‘ครม.’อนุมัติมาตรการช่วยเหลือ ‘ลูกหนี้รายย่อย’ Non-Banks เข้าร่วมโครงการ ‘คุณสู้ เราช่วย’ ลดเงินงวดเหลือ 70% นาน 3 ปี พ่วงลดดอกเบี้ยให้อีก 10% พร้อมอนุมัติ ‘ออมสิน’ ปล่อย Soft Loan ให้ผู้ประกอบการ Non-Banks วงเงิน 5 หมื่นล้าน
........................................
เมื่อวันที่ 11 ก.พ. น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยของผู้ประกอบการธุรกิจการเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-Banks) ภายใต้โครงการ ‘คุณสู้ เราช่วย’ และหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และกระบวนการเบิกจ่ายโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) สำหรับผู้ประกอบธุรกิจ Non – Banks ของธนาคารออมสิน ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ
สำหรับรายละเอียดของมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยของผู้ประกอบการธุรกิจการเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-Banks) ภายใต้โครงการ ‘คุณสู้ เราช่วย’ ประกอบด้วย 2 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยของ Non-Banks ภายใต้โครงการ ‘คุณสู้ เราช่วย’ ประกอบด้วย
-มาตรการปรับโครงสร้างหนี้แบบลดภาระดอกเบี้ย โดยการเน้นตัดต้นเงินคุณสมบัติของลูกหนี้และประเภทสินเชื่อ แบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่
1.สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ วงเงินรวมไม่เกิน 800,000 บาท
2.สินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ วงเงินรวมไม่เกิน 50,000 บาท
3.สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ วงเงินรวมไม่เกิน 100,000 บาท หรือ 200,000 บาท
4.สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล วงเงินรวมไม่เกิน 20,000 บาท
5.สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ (Nano Finance) วงเงินรวมไม่เกิน 50,000 บาท
ส่วนรูปแบบการช่วยเหลือลูกหนี้ มีดังนี้
(1) ลดภาระการผ่อนชำระค่างวดเป็นร้อยละ 70 ของค่างวดก่อนเข้าร่วมมาตรการ เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยสินเชื่อหมุนเวียน (Revolving Loan) จะต้องจ่ายค่างวดไม่ต่ำกว่าร้อยละ 2 ของยอดหนี้
(2) ลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 จากอัตราดอกเบี้ยก่อนเข้าร่วมมาตรการ เช่น จากอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 25 ต่อปี เป็นร้อยละ 15 ต่อปี เป็นต้น ตลอดระยะเวลา 3 ปี โดยดอกเบี้ยส่วนที่ลดจะพักชำระไว้ทั้งหมดหากลูกหนี้สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขได้
(3) ลูกหนี้ที่อยู่ในมาตรการจะไม่สามารถก่อหนี้ใหม่ใน 12 เดือนแรกที่เข้าร่วมมาตรการ โดยจะถูกรายงานข้อมูลต่อบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (NCB) เป็นรหัสพิเศษ ทั้งนี้ สำหรับสินเชื่อวงเงินหมุนเวียนที่ลูกหนี้ยังไม่เบิกใช้ก่อนเข้าร่วมมาตรการลูกหนี้ยังสามารถใช้สภาพคล่องจากวงเงินส่วนที่เหลือได้
(4) หากลูกหนี้ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญาได้จนกลายมีสถานะเป็นหนี้ NPL ลูกหนี้ต้องออกจากมาตรการโดยจะต้องชำระดอกเบี้ยที่พักชำระไว้ตามเงื่อนไขเดิมในส่วนที่ภาครัฐไม่ได้สนับสนุน
-มาตรการลดภาระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ที่ถูกจัดขั้นเป็น NPLs ที่มียอดหนี้ไม่สูง
โดยคุณสมบัติของลูกหนี้และประเภทสินเชื่อ คือ เป็นลูกหนี้บุคคลธรรมดาที่ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเป็นระยะเวลารวมกันเกินกว่า 90 วัน นับแต่วันถึงกำหนดชำระ (จัดชั้นเป็น NPLs) และมีภาระหนี้คงค้างไม่เกิน 5,000 บาท ทั้งนี้ ครอบคลุมสินเชื่อทุกประเภทที่กู้ในนามบุคคลธรรมดา
สำหรับรูปแบบการช่วยเหลือลูกหนี้ นั้น เป็นการปรับโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรน โดยลดภาระให้ลูกหนี้จ่ายชำระหนี้เพื่อเป็นการชำระหนี้ปิดบัญชี โดยลดภาระให้ลูกหนี้จ่ายชำระหนี้ร้อยละ 10 ของภาระหนี้คงค้าง ส่วนภาระยอดหนี้คงค้างที่เหลืออีกร้อยละ 90 แบ่งเป็น (1) ภาครัฐอุดหนุนผ่านโครงการ Soft Loan สำหรับผู้ประกอบธุรกิจ Non-Banks ของธนาคารออมสิน ร้อยละ 90 และ (2) Non - Banks รับภาระเองร้อยละ 10 ของภาระยอดหนี้คงค้างที่เหลือ
@ปล่อย Soft Loan ผู้ประกอบธุรกิจ Non-Banks วงเงิน 5 หมื่นล.
ส่วนที่ 2 หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และกระบวนการเบิกจ่ายโครงการ Soft Loan สำหรับผู้ประกอบธุรกิจ Non-Banks ของธนาคารออมสิน วงเงินโครงการ 50,000 ล้านบาท โดยให้ Non-Banks สามารถยื่นขอสินเชื่อได้จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.2568 และให้ธนาคารออมสินเบิกจ่ายเงินกู้ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ธ.ค.2568 ทั้งนี้ ระยะเวลากู้ไม่เกิน 3 ปี นับจากวันที่เบิกจ่ายวงเงินกู้ครั้งแรก
ทั้งนี้ คุณสมบัติของผู้ประกอบธุรกิจ Non-Banks ที่มีสิทธิ์ยื่นขอสินเชื่อ ได้แก่
1.เป็นผู้ประกอบการธุรกิจ Non-Banks ที่ให้บริการสินเชื่อแก่ลูกหนี้รายย่อย ได้แก่ สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล สินเชื่อทะเบียนรถ และนาโนไฟแนนซ์
2.มีผลกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักภาษีในรอบบัญชีปี 2566 โดยพิจารณาข้อมูลจากงบการเงินของกิจการ
3.กำหนดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E ratio) ของกิจการในปี 2566 ไม่เกิน 10 เท่า และมี NPLs ของพอร์ตสินเชื่อรวม ณ ปี 2566 ไม่เกินร้อยละ 5
4.ต้องให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ตามมาตรการที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและ ธปท. กำหนด
สำหรับวงเงินสินเชื่อต่อรายที่ธนาคารออมสินให้แก่ Non-Banks จะอยู่ที่ไม่เกิน 5,000 ล้านบาทต่อราย โดยเป็นไปตามที่ธนาคารออมสินพิจารณาอนุมัติ ทั้งนี้ ธนาคารออมสินอาจพิจารณาให้วงเงินเพิ่มเติมจากวงเงินสูงสุดเป็นรายกรณีได้ตามความเหมาะสม โดยมีอัตราดอกเบี้ยในโครงการ 0.01 ต่อปี และให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมบริการสินเชื่อเพื่อธุรกิจ (Front End Fee) และค่าธรรมเนียมการชำระหนี้คืนก่อนครบกำหนด (Pre – Payment Fee) ทุกกรณี
ส่วนหลักประกันการกู้เงินนั้น อาจให้มีหลักประกัน เช่น สิทธิเรียกร้องจากลูกหนี้ของ Non-Banks (พอร์ตลูกหนี้สถานะปกติ)เท่ากับวงเงินกู้ โดยจดทะเบียนหลักประกันตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันทางธุรกิจ พอร์ตลูกหนี้สถานะปกติ มูลค่าไม่ต่ำกว่าภาระหนี้หรือหลักประกันประเภทอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการพิจารณาสินเชื่อของธนาคารออมสินเห็นสมควร ในขณะที่การชำระคืนเงินกู้นั้น ให้ชำระดอกเบี้ยทุกสิ้นเดือนและชำระเงินต้นเมื่อครบระยะเวลาสิ้นสุดโครงการ
น.ส.ศศิกานต์ กล่าวว่า การดำเนินการมาตรการฯทั้ง 2 ส่วน ได้ผ่านการพิจารณาร่วมกันระหว่าง กระทรวงการคลัง ธนาคารออมสิน และธนาคารแห่งประเทศไทย แล้ว โดยยังคงอยู่ภายใต้หลักการและกรอบวงเงินงบประมาณเดิมที่ ครม.ได้มีมติเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2567 ที่ได้เห็นชอบการดำเนินมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย และผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
@ธปท.ขยายเวลาร่วม‘คุณสู้ เราช่วย’-ยอดล่าสุด 7.46 แสนบัญชี
วันเดียวกัน (11 ก.พ.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่เอกสารข่าวโดยมีเนื้อหาว่า ตามที่กระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับสถาบันการเงิน ได้ออกมาตรการชั่วคราวภายใต้ชื่อโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" (โครงการฯ) เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและ SMEs เฉพาะกลุ่มของธนาคารพาณิชย์ ผู้ประกอบธุรกิจ Non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เมื่อเดือน ธ.ค.2567 นั้น
ล่าสุด ณ วันที่ 10 ก.พ.2568 มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 746,912 บัญชีจากลูกหนี้ 642,030 ราย และยังพบว่ามีลูกหนี้ทยอยสมัครเข้าร่วมโครงการฯ อย่างต่อเนื่อง ธปท. จึงขยายระยะเวลาการสมัครเข้าโครงการฯ ถึงวันที่ 30 เม.ย.2568 จากเดิมที่สิ้นสุดวันที่ 28 ก.พ.2568 เพื่อเพิ่มโอกาสที่ลูกหนี้จะได้รับความช่วยเหลือและสามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติในระยะข้างหน้าเมื่อรายได้ฟื้นตัว
ธปท. ร่วมกับกระทรวงการคลัง ธนาคารออมสิน และผู้ประกอบธุรกิจ Non-bank อื่น ๆ ที่ไม่ได้เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยตามโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" เพิ่มเติม
โดยผู้ประกอบธุรกิจ Non-bank จำนวน 2 ราย ที่มีคุณสมบัติและผ่านการพิจารณา ได้แก่ (1) บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) และ (2) บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) นั้น จะได้รับการสนับสนุน Soft loan จากธนาคารออมสิน เพื่อลดต้นทุนในการส่งผ่านความช่วยเหลือไปยังลูกหนี้ และ Non-bank ทั้งสองรายนี้ จะร่วมสนับสนุนเม็ดเงินในการช่วยเหลือลูกหนี้ด้วย โดยการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ในส่วนของ Non-bank ประกอบด้วย 2 มาตรการ ดังนี้
มาตรการที่ 1 “ลดผ่อน ลดดอก” เป็นการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยด้วยการลดภาระค่างวดและภาระดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 ปี สำหรับ (1) สินเชื่อวงเงินผ่อนชำระ (installment loan) ได้แก่ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลและสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ (นาโนไฟแนนซ์) โดยให้ชำระค่างวดขั้นต่ำที่ 70% ของค่างวดเดิม
และ (2) สินเชื่อวงเงินหมุนเวียน (revolving credit) ได้แก่ สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันประเภทบัตรกดเงินสด โดยให้แปลงเป็นสินเชื่อแบบผ่อนชำระรายเดือน ชำระค่างวดไม่ต่ำกว่า 2% ของยอดคงค้างสินเชื่อก่อนทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ตามมาตรการ รวมทั้งลูกหนี้จะได้รับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 10% จากอัตราดอกเบี้ยตามสัญญาเดิม โดยต้องเป็นลูกหนี้สินเชื่อที่ทำสัญญาก่อนวันที่ 1 ม.ค.2567
โดยมีสถานะบัญชีและคุณสมบัติตามที่กำหนด รวมถึงต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของมาตรการ เช่น ลูกหนี้ต้องไม่ก่อหนี้เพื่ออุปโภคบริโภคเพิ่มในช่วง 12 เดือนแรกที่เข้าร่วมมาตรการ
มาตรการที่ 2 "จ่าย ปิด จบ" เป็นการช่วยลดภาระหนี้ให้แก่ลูกหนี้รายย่อยที่เป็นหนี้เสีย (สถานะ NPL) และมียอดคงค้างหนี้ไม่สูง (ไม่เกิน 5,000 บาท) ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรน โดยลูกหนี้จะชำระหนี้บางส่วนเพื่อให้สามารถปิดจบหนี้ได้เร็วขึ้น ทำให้ลูกหนี้สามารถเริ่มต้นใหม่ได้
ทั้งนี้ ลูกหนี้ของ Non-bank ทั้ง 2 รายข้างต้น ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการภายใต้โครงการ "คุณสู้ เราช่วย" สามารถศึกษารายละเอียดของมาตรการและสมัครเข้าร่วมได้ที่ https://www.bot.or.th/khunsoo ตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ. 2568 เวลา 8.30 น. ถึงวันที่ 30 เม.ย.2568 เวลา 23.59 น. หรือติดต่อสาขาของ Non-bank ที่เข้าร่วมมาตรการ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ BOT contact center ของ ธปท. โทร 1213 หรือ Call center ของผู้ประกอบธุรกิจ Non-bank ที่เข้าร่วมโครงการ




Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา