ศาลเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.นนทบุรี เคยจำคุกคดีหมิ่นประมาท

nontaburi 010525 main

ศาลฎีกาฯพิพากษาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี ‘สุรภณ สีน้ำอ้อม’ ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอเมือง จ.นนทบุรี ตามคำร้อง กกต. มีประวัติถูกจำคุกคดีหมิ่นประมาท พ้นโทษไม่ถึง 10 ปี กรอกเอกสารใบรับรองไม่มีคุณสมบัติต้องห้าม ถือกระทำการไม่สุจริตเที่ยงธรรม

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายสุรภณ สีน้ำอ้อม ผู้คัดค้าน เป็นระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษาเนื่องจาก ผู้คัดค้านสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา กลุ่มที่ 17 ต่อผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ อำเภอเมืองนนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี และเป็นผู้ได้รับเลือกในระดับอำเภอ ต่อมาผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัด จังหวัดนนทบุรี ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาของผู้คัดค้านแล้ว พบว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกในความผิดที่มีใช่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษและได้พ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปีนับถึงวันเลือกในระดับอำเภอ ผู้คัดค้านจึงมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา จึงลบชื่อผู้คัดค้านออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัด การผู้คัดค้าน ยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยรับรองในบันทึกการให้ถ้อยคำของผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.2) ว่า ไม่มีลักษณะต้องห้ามใด ๆ ตามกฎหมาย่อมถือได้ว่าผู้คัดค้านกระทำการเพื่อให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 20 วรรคสาม อันเป็นเหตุให้ต้องเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้าน คำพิพากษามีรายละเอียดดังนี้

@เปิดรายละเอียดคำพิพากษา

คำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ ลต สว 348/2567 คดีหมายเลขแดงที่ ลต สว 13/2568 ศาลฎีกา วันที่ 28 เดือน กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2568 ความคดีเลือกตั้ง ระหว่าง คณะกรรมการการเลือกตั้ง นายสุรภณ สีน้ำอ้อมเรื่อง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง)

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า สืบเนื่องมาจากมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 ให้ไว้ ณ วันที่ 24 เมษายน 2567 และผู้ร้องได้มีประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 เรื่อง กำหนดวันเลือกและวันรับสมัครรับเลือก สมาชิกวุฒิสภากำหนดวันเลือกระดับอำเภอ วันที่ 9 มิถุนายน 2567 วันเลือกระดับจังหวัดวันที่ 16 มิถุนายน 2567 และวันเลือกระดับประเทศ วันที่ 26 มิถุนายน 2567

@พบประวัติจำคุกคดีหมิ่นประมาท-พ้นโทษยังไม่ถึงสิบปี

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 ผู้คัดค้านสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา กลุ่มที่ 17 ต่อผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ อำเภอเมืองนนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี และเป็นผู้ได้รับเลือกในระดับอำเภอ ต่อมาผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัด จังหวัดนนทบุรี ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาของผู้คัดค้านแล้ว พบว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกในความผิดที่มีใช่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษและได้พ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปีนับถึงวันเลือกในระดับอำเภอ เข้าลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย จึงลบชื่อผู้คัดค้านออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัด

ผู้ร้องทำการไต่สวนแล้วได้ความดังกล่าวจริง ผู้คัดค้านจึงเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 14 (9) การที่ผู้คัดค้านซึ่งมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกของตนให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ลงลายมือมือชื่อในใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยรับรองว่าตนเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ตามรัฐธธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 โดยรู้อยู่แล้ว ว่าตนเคยได้รับโทษจำคุกในความผิดฐานหมิ่นประมาทซึ่งมิใช่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ และได้พ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปีนับถึงวันเลือกในระดับอำเภอ เข้าลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา กรณีจึงถือว่าผู้คัดค้านกระทำการเพื่อให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม และรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกไม่ว่าเพราะเหตุผลใดได้สมัครรับเลือกอันเป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 14 (9) มาตรา 20 วรรคสาม และมาตรา 74 ขอให้มีคำเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้าน ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 226 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.ศ. 2561 มาตรา 20 วรรคสี่

ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้าน แต่วันนัดไต่สวนผู้คัดค้านยื่นคำร้องของขอถอนคำคัดค้าน ศาลอนุญาต

@ข้อเท็จจริงชัดต้องคดีจำคุกศาลจังหวัดนนทบุรี-พ้นโทษ เปลี่ยนชื่อ

ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งไต่สวนและตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริง เบื้องต้นรับฟังได้ว่า ผู้คัดค้านยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาต่อผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนนทบุรี เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 ต่อมาวันที่ 9 มิถุนายน 2567 ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนนทบุรี ประกาศรายชื่อผู้คัดค้านเป็นผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอ กลุ่มที่ 17 ต่อมาวันที่ 10 มิถุนายน 2567 ผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัด จังหวัดนนทบุรี ประกาศรายชื่อผู้คัดค้านเป็นผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัด กลุ่มที่ 17 ครั้นวันที่ 13 มิถุนายน 2567 ผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัด จังหวัดนนทบุรี แจ้งการลบชื่อผู้คัดค้านออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัด เนื่องจากตรวจสอบพบว่าผู้คัดค้านมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 14 (9)

ผู้ร้องทำการไต่สวนแล้วได้ความว่า ผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดนนทบุรี คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1951/2558 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทซึ่งมีใช่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษและพ้นโทษโดยได้รับการปล่อยตัวตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2559 ตามหนังสือของเรือนจำจังหวัดนนทบุรีเลขที่ 465/2559 ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2559 เอกสารหมาย ร.1 ลำดับ 13 หน้าที่ 42 ต่อมาเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2561 ผู้คัดค้านได้เปลี่ยนชื่อจากนายไพวรรณ์ สีน้ำอ้อม เป็นชื่อนายสุรภณ สีน้ำอ้อม

@กรอกข้อมูล ไม่มีคุณสมบัติต้องห้าม ถือกระทำเพื่อให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม

คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ผู้คัดค้านมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาพ.ศ. 2561 มาตรา 14 (9) อันจะถือว่าผู้คัดค้านกระทำการเพื่อให้การเลือกมิได้เป็นไปไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม เป็นเหตุให้ศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้าน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 20 วรรคสี่ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 226 หรือไม่

เห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ความจากพยานผู้ร้องปากนายสุจินต์ กระเช้าเพ็ชร์ ประธานกรรมการสืบสวนและไต่สวนคดีนี้ ซึ่งเบิกความประกอบสำนวนการไต่สวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด จังหวัดนนทบุรี เอกสารหมาย ร.1 ลำดับ 1 ถึงลำดับ 25 ว่า ผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาในความผิดฐานหมิ่นประมาท ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1951/2558 ของศาลจังหวัดนทบุรี ซึ่งมิใช่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ และพ้นโทษโดยได้รับการปล่อยตัว เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2559 ส่วนผู้คัดค้านได้ถอนคำคัดค้านและมิได้นำพยานหลักฐานมาไต่สวนให้เห็นเป็นอย่างอื่น ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่า ผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกในความผิดซึ่งมีใช่กระทำลงโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ และได้พ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปีนับถึงวันเลือกในระดับอำเภอ ผู้คัดค้านจึงมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 14 (4) การที่ผู้คัดค้านซึ่งมีลักษณะต้องห้ามยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยรับรองในบันทึกการให้ถ้อยคำของผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.2) เอกสารหมาย ร.1 ลำดับ 6 หน้าที่ 11 และที่ 12 ว่า ไม่มีลักษณะต้องห้ามใด ๆ ตามกฎหมาย่อมถือได้ว่าผู้คัดค้านกระทำการเพื่อให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 20 วรรคสาม อันเป็นเหตุให้ต้องเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้านตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 20 วรรคสี่ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 226

พิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายสุรภณ สีน้ำอ้อม ผู้คัดค้าน เป็นระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา.

nontaburi 010525 pic1