
‘ฉัตรวรรษ แสงเพชร’ สว. อภิปรายญัตติปัญหากระบวนการยุติธรรม-บังคับใช้กฎหมาย ซัด ‘ทวี-อธิบดีดีเอสไอ’ แถลงข่าว-รับเรื่องร้องเรียนรายวัน สร้างความชอบธรรม ‘คดีฮั้วเลือก สว.’ ล็อกเป้าหมาย ‘138 บวก 2’ ลั่น พร้อมรับแจ้งข้อกล่าวหา ถ้าพยานหลักฐานเพียงพอ-มีอำนาจ ผุด ชุดตัวเลขข้อมูลใหม่ ‘21 บวก 24’ สาวไส้ ‘ผู้นำทางการเปลี่ยนแปลง’ ปิดห้องประชุมลับ 400 ผู้สมัคร ลักษณะกระบวนการ-สมคบ ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน อำเภอ จังหวัด – ‘นันทนา’ ออกตัว ไม่เกี่ยวข้อง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 4 มีนาคม 2568 ที่รัฐสภา วุฒิสภามีการพิจารณาระเบียบวาระ เรื่องที่เสนอใหม่ ที่ 6.1 ญัตติ เรื่อง ขอเสนอญัตติให้วุฒิสภาพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย โดยนายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภาคนที่สาม ในฐานะประธานในที่ประชุม ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า จะเปิดให้สมาชิกลงชื่อไว้ 12-13 คน อภิปรายคนละ 10 นาที
อ่านประกอบ : 11 สว. ชง ญัตติอภิปราย ก.ยุติธรรม-DSI การเมืองแทรกแซง-ผู้ต้องขังบางคนได้รับสิทธิพิเศษ
พลตำรวจตรี ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. ผู้เสนอญัตติ อภิปรายเปิดญัตติว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และพันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้แถลงข่าวเป็นรายวัน เพื่อขอความชอบธรรมต่อสังคมที่จะดำเนินการสอบสวน จัดให้มีการรับเรื่องร้องเรียนเป็นรายวัน เพื่อให้เห็นว่า มีผู้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก เป็นวงกว้าง ทั่วประเทศ มุ่งหวังให้สังคมเห็นว่า การได้มาของ สว.ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม
“การกระทำดังกล่าวมีการล็อกเป้าหมายในการดำเนินคดี โดยอ้างว่า มี กลุ่ม สว.138 บวก 2 ซึ่งไม่ทราบว่าจะสามารถดำเนินคดีตามอำนาจหน้าที่ได้หรือไม่ จึงสงสัยว่า การสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอสามารถล็อกเป้ากลุ่ม สว. โดยแยกประเภทสีได้อย่างไร โดยเฉพาะมุ่งเน้นสีน้ำเงิน ซึ่งวันนี้ผมใส่เสื้อสีน้ำเงินมาอภิปราย พร้อมรับแจ้งข้อกล่าวหาจากอธิบดีดีเอสไอ พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ถ้าท่านมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่”พลตำรวจตรี ฉัตรวรรษกล่าว
พลตำรวจตรี ฉัตรวรรษกล่าวว่า ท่านประธานฯ เคยได้ยินหรือไม่ ศูนย์มีค่ามากกว่าหนึ่ง นักคณิตศาสตร์ระดับโลกยังคิดไม่ได้ แต่มีนักผู้นำทางการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของประเทศไทยสามารถที่จะคิดได้ ที่จะทำให้ ศูนย์มีค่ามากกว่าหนึ่ง และได้จำนวน สว.เข้ามาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ
“ซึ่งตรงนี้มีเพื่อน สว. ที่ได้ไปพักโรงแรมใกล้ๆ อิมแพคเมืองทองธานีได้พบเห็น มีการปิดห้องประชุมลับ มีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 400 คน มีการแจกจ่าย เอกสาร หมายเลข ที่จะให้มีการเลือก ซึ่งลักษณะเช่นนี้ อยากถามอธิบดีดีเอสไอท่านรู้หรือไม่ ท่านได้รับการร้องเรียนหรือไม่ ท่านพอจะมีข้อมูลทำการสืบสวน เป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ ผมเห็นว่า การดำเนินการในลักษณะเช่นนี้เป็นกระบวนการ สมคบกัน ร่วมกัน ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน อำเภอ จังหวัด เป็นระยะ ซึ่งหนสุดท้ายจากการดำเนินการก็ได้ตัวเลขออกมาที่น่าสนใจ คือ 21 บวก 24 คล้ายคลึงกับตัวเลข 138 บวก 2 เพราะฉะนั้น ผมขอฝากปัญหาว่า ตัวเลขสองชุดนี้ ท่านอธิบดีดีเอสไอสามารถที่จะสืบสวนสอบสวนตามที่ท่านกล่าวหา เป็นการฮั้ว อั้งยี่ ฟอกเงินหรือไม่”พลตำรวจตรี ฉัตรวรรษกล่าว
พลตำรวจตรีฉัตรวรรษกล่าวว่า ตนจึงคิดว่า การเลือกปฏิบัติและกระทำการนอกเหนืออำนาจหน้าที่ ซึ่งต้องมีความรับผิดชอบจากปฏิบัติหน้าที่หรือการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และการที่ดีเอสไอพยายามให้คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) รับเป็นคดีพิเศษเพื่อดำเนินการตามข้อกล่าวหาการฮั้วเลือก สว.อาจเป็นการก้าวก่าย เข้าข่ายการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งบุคคลธรรมดา อัยการ สามารถยื่นร้องต่อศาลเพื่อให้วินิจฉัยและออกคำสั่งยุติการกระทำดังกล่าวได้ และรัฐธรรมนูญตามมาตรา 116 อาจเข้าข่ายกรณียุยง ปลุกปั่น ให้กระทำการเกิดความปั่นป่วน หรือกระด่างกระเดื่องในหมู่ประชาชน โดยมีเจตนาเปลี่ยนแปลงกฎหมายของแผ่นดิน หรือทำให้เกิดความไม่สงบในราชอาณาจักร
พลตำรวตรีฉัตรวรรษกล่าวว่า จึงสมควรที่วุฒิสภาจะได้อภิปราย ระดมความคิดเห็น เพื่อพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย ของรมว.ยุติธรรม และอธิบดีดีเอสไอ และเสนอไปยังรัฐบาลและส่งข้อสังเกตไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อดำเนินการต่อไป
ด้านนางนันทนา นันทวโรภาส สว.ผู้ร่วมอภิปรายญัตติ กล่าวว่า เมื่อได้ฟังพลตำรวจตรีฉัตรวรรษ ผู้เสนอญัตติ อภิปรายเปิดญัตติแล้ว ดูเหมือนจะมีแรงจูงใจทางการเมือง ซึ่งไม่ตรงกับญัตติที่ตนจะอภิปราย
“เพราะดิฉันไม่ใช่สีน้ำเงิน และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ท่านได้พูดมาแต่อย่างใด”นางนันทนากล่าว
รายงานข่าวเพิ่มเติมผลการพิจารณาว่า ที่ประชุมมีมติให้ส่งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะที่สำคัญเกี่ยวกับปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย ไปยังคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการต่อไป และมีมติมอบหมายให้คณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบและการเสริมสร้างธรรมาภิบาล นำประเด็นปัญหาดังกล่าวไปพิจารณาศึกษาเพิ่มเติม แล้วให้นำเสนอผลการพิจารณาศึกษาต่อที่ประชุมวุฒิสภาในโอกาสต่อไป
โดยพลตำรวจตรี ฉัตรวรรษอภิปรายสรุปว่า หรืออาจจะมีการขอเปิดอภิปรายทั่วไปพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กรณีผิดมาตรฐานจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างร้ายแรงและยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่งในโอกาสต่อไป และพิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ของพันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ เป็นการทุจริตและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา