใข้
นายสุริยะกล่าวว่า ในวันที่ 4 ก.พ. 2568 กระทรวงคมนาคมจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของบกลาง 190.41 ล้านบาท เพื่อชดเชยรายได้จากมาตรการฟรี ลดฝุ่น pm 2.5 ช่วง 7 วันที่ผ่านมา ส่วนกรณี บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง (BTS) ที่เป็นผู้เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว จะขออุดหนุนเพิ่มนั้น เรื่องนี้ ขอมาได้ แต่เราไม่ให้ โดยตัวเลขที่ประมาณชดเชย บีทีเอส คือ 133.04 ล้านบาท ไม่มีเพิ่ม
@รถเมล์ขสมก.คนขึ้นฟรีทะลุ 5 ล้านคน/ 7 วัน
ด้านนายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ข้อมูลถึงสถิติจำนวนผู้โดยสารใช้บริการรถเมล์ฟรี ตามนโยบายให้ประชาชนได้ใช้บริการรถไฟฟ้าและรถโดยสารประจำทางสาธารณะ (รถเมล์) ฟรี ระหว่างวันที่ 25-31 ม.ค. 2568 เพื่อช่วยลดฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เกิดจากยานพาหนะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลตามข้อสั่งการของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของ วันที่ 31 ม.ค. 2568 ซึ่งเป็นวันศุกร์สิ้นเดือนมกราคม และเป็นวันสุดท้าย (วันที่เจ็ด) ของมาตรการ พบว่ามีผู้ใช้บริการรถโดยสาร พบว่า มีผู้ใช้บริการรถโดยสารขสมก. จำนวน786,030 คน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ วันศุกร์ที่ 24 ม.ค. 2568 ก่อนมาตรการลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่จัดเก็บค่าโดยสารตามปกติ จำนวน 239,695 คน หรือ เพิ่มขึ้น 43.87%
แบ่งเป็น รถโดยสารธรรมดา มีจำนวน 357,269 คน เพิ่มขึ้น 87,517 คน หรือ 32.44% รถโดยสารปรับอากาศ มีจำนวน 428,761 คน เพิ่มขึ้น 55.02%
ขณะที่ภาพรวมสะสมครบ 7 วัน ระหว่างวันที่ 25-31 ม.ค. 2568 ตามมาตรการ มีผู้ใช้บริการรถโดยสาร ขสมก. รวม 5,007,491 คน เพิ่มขึ้น 1,347,403 คน หรือเพิ่มขึ้น 36.81 % เปรียบเทียบกับ ระหว่างวันที่ 18-24 ม.ค. 2568 ระยะเวลา 7 วัน ก่อนมีมาตรการฟรี แบ่งเป็น รถโดยสารธรรมดา มีจำนวน 2,315,113 คน เพิ่มขึ้น 498,563 คน หรือ 27.45 % รถโดยสารปรับอากาศ มีจำนวน 2,692,378 คน เพิ่มขึ้น 848,840 คน หรือเพิ่มขึ้น 46.04 %
นายกิตติกานต์ กล่าวว่า ตามมาตรการส่งเสริมการใช้รถสาธารณะและลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ขสมก.ได้จัดเดินรถโดยสารให้บริการฟรีทุกเส้นทาง ในระยะเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 - 31 มกราคม 2568 จำนวน 2,883 คัน แบ่งเป็นรถโดยสารธรรมดา จำนวน 1,519 คัน รถโดยสารปรับอากาศ จำนวน 1,364 คัน โดยมีการเพิ่มเที่ยววิ่ง เปรียบเทียบก่อนและหลังมาตรการ เพิ่มขึ้นสูงสุด 866 เที่ยว คิดเป็น 5.93%
ทั้งนี้ ขสมก.ได้ดำเนินการตามข้อสั่งการของ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จึงได้ประชุมกำหนดมาตรการต่างๆ ร่วมกับผู้บริหารของ ขสมก. สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ และบริษัทเหมาซ่อม เพื่อมอบหมายแนวทางการดำเนินงานการป้องกัน PM 2.5 ทั้งกระบวนการบำรุงรักษา ได้แก่ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและการเปลี่ยนไส้กรองอากาศ การนำเข้าข้อมูลรถโดยสารประจำทางบันทึกในระบบบัญชีสีเขียว (Green List) และจัดส่งสายตรวจพิเศษลงพื้นที่ตรวจสอบรถโดยสารควันดำในเส้นทางอย่างสม่ำเสมอ ในส่วนการสุ่มตรวจสอบควันดำหากพบค่าควันดำเกิน 20 % ให้นำรถโดยสารเข้าตรวจสอบและแก้ไขทันทีพร้อมนำทีม ลงพื้นที่ควบคุมการตรวจวัดควันดำตามนโยบายของรัฐบาล ที่กำหนดมาตรการส่งเสริมการใช้รถสาธารณะและลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล และเน้นย้ำการกวดขันรถควันดำ โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะ เพื่อเป็นการช่วยลดฝุ่นละอองจากยานพาหนะ
นอกจากนี้ ขสมก. ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร กรมควบคุมมลพิษ และกรมการขนส่งทางบก เพื่อสุ่มตรวจควันดำทั้งภายในและภายนอกอู่จอดรถโดยสาร เพื่อสุ่มตรวจควันดำทั้งภายในและภายนอกอู่จอดรถโดยสาร เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 ณ อู่บางเขน โดยไม่พบรถโดยสารประจำทางของ ขสมก. ที่มีควันดำเกินมาตรฐาน

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา