
2 พรรคการเมืองใหญ่ ‘ภูมิใจไทย - ประชาธิปัตย์’ ครบรอบวันก่อตั้ง 6 เม.ย. ‘ อนุทิน’ แอ่นอกรับเป็นพรรคสีน้ำเงิน ชี้เป็นคำชม ขณะที่ ‘เฉลิมชัย’ บอกลูกพรรคสีฟ้า เตรียมนำประชาธิปัตย์สู่ทศวรรษที่ 8 แปรคำสบประมาทเป็นพลัง ขีดเส้นร่วมรัฐบาลต้องไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น พร้อมลบคราบพรรคไดโนเสาร์
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 6 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากจะเป็นวันจักรีแล้ว ยังเป็นวันครบรอบก่อตั้ง 2 พรรคการเมืองใหญ่ ได้แก่ พรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์
@ภูมิใจไทย: ยินดีเป็นพรรคสีน้ำเงิน
โดยที่ด้านหน้าอาคารพรรคภูมิใจไทย กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้นำรัฐมนตรี ผู้บริหาร และ สส.ของพรรค ร่วมพิธีเปลี่ยนโลโก้ใหม่ของพรรค ซึ่งติดอยู่บริเวณหน้าอาคาร โดยเป็นรูปร่างโลโก้เดิม แต่ตัดสีอื่นออก ให้เหลือเพียงสีน้ำเงิน
นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยเป็นสถาบันทางการเมือง ที่มีอายุครบ 16 ปี ในวันนี้ ผ่านร้อน ผ่านหนาวทางการเมืองมามาก เป็นทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และต้องเว้นวรรคทางการเมือง กระนั้น เรายังมุ่งมั่นทำงาน รับใช้พี่น้องปราชนไม่มีสะดุด ถึงจะไม่มีตำแหน่ง แต่ไม่เคยหยุดทำงาน เราทุกคนมี หน้าที่ เพราะเราอาสามาทำงานการเมืองเพื่อพี่น้องประชาชน ทุกลมหายใจของเรา คือ สำนึกในบุญคุณของประชาชน ตระหนักในความเดือดร้อนของประชาชน และ ทุกวันเวลาของเรา คือ ความตั้งใจจะทำงานเพื่อตอบแทนพี่น้องประชาชน จำนวน สส. ที่เพิ่มขึ้น คือ คำตอบว่า การทำงานของพรรคภูมิใจไทย เป็นเครื่องพิสูจน์ ถึงสิ่งที่ประชาชนมอบให้การทำงานหนักของพรรคภูมิใจไทย
ทั้งนี้ ไม่ว่าการเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปเพียงใด แต่พรรคภูมิใจไทย ไม่เคยเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ยึดมั่น เป็นอุดมการณ์สูงสุด เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจคนภูมิใจไทย ไว้ได้ ก็คือ ความจงรักภักดีต่อสถาบันสำคัญของชาติ ซึ่งมีความมั่นคงสถาพร
“พรรคภูมิใจไทย ยึดแนวทางนี้มาอย่างยาวนาน จนกระทั่งถูกเรียกว่า เป็นพรรคสีน้ำเงิน ซึ่งเราถือว่าเป็นการให้เกียรติต่อพรรคภูมิใจไทย และเป็นการแสดงให้เห็นว่าพี่น้องประชาชน สื่อมวลชน ยอมรับ และสัมผัสได้ ถึงอุดมการณ์ของพรรคภูมิใจไทย และจิตวิญญาณของสมาชิกพรรคภูมิใจไทย” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า สีน้ำเงิน หมายถึง ความสงบ ความสันติ และ ความสามัคคี สีน้ำเงิน หมายถึง ความเข้มแข็ง ความมั่นคง ความหนักแน่น และความเป็นปึกแผ่น สีน้ำเงิน หมายถึง ความมีสติ ความมีเหตุผล ความสุขุม นุ่มลึก ไร้ ริษยา ความเยือกเย็น และความอบอุ่น สีน้ำเงิน คือ สีบนธงชาติไทย และเป็นสัญลักษณ์ของสถาบันพระมหากษัตริย์ ความหมายของสีน้ำเงิน ถูกต้องตรงกับบุคลิกลักษณะ และอุดมการณ์ของพรรคภูมิใจไทย ทุกประการ
"เราชักเจน ในจุดยืนของเรา แต่เราจะไม่นำความเป็นพรรคสีน้ำเงิน ไปแบ่งแยกพี่น้องประชาชน หรือ ก่อให้เกิดความแตกแยก หรือ สร้างสงครามสีเสื้อ สร้างความบอบช้ำ สูญเสียให้แก่พี่น้องประชาชน ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ความเป็นพรรคสีน้ำเงิน ของพรรคภูมิใจไทย จะเป็นสถาบันทางการเมืองที่เป็นหลักให้กับการเมืองไทย ก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยความมั่นคง เข้มแข็ง ด้วยความสงบ สันติ สามัคคี สร้างความเป็นปึกแผ่นให้แก่ประเทศไทย และธำรงรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ตลอดไป" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวอีกตอน

@ประชาธิปัตย์: ก้าวสู่ทศวรรษที่ 8 ลบคำสบประมาทเป็นพลัง
ขณะเดียวกัน ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ขึ้นเวทีพบปะสมาชิกพรรคที่มาร่วมงานจำนวนมาก ในโอกาสครบรอบ 79 ปี ภายใต้แนวคิด “ก้าวต่อไปสู่ทศวรรษที่ 8” โดยกล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2489 วันที่ตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีพัฒนาการต่างๆ มาเป็นระยะ มาจนกระทั่งผมมาเป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 9 ประชาธิปัตย์ครบ 79 ปีบริบูรณ์ และตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เราจะก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 8 ร่วมกัน ตั้งใจจะพูดถึงแนวทางการทำงานของพรรคฯ ในวันประชุมใหญ่ของพรรคฯ วันที่ 26 เมษายน 2568 โดยตั้งใจจะพูดถึงการที่ผมมาพร้อมกับกรรมการบริหารทุกคนจะพาพรรคเดินไปแบบใด
“การที่หลายๆ คนกำลังมองว่า ผมจะทำพรรครอดหรือไม่ นี่คือโจทย์ที่ท้าทายที่สุดของผม เป็นทั้งแรงกำลังใจที่ผมจะต้องนำความสบประมาทมาเป็นพลังในการขับเคลื่อนพรรคประชาธิปัตย์ให้ได้ และยืนยันว่าไม่ว่าวันนี้หรือวันไหนประชาธิปัตย์ไม่เคยผิดหลักการและอุดมการณ์ตั้งแต่วันแรกที่ตั้งพรรค ซื่อสัตย์สุจริต ยึดมั่นการปกครองในประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ คือหัวใจของการเมืองไทย หัวใจของประเทศไทย” นายเฉลิมชัยกล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไร ไม่ว่าจะรู้จักประชาธิปัตย์มากหรือน้อย จะรักหรืออยากทำลายประชาธิปัตย์ก็แล้วแต่ แต่ประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของตน ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงหลักการและอุดมการณ์อย่างเด็ดขาด ผมขอขอบคุณพี่น้องชาวประชาธิปัตย์ทุกคนที่ยังเชื่อมั่นในพรรคฯ ดังนั้นกรรมการบริหารพรรค และ สส. ของพรรคจะไม่ทำให้ผิดหวัง สิ่งหนึ่งที่ติดตัวอยู่ในไขสันหลัง ไม่ใช่เลือดแต่มากกว่านั้น ตนจะไม่มีวันเนรคุณพี่น้องประชาชน และประเทศชาติอย่างเด็ดขาด ประชาธิปัตย์จะเดินหน้าไปข้างหน้าได้ด้วยเอกภาพของพวกเราทุกคน ให้เทวดาคนใดคนหนึ่งมาคนเดียวก็ทำไม่ได้หรอก สิ่งที่ได้ทำมาในรอบปีก็คือการสร้างความเป็นเอกภาพภายในพรรค ประชาธิปัตย์กำลังเดินไปข้างหน้า อาจจะไม่ได้วิ่ง อาจจะไม่ได้ปีนภูเขา แต่เราค่อยๆ ขึ้นเนินไปเรื่อยๆ และเมื่อมั่นใจว่าประชาธิปัตย์เราตั้งมั่นได้แล้ว ก็จะพาประชาธิปัตย์ลุยเพื่อเข้าสู่การเลือกตั้ง และเป็นพรรคเดียวที่มีตัวแทนจังหวัดพร้อมส่งผู้แทนทั้ง 77 จังหวัด เพราะรากฐานเดิมของประชาธิปัตย์คือสมาชิกพรรค สาขาพรรค ตัวแทนพรรค เราได้ดำเนินการมาประมาณ 6 เดือน ด้วยกันเดินอย่างมั่นคง ไม่ได้เดินแบบฉาบฉวย ไม่มีนักการเมืองคนไหนในประชาธิปัตย์เห็นด้วยกับการซื้อเสียง วันนี้นครศรีธรรมราช เขต 8 บอกกับพี่ชินวรณ์ บุณยเกียรติ (ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ฯ หมายเลข 2) ว่า ให้ประกาศตั้งแต่วันแรกว่า ประชาธิปัตย์จะไม่ซื้อเสียง คนที่ต้องการประชาธิปไตยไม่เห็นมาเชียร์เลยสักนิด ทั้งที่ยืนในหลักการที่ถูกต้อง
“ถามว่าผมมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เชื่อมั่นเชื่อถือได้แค่ไหน ท่านทราบมั้ยว่า ผมเป็น สส. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 4 สมัย เป็นคนที่ในทางการเมืองบอกว่าสอบตกยากที่สุด เปอร์เซ็นต์สอบตกเป็นศูนย์ ผมยึดมั่นในความเป็นประชาธิปัตย์ ยึดมั่นในความเป็นประชาธิปไตยสุจริต ชีวิตผมไม่เคยซื้อเสียงเลย ไม่เคยซื้อเสียงเลยแม้แต่เสียงเดียว และวันที่ผมแพ้ คนถามผมว่าทำไมไม่ซื้อ ผมบอกว่าขอให้ผมเป็นนักการเมืองในความตั้งใจของผมสักคนได้มั้ย การเลือกตั้งปี 2562 ผมแพ้ไป 106 เสียง ผมไม่ขอนับคะแนนใหม่ แต่ผมภูมิใจว่าชีวิตทางการเมืองของผมไม่เคยซื้อเสียง คนที่บอกว่าอย่าซื้อเสียง ไม่เคยให้กำลังใจผมด้วยซ้ำ แต่ผมก็ยังยึดมั่นอย่างนั้น เพราะชีวิตผมอยากบันทึกไว้ว่า ผมไม่เคยซื้อเสียง เพราะผมจะไม่ลง สส. เขตอีกแล้ว แล้วมันก็จะเป็นประวัติกับตัวเองว่า ชีวิตทางการเมืองของผมทั้งชีวิตไม่ซื้อเสียง ถ้าบอกว่าการเมืองต้องสุจริต ต้องไม่มีการซื้อเสียง ไม่มีอามิสสินจ้าง ก็มาช่วยกัน มาช่วยประชาธิปัตย์วันนี้ มาช่วยผมมาช่วยพวกเราทุกคน ผมจะทำการเมืองสุจริตคนเดียวได้อย่างไร ถ้าผมไม่มีพี่น้องประชาชนไม่มีสมาชิกพรรคคอยเป็นกำลังใจให้ผม คอยอยู่ข้างหลังผม” นายเฉลิมชัยกล่าวอีกครั้ง
@ขีดเงื่อนไขร่วมรัฐบาล ต้องไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวกับสมาชิกพรรคว่า ต้องการนำพรรคประชาธิปัตย์ก้าวสู่ทศวรรษที่ 8 ด้วยศักดิ์ศรี ด้วยการเป็นพรรคการเมืองที่มีหลักการและอุดมการณ์ที่ชัดเจน มั่นใจว่าประชาธิปัตย์เกลียดการทุจริต เพราะฉะนั้น วันที่ประชาธิปัตย์ไปเป็นรัฐบาล เงื่อนไขอย่างหนึ่งคือจะต้องไม่มีการทุจริต ถ้ามีการทุจริตและไม่มีการดำเนินการประชาธิปัตย์ก็ร่วมไม่ได้ การตัดสินใจทางการเมืองในความเป็นนักการเมืองมีได้ 2 อย่าง 1. เป็นฝ่ายค้าน 2. เป็นรัฐบาล มีพรรคการเมืองไหนบอกว่าเป็นกลางๆ ยังไม่เคยเห็น และก็ไม่เคยเห็นพรรคการเมืองไหนที่ตั้งพรรคมาแล้วบอกว่า จะขอเป็นฝ่ายค้านทั้งชีวิต ชาวบ้านคงไม่เลือกหรอก เพราะจะเลือกไปทำไม ในเมื่อไปแก้ปัญหาให้ประชาชนไม่ได้ แต่การไปร่วมรัฐบาลจะต้องมีเหตุและผล จะต้องมีการพิจารณาว่าสถานการณ์นั้นเหมาะสมหรือไม่ เพราะฉะนั้นการตัดสินใจของประชาธิปัตย์ทุกครั้งเป็นการตัดสินใจโดยรวมเพื่อพรรคเป็นหลัก หากต้องการเห็นประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้า เป็นพรรคการเมืองที่มีคุณภาพ มีหลักการและอุดมการณ์กลับมาอีกครั้ง ขอให้ช่วยกันบอกพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ มาช่วยกันบอกพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ขอ สส.กรุงเทพฯ กลับคืนมา
“ผมจะนำพาพรรคไปในทิศทางที่ถูกต้องในสิ่งที่ดีที่สุด ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่านด้วยความเคารพรักขอบคุณ ขอบคุณท่านที่มาร่วมงาน ในขณะที่ทุกคนบอกว่าประชาธิปัตย์จะสูญพันธุ์ไม่มีใครเอาประชาธิปัตย์ แต่หลายท่านยังกล้าเดินมาเคียงคู่กับพวกเรา ขอให้ทราบว่าวันนี้ประชาธิปัตย์กำลังเปลี่ยน วันนี้พื้นที่ที่จะให้คนรุ่นใหม่มีที่ยืนในประชาธิปัตย์มากขึ้นวันนี้ทุกคนจะไม่มีสิทธิ์มาเรียกประชาธิปัตย์ว่าไดโนเสาร์อย่างเด็ดขาด” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวจบ
พร้อมกันนี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังได้กล่าวเชิญชวนสมาชิกพรรค ได้เข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญของพรรค ในวันที่ 26 เมษายน 2568 นี้ ซึ่งจะได้มีการเปิดเผยถึงแนวทางการทำงาน ตลอดจนทิศทางของพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป



Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา