
5 แรงงานไทยถูก 'ฮามาส' จับเป็นตัวประกัน 15 เดือน เดินทางกลับถึงไทย ด้าน 'มาริษ' เผยคนไทยอีก 1 ราย ในอิสราเอลจะดำเนินการช่วยเหลือต่อไปจนกว่าจะสำเร็จ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2568 แรงงานไทย 5 รายที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันเป็นเวลา 15 เดือน และได้รับการปล่อยตัวเมื่อ 30 ม.ค. 2568 เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยเมื่อเวลาประมาณ 07.24 น.โดยมีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน และคณะเดินทางมารับคนไทยทั้ง 5 ราย
นายมาริษ กล่าวว่า "ภาพที่เห็นเป็นอะไรที่สุด ๆ แล้ว สำหรับคน ๆ หนึ่งที่ได้กลับมาสู่อ้อมอกของครอบครัว เพราะครอบครัวเกือบทุกคนไม่ได้เจอหน้าครอบครัวมาหลายปีแล้ว มีครอบครัวพูดกับผมว่าไม่คิดเลยว่าจะได้มีโอกาสในวันนี้"
นายมาริษ กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับดำเนินการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เคยคิดว่าจะหมดหวัง วันนี้จึงถือเป็นผลงานที่ปรากฏ ซึ่งน้ำตาความปลื้มปิติของครอบครัวทุกท่านเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และถือเป็นกำลังใจของข้าราชการทุกหน่วยงาน ดังนั้นขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งทหาร โดยเฉพาะผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่ได้เดินทางไปตนตั้งแต่วันแรกที่ได้ทราบข่าวว่าตัวประกันทั้ง 5 คนจะได้รับการปล่อยตัว และขณะนี้อยู่ในมือของรัฐบาลอิสราเอลแล้ว
"ขอขอบคุณมิตรทุกประเทศที่ให้ความช่วยเหลือเรามาโดยตลอด วันนี้จึงถือเป็นผลสำเร็จ ซี่งครอบครัวทุกคนถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และขอยืนยันว่ารัฐบาล รวมทั้งนายกรัฐมนตรี ตั้งใจที่จะดูแลพี่น้องชาวไทยทุกท่าน เพื่อให้พี่น้องคนไทยที่เดินทางไปใช้ชีวิตและประกอบอาชีพอยู่ในต่างประเทศ ทำงานเพื่อครอบครัว และทำงานเพื่อประเทศชาติ มีชีวิตที่ดี เพราะตนไม่เคยที่จะไม่คิดถึงความอยู่ดีกินดีของทุกท่าน รวมทั้งจะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้พี่น้องชาวไทยทุกคนที่อยู่ในต่างประเทศได้ใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศอย่างมีความสุข สามารถติดต่อกับครอบครัวได้ ซึ่งนี่ถือเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ตนและข้าราชการทุกหน่วยงานยังคงทำงานกันต่อไป แม้จะมีความยากลำบากหรืออุปสรรคแต่ก็ไม่เคยย่อท้อและยังคงผลักดันต่อไป ก่อนกล่าวว่าทุกคนมีสุขภาพที่ดี แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือสุขภาพจิต ดังนั้นขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านกลับสู่สภาพความเป็นอยู่ที่ปกติโดยเร็วที่สุด" นายมาริษ กล่าว
นายมาริษ กล่าวว่า สำหรับตัวประกันคนไทยที่เหลืออยู่อีก 1 คนในอิสราเอล กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้นิ่งใจและยังคงมีความหวัง โดยจะทำต่อไปจนกว่าจะประสบความสำเร็จ ขณะเดียวกันก็จะนำร่างของคนไทยอีก 2 คนที่เสียชีวิตกลับมาสู่มาตุภูมิโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ตนเองได้คุยกับรัฐบาลอิสราเอล ว่าจะต้องมีความพยายามร่วมกันมากขึ้น เพื่อยกระดับแรงงานที่เดินทางไปทำงานที่อิสราเอล ให้เขาสามารถพัฒนาศักยภาพตนเองและกลายเป็นผู้ประกอบการได้ เพราะไม่อยากให้ยุติอยู่เพียงแค่ในฐานะแรงงานเท่านั้น ตลอดจนดึงเอาแรงงานฝีมือใหม่ๆขึ้นมาด้วย
"เราจะติดตามผลในการกลับคืนสู่สังคมของคนไทยทั้ง 5 คนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เขาเข้าไปอยู่ในสังคมและครอบครัวได้อย่างปกติที่สุด เพราะวันแรกที่พูดคุยกับแรงงานทราบมาว่าหลายคนนอนไม่หลับ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าในเรื่องของร่างกายคงไม่มีปัญหา แต่อยากเห็นพัฒนาการเรื่องของสุขภาพจิตตามไปด้วย" นายมาริษ กล่าวทิ้งท้าย

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา