
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เผย เร่งสอบสวน 4 กก.บริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ ผู้ต้องหาคดีนอมินี คาดไม่เกิน 3 ผัด ระบุ ช่วยเหลือเงินเยียวยา 120 ล้านบาท ตึก สตง.แห่งใหม่ ถล่ม ไม่เกี่ยวกับคดีอาญา ลั่น รัฐบาลจีนแทรกแซงไม่ได้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 22 เมษายน 2568 ที่ทำเนียบรับบาล พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจจีนอนุมัติเงิน 120 ล้านบาท เพื่อเยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ จากเหตุตึกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตง.) แห่งใหม่ ถล่ม เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 โดยจะประสานผ่านทางกระทรวงยุติธรรม ว่า เป็นข้อมูลจากพนักงานสอบสวนในชั้นคำให้การ ไม่เกี่ยวกับคดีอาญา ซึ่งก็ว่าไปตามกฏหมาย แต่เกี่ยวกับเรื่องมนุษยธรรมและความเสียหาย ซึ่งมีปรากฏไว้ในคำให้การ ว่าทางบริษัทจีนมีเจตนาช่วยเหลือผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ รวมถึงผู้เกี่ยวข้อง ส่วนขั้นตอนกฎหมายถ้าเขาประสงค์จะช่วยเหลือ ก็อาจจะทำร่วมกับ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ได้ จะได้ไม่เป็นภาระกับรัฐบาล แต่ถ้าต้องการให้ฝ่ายรัฐเข้าไปดูแลก็ต้องไปดูระเบียบสำนักงานนายกรัฐมนตรี หากรับเงินมาแล้วจะช่วยเหลืออย่างไร
พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ได้รับการประสานจากจีน เพียงแต่พนักงานสอบสวนขอบันทึกไว้ในคำให้การของผู้ต้องหา พร้อมยืนยันว่าเงินเยียวยาจะไม่มีผลในเรื่องการลดโทษ แต่เป็นเรื่องที่น่ายกย่องชื่นชม และรัฐบาลจีนคงได้มาปกป้องบริษัท แต่เขาก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเรื่องนี้ด้วย เพราะเสียภาพลักษณ์ของประเทศจีน อีกทั้งทราบว่ารัฐบาลจีนได้ส่งผู้เชี่ยวชาญมาร่วมตรวจสอบคนของเขาว่าทำถูกกฎหมายหรือไม่ รวมถึงสาเหตุของตึกถล่ม
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายชวนหลิง จาง กรรมการบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลจีนส่งมาลงทุนในไทย จะส่งผลอะไรหรือไม่ พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับกฎหมายไทย กฎหมายของดีเอสไอกรณีถือหุ้นแทนตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจของบุคลต่างด้าว พ.ศ. 2542 มาตรา 37 มาตรา 41 ในข้อหานอมินี เราได้ผู้กระทำผิดที่เรากล่าวหาครบแล้ว โดยมีคนไทย 3 คน และคนจีน 1 คน คดีนี้เนื่องจากอัตราโทษไม่สูง แต่ต้องเร่งสอบสวนให้เสร็จภายใน 4 ผัด (ผัดละ 12 วัน) ซึ่งในทางปฏิบัติ ควรจะเสร็จภายใน 3 ผัด เพื่อให้เวลาอัยการพิจารณาอีก 1 ผัด
เมื่อถามว่า 3 คนไทยที่เข้ามามอบตัว ถือว่าเป็นนอมินีชัดเจนแล้วหรือไม่ พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า ตามหลักยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยก่อนออกหมายจับได้มีการตรวจสอบทุกประเด็นแล้ว แม้จะเป็นผู้ถือหุ้นก็จริง แต่ต้องดูที่มาของเงิน นอกจากนี้ยังมีการโอนหุ้นด้วย ก็ต้องมีการตรวจสอบสถานะทางภาษีด้วย
เมื่อถามว่า การกล่าวอ้างถึงรัฐบาลจีน จะไม่สร้างความกดดันให้เจ้าหน้าที่ไทยใช่หรือไม่ พันตำรวจเอก ทวี บอกว่า ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลจีนหรือคนไทย ก็ต้องอำนวยความยุติธรรม อีกทั้งรัฐบาลจีนพูดอยู่เสมอว่าเคารพกฎหมายไทย
เมื่อถามว่า มั่นใจว่ารัฐบาลจีนจะไม่เข้ามาแทรกแซงคดีใช่หรือไม่ พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า น่าจะแทรกแซงไม่ได้ เพราะเรายึดตามกฏหมาย และกระทรวงยุติธรรมเป็นกระทรวงเดียวที่ไม่มีอำนาจไปทำตามนโยบาย แต่เราทำภายใต้กรอบกฎหมาย
พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า ส่วนการค้นหาสาเหตุตึกถล่ม ดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งทำคดีแยกออกจากกัน ระหว่างคดีตึกถล่ม และการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 7 หรือ ข้อหาฮั้วประมูล กับ คดีนอมินี
พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีคดีที่เกี่ยวเนื่อง คือ บริษัทเหล็ก ใช้ใบกำกับภาษีปลอม ซึ่งเกิดเหตุช่วงปี 59-60 ก็ต้องดูว่าหลังจากปี 60 มีการซื้อเหล็กจากบริษัทนี้หรือไม่ โดยเรื่องนี้ศาลฎีกาได้ตัดสินให้เป็นแนวทางไปแล้ว จึงได้กำชับพนักงานสอบสวน ทำงานให้รอบคอบ

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา