
‘อนุทิน’ ชี้กระสุนไม่ใช่ตัวแปรพาชนะเลือกตั้งท้องถิ่น ระบุเมื่อจบแล้วขอมองไปข้างหลัง ยันทุกคนมีความอิสระอยู่แล้ว มอง ‘ทักษิณ’ ยังไม่หมดมนต์ขลัง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า หลังจากการเลือกตั้งนายกองค์การบรริหารส่วนจังหวัด (นายกอบจ.) และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ทั้ง 47 จังหวัดที่ผ่านมา เป็นการแสดงออกถึงความเป็นระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร มันก็จบแล้ว วันนี้เราต้องมองไปข้างหน้า การแข่งขันเมื่อแข่งจบก็ทำงานให้บ้านเมืองด้วยกัน ไม่มีปัญหาอะไร อย่าไปแยกสีแยกฝ่ายแยกพรรคอะไร เดี๋ยวปี 2570 ก็ต้องแข่งกันใหม่ ถึงเวลานั้นค่อยไปคิดจะรวมกันอย่างไร ใครจะเป็นรัฐบาล เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทุกๆ 2-4 ปี วันหนึ่งก็ต้องเลือก
เมื่อถามว่า เวลาเลือกตั้งทุกคนประกาศเป็นอิสระหมด แต่พอประกาศผลการเลือกตั้งก็มีการเมืองเข้ามา เช่นที่จังหวัดเชียงราย นายอนุทินแทรกตอบว่า ทุกคนมีความอิสระ ส่วนที่จ.เชียงราย ผู้สมัครเข้ามาสวัสดีปีใหม่และตรุษจีน มาทุกปี มันเสียหายตรงไหน? แล้วมีคำสั่งไหมว่าถ้าเป็นนายกอบจ.แล้วต้องทำอะไร มันไม่มี หรือนายวิชิต ไตรสรณกุล ที่ชนะนายกอบจ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพ่อนางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทย เมื่อชนะก็ดีใจ พ่อของลูก คนใกล้ชิด แล้วไม่ได้ดีใจแค่นี้ แต่ดีใจกับนายกอบจ.ทั่วประเทศทุกจังหวัด
ส่วนช่วงการหาเสียงการเมืองท้องถิ่น มีการปราศรัยเสียดสีกันรุนแรง มองอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า พอเห็นไมค์ก็องค์ลง เป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่เห็นประชาชนมาฟังเป็น 10,000 คน ขนาดตนพูดติดอ่างเวลาหาเสียง ยังแหลงใต้ได้เลย อู้คำเมืองก็ได้ ส่วนกรณีที่มีการวิจารณ์หลังผลการเลือกตั้งออกมาว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีสิ้นมนต์ขลังแล้ว นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มีหรอกสิ้นมนต์ขลัง จอมยุทธ์ก็คือจอมยุทธ์ ใครลองไปว่าท่านสิ้นมนต์ขลัง คงจะประสบความหายนะอย่างที่ไม่เคยคาดการณ์หรือประมาณอะไรได้ ไม่มีหรอกครับ ยิ่งน่ากลัว
เมื่อถามอีกว่าจากวลี “ไล่หนูตีงูเห่า” จนถึง “การเมืองท้องถิ่นอย่าให้คนนอกเข้ามายุ่ง” เรื่องนี้ได้คุยหรือเคลียร์กันหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ต้องเคลียร์อะไร เป็นเรื่องปกติธรรมดา ถ้าจะโกรธก็ตั้งแต่สมัย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแล้ว ที่ประกาศไล่หนูตีงูเห่า พอถึงเวลาก็ร่วมรัฐบาลกันท่านก็เชิญไปกินช็อคมิ้นต์ ที่ตึกโอเอไอ ที่ทำการพรรคเพื่อไทยเก่า ทุกอย่างอย่าไปคิดมาก ไม่เช่นนั้นจะทำอะไรไม่ได้ ถึงเวลาหาเสียงเลือกตั้งก็ใส่กันไป เป็นบทบาทลีลาในการหาเสียง ทำให้ตัวเองประสบชัยชนะ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่เชียงรายและศรีสะเกษได้บอกหรือไม่ว่าทำอย่างไรถึงชนะการเลือกตั้ง นายอนุทิน กล่าวว่า เขาทำงานในพื้นที่มาตั้งกี่ปีเป็นอดีตนายกอบจ.ศรีสะเกษ 4 สมัย 24 ปี ตั้งแต่นางสาวไตรศุลียังกินข้าวไม่เป็น ส่วนที่เชียงรายก็เป็นอดีตนายกอบจ.สองสมัย
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าปัจจัยในการชี้ขาดการเลือกตั้งครั้งนี้ มาจากกระสุน นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้ากระสุนเป็นปัจจัยชี้ขาด ตนคิดว่าทุกคนจะชนะหมด พร้อมยกตัวอย่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าว่ามีฐานะทางบ้านเป็นอย่างไร ตนคูณสิบ คูณยี่สิบยังไม่ได้ครึ่งของนายธนาธรเลย ตนคิดว่ากระแสและความสามารถในการสร้างความเชื่อมั่น เป็นเรื่องสำคัญที่สุด อยู่ที่ใครทำงาน พร้อมถามว่าจังหวัดบุรีรัมย์กระสุนหรือไม่ ทำไมคะแนนห่างกัน อย่าดูถูกประชาชนอยู่ที่การทำงาน
ระหว่างนั้นนางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเดินมาถึงจุดให้สัมภาษณ์พอดี เพื่อเตรียมร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี นายอนุทินจึงกล่าวว่า“ มท.3 อุทัยธานีกระสุนหรือไม่ อุทัยธานีกระสุนน่ากลัวกว่า กระสุนจริง” ก่อนหัวเราะ และเดินเข้าไปร่วมประชุมครม.พร้อมนางสาวซาบีดา

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา