
รวบอดีต ปธน.ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์ หลังเจ้าตัวถูกศาลอาญาระหว่างประเทศออกหมายจับคดีอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ เหตุสังหารหมู่ 6 พันศพ ช่วงประกาศสงครามยาเสพติด เผยก่อนหน้าโดนจับเจ้าตัวประกาศลั่นที่ฮ่องกงพร้อมให้โดนจับ ย้ำไม่เคยสั่งตำรวจสังหารผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าววันที่ 11 มี.ค. โดยอ้างสำนักข่าวรอยเตอร์สระบุว่า นายโรดริโก ดูเตอร์เต (Rodrigo Duterte) อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ถูกจับกุมเมื่อเดินทางจากฮ่องกงกลับถึงฟิลิปปินส์ โดยถูกจับที่ที่สนามบินในกรุงมะนิลาเป็นการจับกุมตามหมายจับของตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) ที่ร้องขอโดยศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ในข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ จากนโยบายสงครามยาเสพติดที่นายดูเตอร์เตดำเนินการในช่วงที่มีอำนาจปกครองประเทศ
ก่อนหน้านี้ในวันที่ 10 มี.ค. 2568 ซึ่งอดีตผู้นำฟิลิปปินส์ยังอยู่ที่ฮ่องกง ได้กล่าวว่า ตนพร้อมจะถูกจับกุมหาก ICC ออกหมายจับ และย้ำจุดยืนเรื่องการใช้นโยบายสงครามยาเสพติด พร้อมกับปฏิเสธว่าไม่ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสังหารผู้ต้องสงสัยในคดียาเสพติด เว้นแต่เป็นเหตุป้องกันตัว ขณะที่สำนักงานของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์คนปัจจุบัน เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ (Ferdinand Marcos Jr) แจ้งว่าตำรวจนำหมายจับเข้าควบคุมตัวดูเตอร์เตแล้ว ด้าน ซัลวาดอร์ ปาเนโล (Salvador Panelo) อดีตที่ปรึกษากฎหมายของดูเตอร์เต ออกมาตอบโต้ว่าการจับกุมดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย และตำรวจยังไม่อนุญาตให้ทนายความในทีมของตนได้พบกับอดีตผู้นำฟิลิปปินส์
ย้อนไปในปี 2562 ขณะที่ยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี นายดูเตอร์เตได้นำฟิลิปปินส์ออกจากการยอมรับอำนาจของ ICC เมื่อเริ่มมีการสอบสวนข้อกล่าวหาการสังหารนอกกระบวนการยุติธรรมอย่างเป็นระบบ และจนถึงปี 2567 ฟิลิปปินส์ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับการสอบสวนของ ICC ซึ่งการประกาศสงครามกับยาเสพติด เป็นนโยบายที่ดูเตอร์เตนำมาหาเสียงและทำให้คว้าเก้าอี้ผู้นำฟิลิปปินส์มาครองในปี 2559 ในฐานะผู้นำที่จะไม่ประนีประนอมกับอาชญากรรม ซึ่งทำตามสัญญาที่ให้ไว้ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่รุนแรงว่าจะสังหารผู้ค้ายาเสพติดหลายพันคน
ตามรายงานของตำรวจ มีผู้ต้องสงสัย 6,200 คนถูกสังหารระหว่างปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งตำรวจชี้แจงว่าเป็นการวิสามัญฆาตกรรมเนื่องจากคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ แต่กลุ่มนักเคลื่อนไหวกล่าวว่าความเสียหายที่แท้จริงจากการปราบปรามนั้นมากกว่านั้นมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้เสพหลายพันคนที่อยู่ในชุมชนแออัด หลายคนถูกขึ้น “บัญชีเฝ้าระวัง” อย่างเป็นทางการ เสียชีวิตในสถานการณ์ลึกลับ แต่ตำรวจปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับการสังหารดังกล่าวและปฏิเสธข้อกล่าวหาของกลุ่มสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับการสังหารและการปิดบังข้อมูลอย่างเป็นระบบ

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา