
สภาผู้บริโภค จี้ ประกันสังคม แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำบริการสุขภาพ ชี้ ผู้ประกันตน 24 ล้านคน ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายด้านบริการสุขภาพ 3 ต่อ แต่สิทธิด้อยกว่าระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า-สวัสดิการข้าราชการ ย้ำ 3 ข้อเสนอ ปฎิรูปประกันสังคม ยกเลิกจ่ายเงินสมทบบริการสุขภาพ-ใช้สิทธิบัตรทองแทน นำเงินสมทบเติมบำนาญชราภาพ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 เว็บไซต์สภาองค์กรของผู้บริโภคเผยแพร่ข่าวในหัวข้อ เสนอปฏิรูปประกันสังคม ปรับสิทธิให้เท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ โดยมีเนื้องหาระบุว่า
สภาผู้บริโภคจี้ประกันสังคม แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำบริการสุขภาพ ชี้ ผู้ประกันตนแบกรับค่าใช้จ่าย 3 ต่อ แต่สิทธิด้อยกว่า
จากกรณีประเด็นเรื่องประกันสังคมกับบริการสุขภาพที่ไม่เท่าเทียมสิทธิอื่น ที่ปรากฏชัดในหลายด้าน โดยเฉพาะสิทธิด้านทันตกรรมที่บัตรทองครอบคลุมทุกบริการรวมถึงการใส่ฟันเทียมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ประกันสังคมจำกัดเพียงการถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน และผ่าฟันคุด ภายใต้วงเงินเพียง 900 บาทต่อปี ซึ่งไม่เพียงพอต่อค่ารักษาจริง ส่วนการรักษาโรคมะเร็ง ผู้ใช้บัตรทองสามารถรักษาได้ฟรีทุกชนิดทั่วประเทศผ่านโครงการ Cancer Anywhere แต่ผู้ประกันตนถูกจำกัดการรักษาเพียง 20 ชนิด และเบิกค่ารักษาได้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อปี
รัฐธรรมนูญระบุชัด แต่สิทธิยังไม่เท่าเทียม
แม้รัฐธรรมนูญ มาตรา 27 ระบุว่าทุกคนต้องได้รับสิทธิอย่างเท่าเทียม แต่ผู้ประกันตนกว่า 24 ล้านคนกลับต้องจ่ายเงินสมทบเพื่อบริการสุขภาพถึง 3 ครั้ง ทั้งการจ่ายเงินสมทบรายเดือน จ่ายผ่านระบบภาษีของประเทศ และการจ่ายค่ารักษาส่วนเกินเมื่อสิทธิไม่ครอบคลุม ขณะที่ผู้ใช้สิทธิบัตรทองและสวัสดิการข้าราชการไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มแต่กลับได้รับสิทธิที่ครอบคลุมและเข้าถึงบริการได้ดีกว่า
ย้ำข้อเสนอ หยุดความเหลื่อมล้ำ
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการด้านบริการสุขภาพ สภาผู้บริโภค ขอย้ำข้อเสนอมาตรการปฏิรูปประกันสังคมต่อคณะกรรมการประกันสังคม
1.ขอให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ปรับปรุงพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดย
ปรับแก้มาตรา 8 เพื่อให้คณะกรรมการประกันสังคมมีผู้แทนองค์กรของผู้บริโภคที่เสนอชื่อโดยสภาผู้บริโภค เพื่อความหลากหลายและหลักธรรมาภิบาล
- ปรับแก้มาตรา 14 เพื่อเพิ่มสัดส่วนของผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน และผู้แทนองค์กรของผู้บริโภคที่เสนอชื่อโดยสภาผู้บริโภค ในคณะกรรมการการแพทย์
- ปรับแก้มาตรา 46 โดยเสนอให้ยกเลิกการจ่ายเงินสมทบในด้านบริการสุขภาพ และให้ผู้ประกันตนใช้สิทธิการรักษาในระบบหลักประกันสุขภาพแทน และนำเงินสมทบไปเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์ในด้านบำนาญชราภาพ
- ปรับแก้มาตรา 59 โดยเสนอให้ยกเลิกการสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลในทุกกรณี เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการรักษาพยาบาล
2.ขอให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) จัดให้มีกลไกปรับปรุงสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนแบบอัตโนมัติ หากระบบบริการสุขภาพอื่นมีการปรับปรุงสิทธิประโยชน์ พร้อมเร่งดำเนินการปรับปรุงสิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรมและการรักษาโรคมะเร็งให้ทัดเทียมกับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
3.ขอให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) พัฒนาการให้บริการสายด่วนรับเรื่องร้องเรียนหมายเลข 1560 โดยให้สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับความสะดวกและไม่ต้องร้องเรียนเพิ่มเติมในเขตพื้นที่ต่าง ๆ
นอกจากนี้ เสนอให้มีการควบคุมราคาค่ารักษาให้มีราคากลางที่เป็นธรรม ป้องกันการขึ้นราคาตามวงเงินสิทธิที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับประโยชน์จากการเพิ่มวงเงินอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม การทำให้บริการสุขภาพเป็นมาตรฐานเดียว เป็นเป้าหมายหลักของอนุบริการด้านสุขภาพ สภาผู้บริโภค เพื่อให้การบริหารจัดการเงินและบริการมีความเป็นมาตรฐานเดียว ลดความซับซ้อนและความเหลื่อมล้ำในระบบการสร้างความเท่าเทียมในระบบสุขภาพไทยต้องเริ่มเสียที
ชวนผู้ประกันตนแสดงความเห็น ผ่านแบบสอบถาม ในประเด็นสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตน 👉 https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSe1odB0KqSvkqUwrejdn4U2h9vBs-XlGaOqnkDyP69SAJPzWQ/viewform

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา